เซ็นต์ส คัมแบ็กไม่ไหวส่ง แบร์ส เข้าชิงซูเปอร์โบว์ล

"บุกไปพ่าย"


เหล่า นักบุญ นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส สร้างปาฏิหาริย์คัมแบ็กไม่ไหวบุกไปพ่ายให้แก่ พญาหมี ชิคาโก้ แบร์ส 14-39 คะแนน พร้อมกับส่งทีมอันดับ 1 ของฝั่ง NFC ผ่านเข้าสู่ ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 41 ที่ไมอามี

ที่ชิคาโก้ : นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ทีม (อเมริกัน) ฟุตบอลที่ได้รับกำลังใจเชียร์จากแฟนๆ คนชนคนมากมายจากทั่วโลก สร้างประวัติศาสตร์ไม่สำเร็จเมื่อบุกไปโดน พญาหมี ชิคาโก้ แบร์ส เปิดรังไล่ตะปบขาดวิ่น 39-14 คะแนน

"ปีหลังสร้างผลงานยอดเยี่ยม"


เซ็นต์ส กลายเป็นเฟรนไชส์ (อเมริกัน) ฟุตบอล ที่ได้รับความเห็นใจจากมวลมนุษยชาติ หลังจาก แคทรีนา เฮอร์ริเคนมหาภัยพัดเข้าถล่มรัฐหลุยส์เซียนา , อลาบามา และมิสซิสซิปปี เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2005 ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากมาย และนั่นก็ทำให้ นักบุญ ไม่สามารถใช้ ซูเปอร์โดม สังเวียนเหย้าได้ตลอดฤดูกาล 2005/06 ทำให้สถิติชนะแค่ 3 แพ้ 13 เกม

แต่หนึ่งปีให้หลัง ชอน เพย์ตัน หัวหน้าโค้ชดีกรีโค้ชแห่งปี 2006 พา นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส กลับมาทำผลงาน 10-6 เกม ในฤดูกาลปกติ ได้บายรอบแรกก่อนจะเปิดบ้านสยบ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ในรอบดิวิชั่นนัล เพลย์ออฟ มาเยือน ชิคาโก้ แบร์ส ที่โซลเจอร์ ฟิลด์ สังเวียนปราบเซียนซึ่งอากาศหนาวเย็นแตะหลัก 0 องศาเซลเซียส

"เกมผิดพลาด"


เกมการแข่งขันเริ่มขึ้นด้วยความผิดพลาดของ เซ็นต์ส ทีมซึ่งเพิ่งผ่านเข้าชิงแชมป์สายเป็นครั้งแรก ทั้ง ดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ็กตัวเก่งและ มาร์คิวส์ โคลสตัน ปีกนอกรุคกี้ความหวังของทีมเสียฟัมเบิล แต่ยังดีที่เกมรับต้านทานเกมบุกที่ยังไม่เอาอ่าวของเจ้าถิ่นไว้ได้ทำให้ตามแค่ 0-9 เมื่อเข้าสู่กลางควอเตอร์ที่ 2

เมื่อทีมบุก นักบุญ ยังไม่สามารถปรับตัวกับลูกบอลที่ค่อนข้างแข็งจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ อีกทั้งพื้นหญ้าที่ค่อนข้างลื่น ทำให้ภาระไปตกกับทีมรับและ แบร์ส ก็ฉวยโอกาสตรงนี้ส่ง โธมัส โจนส์ ลงมาวิ่งสร้างเพลย์สำคัญๆ ก่อนที่จะเป็นเขาวิ่งเจาะ 2 หลาเข้าเขตเอ็นด์โซนให้เจ้าบ้านนำห่างถึง 16-0 อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือแค่นาทีเศษของครึ่งแรก บรีส์ ประสานงานโคลสตัน ก่อนนำมาซึ่งการขว้างทัชดาวน์ให้ปีกคู่ใจ 13 หลา เซ็นต์ส ยังมีหวังเพราะตามแค่ 7-16

"เกือบไปได้สวย"


เริ่มครึ่งหลังสภาพอากาศเริ่มเลวร้ายสำหรับทีมเยือนเพราะมีหิมะโปรยปรายลงมาตามที่พยากรณ์อากาศคาดเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่กลับกลายเป็น เซ็นต์ส ที่ทำคะแนนไล่มาเหลือแค่ 14-16 เมื่อ บรีส์ ขว้างบอลสั้นให้ เรจจี้ บุช วิ่งต่อ 88 หลาเป็นบิ๊กเพลย์ ทุกอย่างกำลังจะเข้าทางทีมเยือนและทีมก็มีโอกาสพลิกนำด้วยซ้ำเมื่อ ไบรอัน คันดิฟฟ์ ได้ลองเตะฟิลด์โกลไกลระยะ 47 หลาเพื่อขึ้นนำหนแรก แต่บอลสั้นไม่ถึงเสาประตู การบุกสวยงามของทีมบุกจึงต้องตีรถเปล่ากลับไป

จากนั้นจุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นจนได้ บรีส์ ซึ่งวันนี้ได้ตำแหน่งบุกไม่ค่อยดีอยู่แล้วดันเจตนาขว้างในเขตเอ็นด์โซนทำให้กรรมการเรียกเป็นเซฟตี้ให้ แบร์ส ฉีกนำ 18-14 และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของมหกรรมการไล่ทำคะแนนของ พญาหมี ในควอเตอร์สุดท้าย

"เฮือกสุดท้าย"


เร็กซ์ กรอสส์แมน ซึ่งออกอาการเงอะๆ งะๆ ช่วงครึ่งแรกขว้างระยะ 33 หลาให้ เบอร์นาร์ด เบอร์เรียน รับเป็นทัชดาวน์เริ่มฉีก 25-14 โอกาสกลับเข้าสู่เกมของ เซ็นต์ส เริ่มหมดไปเมื่อ บรีส์ โดน อเดวาเล่ โอกุนเลเย่ ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ค่าจ้างแพงของเจ้าบ้านตะปบเสียฟัมเบิลโดนชิงบอลไปอีก และก็เป็น เซดริก เบนสัน รันนิ่งแบ็กทรงพลังลงมาวิ่งปิดไดร์ฟการบุกให้ แบร์ส นำห่างไปไกล 32-14

เฮือกสุดท้ายของผู้มาเยือนต้องเก็บฉากเมื่อ บรีส์ ซึ่งเรตติ้งการขว้างยอดเยี่ยมในครึ่งแรกมาขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ ทีมรับ นักบุญ หมดแล้วซึ่งกำลังใจปล่อยให้ โจนส์ ลงมาวิ่งทัชดาวน์ที่สองของตัวเองปิดท้ายให้ แบร์ส เปิดบ้านไล่อัด เซ็นต์ส 39-14 คะแนน ส่ง โลวี่ สมิธ กลายเป็นหัวหน้าโค้ชผิวสีคนแรกที่ได้เข้าสู่ ซูเปอร์โบว์ล เกมเกียรติยศสูงสุดในวงการคนชนคน

"ทีมแรกที่ได้ไป"


ชิคาโก้ แบร์ส กลายเป็นทีมแรกที่ได้เดินทางไป ดอลฟิน สเตเดี้ยม ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา เพื่อลุยศึก ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 41 ที่จะมีขึ้นในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 (ตามวัน-เวลาประเทศไทย) และก็เป็นการหวนสู่เกมชิงแชมป์อีกครั้งในรอบ 21 ปี รอพบกับผู้ชนะระหว่าง นิวอิงแลนด์ แพริออตส์ หรือ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ซึ่งจะแข่งกันในเกมชิงแชมป์สาย AFC ในคู่ต่อไป

สถิติต่างๆ ที่น่าสนใจในเกมชิงแชมป์สาย NFC

นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส

ดรูว์ บรีส์ ขว้างสำเร็จ 27 จาก 49 ครั้ง ได้ระยะ 354 หลา 2 ทัชดาวน์ 1 อินเทอร์เซปต์ 2 ฟัมเบิล , เรจจี้ บุช ถือบอลวิ่ง 4 ครั้ง ได้ระยะ 19 หลา แต่ก็ได้ระยะไปถึง 132 หลา 1 ทัชดาวน์ จากการรับบอล , มาร์คิวส์ โคลสตัน รับบอล 5 ครั้ง ได้ระยะ 63 หลา 1 ทัชดาวน์ เสียหนึ่งฟัมเบิล

สถิติรวมๆ เซ็นต์ส เปลี่ยนดาวน์ที่ 1 สำเร็จ 15 ครั้ง (ขว้าง 12 วิ่ง 3 หน) ได้ระยะรวม 375 หลา (วิ่ง 56 ขว้าง 319 หลา) เสียโทษ 7 ครั้ง โดนทำโทษไป 47 หลา , เสียเทิร์นโอเวอร์ 5 ครั้ง (4 ฟัมเบิล 1 อินเทอร์เซปต์)

ชิคาโก้ แบร์ส

เร็กซ์ กรอสส์แมน ขว้างสำเร็จ 11 จาก 26 ครั้ง ได้ระยะ 144 หลา 1 ทัชดาวน์ ไม่เสียอินเตอร์เซปต์และฟัมเบิล , โธมัส โจนส์ ถือบอลวิ่ง 19 ครั้ง ได้ระยะ 123 หลา 2 ทัชดาวน์ , เซดริก เบนสัน ถือบอลวิ่ง 26 ครั้ง ได้ระยะ 60 หลา 1 ทัชดาวน์ , เบอร์นาร์ด เบอร์เรียน รับบอล 5 ครั้ง ได้ระยะ 85 หลา 1 ทัชดาวน์

สถิติรวมๆ แบร์ส เปลี่ยนดาวน์ที่ 1 สำเร็จ 17 ครั้ง (ขว้าง 6 วิ่ง 11 หน) ได้ระยะรวม 340 หลา (วิ่ง 196 ขว้าง 144 หลา) เสียโทษ 1 ครั้ง โดนทำโทษไป 5 หลา , เสียเทิร์นโอเวอร์ 1 ครั้ง (ฟัมเบิล)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์