เข่น..แอลจีเรียไม่ลง สิงโตฝืดสนิท 0-0

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport เข่น..แอลจีเรียไม่ลง สิงโตฝืดสนิท 0-0

สิงโตคำราม อังกฤษ ยังคงฟอร์มฝืดต่อเนื่อง ล่าสุดทำเอาแฟนๆต้องผิดหวังไปตามๆกัน หลังทำอะไร แอลจีเรีย ไม่ได้ ก่อนลงเอยแบบไร้สกอร์ 0-0 ต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้ายกับสโลวีเนียต่อไป

กลุ่ม ซี

อังกฤษ 0 - 0 แอลจีเรีย

สนาม : กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม, เคปทาวน์

ทีมชาติอังกฤษ ลงสนามพบ แอลจีเรีย คู่แข่งกลุ่มซีที่กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม เมือง เคปทาวน์ ในฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก นัดที่ 2 หลังจากนัดแรก สิงโตคำราม เสมอ สหรัฐอเมริกา 1-1 ที่รัสเท่นเบิร์ก และ แอลจีเรีย แพ้ สโลวีเนีย 0-1 ที่โพล็อควาเน่

ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซืออังกฤษขาด เล็ดลี่ย์ คิง เซนเตอร์ฮาล์ฟบาดเจ็บโคนขาหนีบฉีก ทำให้เขาส่ง เจมี่ คาร์ราเกอร์ เล่นแทนคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ และทีมได้ แกเร็ธ แบร์รี่ หายเจ็บเอ็นข้อเท้าขวา ลงตัวจริง ทำให้ เจมส์ มิลเนอร์ ถูกถอดเป็นตัวสำรอง ส่วนเดวิด เจมส์ โกลวัย 39 ปีได้เฝ้าเสาแทน โรเบิร์ต กรีน ที่เล่นพลาดในเกมแรก และ เอมิล เฮสกี้ ยังยืนกองหน้าคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ตามเดิม

ทางด้าน ราบาห์ ซาอาดาน กุนซือแอลจีเรียไม่มี อับเดลกาแดร์ เกซซัล กองหน้าติดโทษแบน หลังจากโดนใบแดงนัดเจอสโลวีเนีย ทว่าทีมมี คาริม มัตมูร์เป็นกองหน้าตัวหลัก มาดยิด บูเกร์ร่า, อันตาร์ ยาเอีย กัปตันทีม และ นาดีร์ เบลฮาดจ์ นำทัพหลัง

นัดนี้ เจ้าชายวิลเลี่ยม และเจ้าชายแฮร์รี่ องค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์อังกฤษ เสด็จทอดพระเนตรแมตช์ในสนาม เพื่อเชียร์ทีมชาติอังกฤษ

เกมครึ่งแรก อังกฤษทักทายก่อนจากลูกยิงของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมแต่ ราอิส เอ็มโบลี่ นายทวารแอลจีเรียเซฟได้เยี่ยม นาทีที่ 4

สิงโตคำรามยังเดินเกมไม่ไหลลื่น ส่วนแอลจีเรียอาศัยจังหวะสวนกลับเร็วเล่นงาน เข้าสู่นาที 19 คาริม ซิยานี่ โยนบอลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา ไปเข้าหัว ฮัสซัน เยบดา โหม่งไปตรงตัว เดวิด เจมส์

นาที 23 แอลจีเรียได้ลูกเตะมุมทางมุมธงฝั่งขวา นาดีร์ เบลฮาดจ์ แบ็กซ้ายเปิดลูกเตะมุมไซด์โค้งเกือบเข้าประตู แต่เดวิด เจมส์ ออกมาคว้าบอลไว้ได้ทันเวลา

มาถึงนาที 27 จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟอังกฤษบาดเจ็บในจังหวะวิ่งเข้าไปขวา มาดยิด บูเกร์ร่า แต่หลังจากปฐมพยาบาล เขากลับมาเล่นต่อไปได้ และสองนาทีต่อมา สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีจังหวะยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษ ทว่าบอลไปตรงตัว ราอิส เอ็มโบลี่ ผู้รักษาประตู

นาที 32 อังกฤษน่าได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อารอน เลนน่อน โยนบอลจากริมเส้นฝั่งขวาไปติด กองหลังแอลจีเรียโหม่งไม่พ้นอันตราย แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้บอลซัดเท้าซ้ายติด เอ็มโบลี่ อย่างน่าเสียดาย

และสองนาทีต่อมา คาริม ซิยานี่ มิดฟิลด์จากโวล์ฟสบวร์กได้ยิงเท้าขวาระยะไกล 20 หลาจากลูกโต้กลับเร็ว ทว่าบอลไม่เข้ากรอบ

ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 40 อารอน เลนน่อน โยนบอลมาเข้าทาง แกเร็ธ แบร์รี่ ซัดเท้าซ้ายข้ามคาน และสามนาทีถัดมา อังกฤษได้บอล เกล็น จอห์นสัน เปิดบอลให้ เวย์น รูนี่ย์ ซัลโวระยะ 25 หลาเต็มเท้า บอลไปตรงตัวเอ็มโบลี่ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

ในครึ่งหลัง นาที 46 อันตาร์ ยาเอีย เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมแอลจีเรียยิงฟรีคิกระยะ 33 หลาบอลกระดอนชนกำแพง

ทัพนักเตะสิงโตคำรามยังเดินเกมรุกไม่มีประสิทธิภาพ เข้าสู่นาที 54 อังกฤษโต้กลับเร็ว หลังจากแอลจีเรียเล่นพลาดเสียบอลในแดนกลาง แต่ เจอร์ราร์ด ผ่านบอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวาจะให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทว่ากองหลังแอลจีเรียนสกัดบอลออกเส้นหลังไปได้ก่อน

นาที 58 เจมี่ คาร์ราเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟอังกฤษโดนใบเหลือง หลังจากทำฟาวล์ ฮัสซัน เยบดา ส่งผลให้แมตช์สุดท้ายของรอบแรก ที่ อังกฤษจะพบ สโลวีเนีย วันพุธที่ 23 มิถุนายนที่พอร์ท เอลิซาเบ็ธ เขาจะติดโทษแบน 1 นัด โดยอัตโนมัติ และจากจังหวะนี้ แอลจีเรียได้ฟรีคิกระยะ 23 หลา คาริม ซิยานี่ เขี่ยบอลสั้นให้ อันตาร์ ยาเอีย กัปตันทีมยิงฟรีคิกเข้าข้างตาข่าย

ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซืออังกฤษเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ มิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นแทน อารอน เลนน่อน นาที 63

และนาที 69 เอมิล เฮสกี้ ได้ซัดเต็มเท้าในกรอบเขตโทษฝั่งขวาติด ราฟิค อัลลิเช่ เซนเตอร์ฮาล์ฟแอลจีเรียออกเส้นหลัง และอีกไม่กี่วินาที แกเร็ธ แบร์รี่ เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวา เจอร์ราร์ด ขึ้นโหม่งโล่งๆ ทว่าบอลไปตรงตัว เอ็มโบลี่ ผู้รักษาประตูแอลจีเรีย

คาเปลโล่ เปลี่ยนตัวสำรองคนที่สองส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงมาเล่นแทน เอมิล เฮสกี้ นาที 74 และแอลจีเรียส่ง เดฌาแมล อับเดิง เล่นแทน ริยาด บูเดอบุซ จากนั้นทีมสิงโตคำรามได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาติดๆ กันสองครั้ง เจอร์ราร์ด กับ แลมพาร์ด รับหน้าที่เตะมุม แต่ก็ติดกองหลังแอลจีเรียนสกัดได้หมด

นาที 80 แอลจีเรียส่ง อั๊ดแลน กูเอดิยูร่า ลงมาเล่นแทน คาริม ซิยานี่ ที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว

เวลาที่เหลืออยู่ ความพยายามของอังกฤษในการลุ้นทำประตูไม่เป็นผล ติดกองหลังและ เอ็มโบลี่ เซฟได้ตลอด หมดเวลาการแข่งขัน อังกฤษ ทำได้เพียงเสมอ แอลจีเรีย 0-0 โดยในฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก นัดสุดท้าย อังกฤษ จะพบ สโลวีเนีย ที่พอร์ท เอลิซาเบ็ธ และ แอลจีเรีย ปะทะ สหรัฐอเมริกา ที่พริทอเรีย ในวันพุธที่ 23 มิถุนายน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

อังกฤษ : เดวิด เจมส์ - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - อารอน เลนน่อน (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.63), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่ (ปีเตอร์ เคร้าช์ น.83), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม) - เอมิล เฮสกี้ (เจอร์เมน เดโฟ น.74), เวย์น รูนี่ย์

สำรองที่ไม่ได้ใช้ : โรเบิร์ต กรีน (ผู้รักษาประตู), โจ ฮาร์ท (ผู้รักษาประตู), แม็ทธิว อัพสัน, เล็ดลี่ย์ คิง, ไมเคิล ดอว์สัน, สตีเฟ่น วอร์น็อค, ไมเคิล คาร์ริค, โจ โคล, เจมส์ มิลเนอร์

ใบเหลือง : เจมี่ คาร์ราเกอร์ น.58

แอลจีเรีย : ราอิส เอ็มโบลี่ - มาดยิด บูเกร์ร่า, ราฟิค อัลลิเช่, อันตาร์ ยาเอีย (กัปตันทีม), นาดีร์ เบลฮาดจ์ - ฮัสซัน เยบดา (เดฌาแมล เมสบาห์ น.88), เมดี้ ลาเซน - ฟูเอด กาดีร์, ริยาด บูเดอบุซ (เดฌาแมล อับเดิง น.74), คาริม ซิยานี่ (อั๊ดแลน กูเอดิยูร่า น.80) - คาริม มัตมูร์

สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ลูเนส กาอูยาอุย (ผู้รักษาประตู), ฟาอูซี่ ชาอูชี่ (ผู้รักษาประตู), คาร์ล เมดชานี่, อาบิ๊บ เบลเลด์, อับเดลกาแดร์ เลฟาอุย, ยาซิด ม็องซูรี่, ราฟิค ซาอิฟี่, ราฟิค เดเฌบบูร์

ใบเหลือง : เมดี้ ลาเซน น.84

ผู้ตัดสิน : ราฟชาน อิร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100619_019.html

(bottom