เจาะใจ บิ๊กฟิล หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่

เจาะใจ 'บิ๊กฟิล' หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่

 
      
      อาจจะไม่ได้มาดเท่เหมือนโชเซ่ มูรินโญ่ แต่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธฝีมือของจอมเก๋าอย่างหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ และนี่คือบทสัมภาษณ์ที่หาอ่านกันได้ยากที่สุดจากกุนซือที่เก๋าขึ้นหิ้งที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค!
       

Q: มีหลายคนคิดว่ามันเป็นงานยากสำหรับคุณในการจะคุมทีมเชลซี เพราะคุณไม่เคยคุมทีมระดับสโมสรในยุโรปมาก่อน มาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่ามันง่ายกว่าที่คิดหรือเปล่า?


R: มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมายนัก มันไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากตอนที่ผมทำงานในบราซิล ผมเคยคุมทีมระดับสโมสรมาตลอดและไม่ได้คุมทีมชาติมาก่อนปี 1991 ที่คูเวต ผมอยู่ที่นั่นแค่ช่วงเวลาสั้นๆและจากนั้นผมก็เป็นโค้ชทีมชาติให้บราซิลและโปรตุเกส แต่ผมรู้จักเกมระดับสโมสรดีทีเดียวเพราะผมเคยทำงานมา 20 ปีในการเป็นโค้ชที่บราซิล, ซาอุดิ อาระเบีย, แอฟริกาหรือประเทศไหนๆก็ตาม มันก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ


Q: มองผลงานเปรี้ยงปร้างของฮัลล์ ว่ายังไงบ้าง?


R: ผมติดตามผลงานที่น่าประทับใจของฮัลล์ มาตลอดสำหรับทีมที่เคยอยู่ในดิวิชั่น 3 เมื่อ 10 ปีก่อน (ฮัลล์ อยู่ในลีกลำดับที่ 4 ในปี 1998-99) พวเขาซื้อนักเตะดีๆเข้ามาบางคนและมีทีมที่ดี หลังจากที่พวกเขาชนะเกมแรกมาความมั่นใจก็สูงมาก ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สูงแต่ผมก็คิดว่าพวกเขาน่าจะมีลุ้นชิงอันดับ 4-8 ได้ในพรีเมียร์ลีก


Q: แล้วลิเวอร์พูล, อาร์เซฯอล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดล่ะ โดยเฉาพะอย่างยิ่งกับกุนซือที่อยู่ในตำแหน่งมานานหลายปีพวกนี้?


R: พวกเขารู้จักฟุตบอลอังกฤษดีมาก มากกว่าผมแน่และพวกเขาก็ยังรู้จักสโมสรของพวกเขาดีด้วย การที่ผมได้รับการช่วยเหลือจากผู้ช่วยของผมเรย์ วิลกิ้นส์ ก็เลยเป็นเรื่องที่สำคัยมาก เขาช่วยผมในหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลของชื่อคน, เกี่ยวกับสนาม, เกี่ยวกับคน, ประวัติศาสตร์ของสโมสร, ประวัติผู้เล่น บางทีในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าผมคงจะรู้อะไรดีขึ้นเกี่ยวกับนักเตะในอังกฤษ แต่ว่ามันเป็นเรื่องในอนาคต ผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว มากกว่า 20 ปีด้วยซ้ำในกรณีของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ผมก็เรียนรู้ทุกวันเรื่องฟุตบอลอังกฤษ และผมก็ต้องการจะชนะที่อังกฟษ ถ้าผมอยากจะชนะบางทีในอนาคตผมก็ต้องทำให้ดีขึ้น




Q:
เปรียบเทียบนักเตะบราซิลที่เคยสอนกับนักเตะทีมชาติอังกฤษ ที่เชลซี โดยเฉพาะในรายของจอห์น เทอร์รี่ ยังไง?


R: บางคนก็มีสปริตแบบจอห์น เทอร์รี่นะ แต่หลายคนชอบคิดโน่นคิดนี่มากเกินไปในการจะเป็นมืออาชีพและก็ห่วงตัวเองมากกว่าจะทุ่มเทให้กับสโมสร หรือไม่ก็ทำหน้าที่แต่ว่ามีขีดจำกัด จอห์น เทอร์รี่ แตกต่างออกไปและบางคนในทีมเชลซีก็แตกต่างจากพวกนั้น ถึงแม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บหรือปัญหาที่จะรบกวนพวกเขา แต่พวกเขาก็ลงเล่น ลงซ้อม พวกเขาเป็นมืออาชีพในแบบที่ผมแทบจะไม่เคยเห็นเลยจากที่อื่นๆ


จอห์น เทอร์รี่ เป็นตัวอย่างในฐานะกัปตันแบบเดียวกับที่ผมเคยชอบในตอนที่เป็นนักเตะ ผมเคยเป็นกัปตันทีมที่ผมเล่นมา 16 ปีในแบบเดียวกัน ในสไตล์นี้เลย ผมจะทุ่มเททุกอย่างให้กับทีมของผม เพื่อของผม และในเวลาเดียวกันผมก็พร้อมที่จะแสดงอะไรออกมาด้วย นั่นคือจอห์น เทอร์รี่ ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลว่าทำไมคาเปลโล่ ถึงเลือกเขาเป็นกัปตันทีม เพราะเขามองเห็นภาพของเขาในแบบเดียวกับที่ผมมองเทอร์รี่


Q: คุณเสียใจหรือเปล่าที่ไม่สามารถจะคว้าแชมป์ให้โปรตุเกส ในยูโร 2004 และอันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 2006


R: ใช่ ผมเสียใจ มันควรจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวติของผมเพราะผมน่าจะได้เป็นโค้ชที่เคยคว้าทั้งฟุตบอลโลกต่อด้วยฟุตบอลยูโร ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน เราทำได้ดีที่สุดแล้วในวันนั้น (นัดชิงยูโร 2004) กรีซ ก็เล่นได้ดีวันนั้นและมีโชคด้วย


บางครั้งเราบอกว่าเรื่องพวกนี้มันไม่เคยมีในเกมฟุตบอล แต่ว่ายังไงพวกเขาก็ถือว่ามีโชคช่วยและเราก็ทำมันไม่ได้เองตั้งแต่แรกด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากเพราะว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมย้ายจากบราซิล มาอยู่ในยุโรปในการเป็นโค้ชทีมชาติที่ไม่ได้แม้แต่เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2002 แต่โปรตุเกส ก็พัฒนาไปมากในช่วงเวลา 5 ปีที่ผมอยู่ที่นั่น


Q: ทำไมโค้ชบราซิล ถึงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเวลาเป็นนักเตะ? มีแค่ซิโก้ คนเดียวในอุซเบกิสถานและคนอื่นๆอีกนิดหน่อยเท่านั้น


R: ผมอยากจะบอกว่ามันเป็นเพราะความคิดของคนในยุโรปที่คิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายในการเป็นโค้ชที่บราซิล ผมบอกได้เลยว่ามันไม่ง่าย และความจริงแล้วมันยากยิ่งกว่าด้วยซ้ำ เราต้องเลือกระหว่างการตัดสินใจมากมาย ดังนั้นมันก็เลยเป็นเรื่องที่ยากกว่า


ผมยังคิดด้วว่ามันมีบางครั้งที่ผู้จัดการทีมที่มาทำงานในยุโรปประสบความสำเร็จมากมายอย่างที่ต้องการแต่ว่าไม่มีการติดตาม มีบางคนที่มาที่นี่พร้อมความคิดที่ว่าจะอยู่ซัก 2-3 ปี หรือ 4 ปีเพื่อที่จะโกยรายได้งามๆแล้วจากนั้นก็กลับไปบราซิล แต่ผมคิดที่จะมาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะชนะและสร้างชื่อในยุโรป เมื่อผมยุติงานเป็นโค้ชฟุตบอลผมก็จะกลับไปบราซิล ผมไม่คิดถึงอะไรที่บราซิล ผมปรับตัวได้สมบูรณ์แบบ ครอบครัวของผมก็ทำได้เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องมีทัศนคติแบบนี้ และเราต้องไม่กังวลเรื่องที่ว่าบราซิล อากาศอบอุ่นกว่า มีหาดทรายสวยๆ และอื่นๆ ความจริงคือมันยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่น่าสนใจที่นี่


Q: แม้กระทั่งศัตรูก็ยังเปลี่ยนกลับมาเป็นมิตรกับเชลซีได้ คุณทำยังไงถึงได้เปลี่ยนภาพของสโมสรที่เคยเป็นทีมที่น่ารังเกียจที่สุดจนตอนนี้กลายเป็นที่ยอมรับชื่นชมกันอย่างเป็นกลาง


R: ไม่ ผมไม่ได้ทำอะไร มันมาจากนักเตะและบุคลิกของพวกเขาเอง เราเองก็เล่นแบบเปิดมากขึ้น มีการสัมผัสบอลมากขึ้น มีการใกล้ชิดกันมากขึ้น อย่าลืมว่าเราเสริมเดโก้ เข้ามาในทีม และเขาก็เป็นคนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงนั้น และเราก็มีนักเตะในระดับเดียวกับเดโก้อย่าง แลมพาร์ด, อเนลก้า การเล่นของพวกเขายิ่งเติบโตขึ้นด้วยเพราะได้เล่นกับบอลมากขึ้น


ทั้งหมดนี้มันเลยทำให้ทีมดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติแบบบราซิล


Q: งั้น ตอนนี้เชลซี ก็เล่นสวยงามแบบบราซิลแล้ว?


R: ผมเห็นด้วยว่าเชลซี กำลังเล่นดีมาก แต่ผมก็หวังว่าพวกเขาจะเห็นด้วยกับผมเหมือนกันว่ามันยังเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าชิงและเอาชนะในนัดชิงให้ได้เท่าๆกับเล่นให้สวยงาม แต่ว่าในการจะทำให้ได้แบบนั้นเราก็ยังต้องเดินทางอีกยาวไกล แตว่ามันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขาก็กำลังเล่นกันได้ดีมาก เล่นกับบอลได้ดี แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และยังมีพลังในการจบสกอร์ เรามีระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยมและทุกคนก็พยายามที่จะทำให้คู่แข่งต้องเจอกับงานลำบากมากขึ้น มันเป็นเรื่องดีที่จะเล่นอย่างสวยงาม แต่ยังไงการคว้า 3 แต้มก็สำคัญที่สุด


Q: มองไปข้างหน้า ช่วงตลาดเปิดในเดือน ม.ค. กำลังจะมาแล้ว คุณเองก็เพิ่งซื้อนักเตะมาคนเดียวก็คือเดโก้ ยังมีใครอีกหรือเปล่าในเวลานี้ในพรีเมียร์ลีกที่จะได้เห็นในเชลซี?


R: ตอนนี้ผมก็พยายามดูทุกเกมและนักเตะของในพรีเมียร์ลีก และบางเกมในระดับแชมเปี้ยนชิพ


Q: มีใครที่สนใจเป็นพิเศษหรือเปล่า? เช่น ซากี้ กองหน้าอียิปต์ที่ทำผลงานโดดเด่นกับวีแกน?


R: ไม่ ไม่หรอก ผมติดตามแค่ 2-3 คนที่ผมชอบ แต่การตัดสินมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เกมใดเกมหนึ่ง ผมต้องรู้จักการใช้ชีวิตของเขา ดูว่าเล่นดีมากๆแค่ 1-2 เกมหรือเปล่าและผลงานของเขาในอีตในช่วง 3-4 เดือนหลังเป็นยังไง ตอนนี้ผมก็ดูไว้อยู่ 3-4 คน


Q: ทำไมโรบินโญ่ ถึงไม่ได้มาอยู่ที่เชลซี? คุณผิดหวังหงุดหงิดหรือเปล่า?


R: ผมไม่ได้หงุดหงิดอะไรเพราะเขาเป็นคนที่ผมชอบเพราะเขาเล่นสวยมาก เขาบอกหลายครั้งตอนที่อยู่ที่เรอัล มาดริด ว่าเขาอยากจะมาอยู่กับเชลซี เพราะเราเป็นทีมที่ดีมากและเขาก็อยากจะมาในฐานะนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ถ้าเขามาอยู่กับเชลซี มันก็เป็นเรื่องดีของเขาเองด้วย


แต่ธุรกิจก็คือธุรกิจ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่อยากจะพูดในสิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะมันไม่สำคัญหรือมีความเกี่ยวข้องอะไรอีกแล้ว


Q: คุณเพิ่งจะอายุครบ 60 ในเดือน พ.ย. มีของขวัญชิ้นพิเศษมาจากอบราโมวิช หรือเปล่า?


R: ไม่มี ผมแค่หวังว่าลูกทีมของผมจะเป็นเพื่อนที่ดีและเข้าใจสิ่งที่เราต้องไปให้ถึงร่วมกัน สิ่งที่ผมหวังจากอบราโมวิช ก็คือขอให้เขาเชื่อใจผมต่อไปตั้งแต่ที่เขาเซ็นสัญญากับผม และของขวัญที่ผมได้รับมาแล้วเมื่อตอนที่ผมอายุครบ 60 ในวันที่ 9 พ.ย. ก็คืองานที่ผมได้ทำกับเชลซี มันเหมือนกับการได้สวมมงกุฎ หรือการได้กินเชอร์รี่บนชนมเค้กที่ผมต้องการในเส้นทางวงการกีฬา ดังนั้นผมได้ของขวัญนี้มาเรียบร้อยแล้ว และกับมิตรภาพที่ผมสร้างมากมายที่ลอนดอน จากแฟนเชลซี ผมเองรู้สึกซาบซึ้งมากแล้ว



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์