เขียนเป็น ส่งไม่ตาย...ตอน ศัตรูผู้น่ารัก


ศัตรูผู้น่ารัก

 


src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/110207C9O42640.jpg



     เขียนเป็น: เรียนคุณ บอ.บู๋ ผู้มีอาการทางจิต ถามจริงๆ เถอะนะครับว่า บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ ระหว่าง เชลซี กับ ลิเวอร์พูล คุณเอาใจช่วยใคร เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อน ผมอ่านคอลัมน์ทุ่งหญ้าในหนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์ คุณบอกว่าทำใจลำบากเหลือเกิน แต่ด้วยหน้าที่ของ เด็กผี ที่ดี และเพื่อเป็นตัวอย่างต่อเด็กๆ และเยาวชนลูกกรอกคะนอง คุณอยากเห็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ยิงหงส์ไส้แตกซะมากกว่า!

 

จำลอง สีทีโอเอ



 


...



 


ส่งไม่ตาย: ตอนแรกที่บ้วนความเห็นแบบนั้น เพราะดันมั่นใจแบบเต็มประดาว่าพลพรรคปีศาจแดงจะบุกไปถลกหนังหัวหมาป่าแล้วเอาเนื้อมาทำลูกชิ้นน่ะซี่
 

ที่ไหนได้นะครับ กลับเป็นผู้เล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงคุณป๋านั่นแหละที่ต้องให้คุณหมอฉีดยารอบสะดือแทน หลังจากเดินทางไป โมลินิวซ์ กราวด์ ในวันพระจันทร์เต็มดวง!
 

เรียนตามตรงว่าจัดเป็นอีกเกมในฤดูกาลนี้ที่นักเตะพันธุ์อสูรโชว์ฟอร์มได้ห่วยแตกแบบสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะ จอห์นนี่ อีแวนส์ ที่ลงเป็นตัวจริงเมื่อไหร่มีโอกาสบรรลัยเมื่อนั้น ซึ่ง ไอ้จ้อน ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แถมยังบาดเจ็บให้เสียโควต้าการเปลี่ยนตัวไปฟรีๆ อีกหนึ่งหน่วย นี่แหละครับความบ้าๆ บอๆ ของเกมลูกหนัง แพ้ทีมอะไรไม่แพ้ ทะลึ่งแพ้ทีมบ๊วยแบบไม่มีลุ้นซะงั้น!!!
 

เกมเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลยังคงเป็นปัญหา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงได้แตกต่างจากเกมในบ้านอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญอย่าลืมว่าต้องออกไปเยือนคู่เล่นอันตรายทั้ง เชลซี, ลิเวอร์พูล และอาร์เซน่อล
 

ดังนั้นหลังจากที่ถูกน้องหมาขย้ำเอาในคืนวันเพ็ญ ผู้ขายวิญญาณให้ปีศาจอย่างผมจึงจำใจต้องกลืนน้ำลายแบบกระทันหัน คือแทนที่จะเอาใจช่วย เชลซี ให้ขยี้หงส์แดงตามหน้าที่ของเด็กผีโรคจิตทุกหมู่เหล่า เปลี่ยนเป็นเอาใจช่วย ลิเวอร์พูล ให้หยุดพลพรรคสิงห์บลูส์แทน (ก่อนช่องว่างจะถูกลดลงเหลือแค่ 7 แต้ม) มิเช่นนั้นอาจกลายร่างเป็น บางกอก แวร์ วูล์ฟ ในวันพระจันทร์เต็มดวง
 

เรียกว่าเป็นการคบกันแบบเฉพาะกิจ เพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า
 

จากมุมมองของผมที่มีต่อเกมวันอาทิตย์นะครับ
 

ดูจบครึ่งแรกผมมั่นใจมากถึงมากที่สุดว่า ลิเวอร์พูล ไม่แพ้อย่างแน่นอน แม้เจ้าถิ่นครองบอลทำเกมรุกมากกว่าก็จริง แต่แทบจะไม่ได้สร้างความกดดันให้กับเกมรับของหงส์แดงที่ติดตั้งปราการหลังตัวกลางถึง 3 หน่วย แถมรู้สึกลึกๆ อีกต่างหากว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสงัดชัยชนะกลับออกไปจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยวิธีการเล่นแบบอดทนรอจังหวะ และขอทีเดียว
 

ขอบอกว่าผมเริ่มสังเกตเห็นความน่าขามเกรงของ เคนนี่ ดัลกลิช อย่างชัดเจนมาตั้งแต่เกมเมื่อกลางสัปดาห์ก่อนที่มอบความปราชัยให้พวกช่างปั้นหม้อ นอกจากจะค่อยๆ กระชาก จิตวิญญาณ ของ เครื่องจักรสีแดง กลับคืนมา พี่เคน ยังเป็นกุนซือที่วางแผนและแก้เกมเก่งนะครับ โดยเฉพาะการวางกลยุทธ์เพื่อรับมือการสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ต้องเผชิญเป็นนัดๆ
 

อย่างเกมทุบหม้อ พี่แกวางกองหลัง 3 ตัว พลางปรับระบบการเล่นเป็น 3-4-2-1 เพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศของคู่แข่งโดยเฉพาะ นอกจากจะเป็นการปิดจุดอ่อนของตัวเองยังทำลายจุดเด่นของคู่ต่อสู้ไปในตัว
 

เช่นเดียวกับเกมล่าสุด พี่เคน รู้อยู่แล้วว่า พี่แจ้ จะวาง 3 หัวหอก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า และเฟร์นานโด ตอร์เรส ด้วยความรักพี่เสียดายน้องเมีย ก็เข้าใจครับว่าอุตส่าห์วอดวายตั้ง 50 ล้านปอนด์ จะขังไว้ข้างสนามทำสากกะเบือทิ่มดาร์กซ์ทำไม แทนที่จะดร็อปกองหน้าออกไปสักคน ผู้เล่นตัวริมเส้นที่ฟอร์มกำลังฮอตและเหมาะกับระบบการเล่นมากกว่าอย่าง ฟลอรองต์ มาลูด้า กลับหลุดเป็นตัวสำรองด้วยประการฉะนี้ และนั่นส่งผลให้โมเมนตั้มและสมดุลของ เชลซี ที่กำลังดีๆ ต้องเสียไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
 

สำหรับ ลิเวอร์พูล ในเมื่อคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟยังไม่ค่อยน่าไว้ใจ ซ้ำยังต้องเผชิญหน้ากับมหันต์ภัยระดับ เอล นินโญ่ ส่งผลให้ เคนนี่ ดัลกลิช เพิ่มปราการหลังตัวกลางเข้าไปอีกหนึ่งหน่วย (บางครั้งมันก็จำเป็นต้องเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ) ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ เปเป้ เรน่า แอบเอามือเกาหำเล่นด้วยความเร็วปานกลางเป็นระยะ ไม่เจอลูกยากๆ ในการเซฟเลยสักครั้งเดียว เพราะเล่นอย่างรัดกุมสุดขีดจนไม่เปิดช่องว่างให้คู่แข่ง แถมกองหลังตัวกลางทั้งสามหน่วยช่วยกลั่นกรองให้อย่างหมดจด
 

ตลอด 66 นาทีที่อยู่ในสนาม ดาวถล่มประตูค่าตัว 50 ล้านปอนด์ มีโอกาสสับไกยิงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น มิหนำยังไม่มีผู้เล่นหงส์แดงคนไหนที่ทำฟาวล์ใส่เขาเลย แต่ความจริงที่ผมสังเกตเห็นอีกอย่างคือ เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังคงเล่นแบบเฉื่อยชาจนถูกลักพาตัวหายไปจากเกม แทบจะไม่ต่างจากตอนสวมเครื่องนุ่งห่มหงส์แดงสักเท่าไหร่
 

ลูกทีมของ คิง เคนนี่ ควรได้ประตูนำตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยซ้ำ เพราะลูกยิงระยะแค่ 3 หลาของ มักซี่ โรดริเกซ ขอบอกว่าคุณยายผมยังยิงดีกว่านี้เลยครับ ลางบอกเหตุร้ายของ เชลซี มันเกิดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ ซึ่งในที่สุดก็หนีไม่พ้น
 

ส่วนประตูชัยของ ลิเวอร์พูล มีจุดที่น่าสังเกตอยู่อย่างตรงที่การประสานงานกันระหว่าง ปีเตอร์ เช็ค กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ในครึ่งเวลาแรก ซึ่งท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมมองเห็นรอยแตกแยกจนต้องแอบยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย เมื่อทั้งคู่โวยวายใส่กันเองในจังหวะป้องกันลูกเปิดจากริมเส้นด้านขวา จังหวะนั้นผู้เป็นนายทวารถึงบอลก่อนถูกเพื่อนร่วมทีมตัวเองเสียบจากข้างหลังจนต้องหันไปตวาดมีปากมีเสียงกัน
 

จังหวะที่หงส์แดงได้ประตูก็มาจากการเปิดด้านขวาของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่คราวนี้ ปีเตอร์ เช็ค กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ดันเกี่ยงกันเล่นไม่ยอมเข้าบอลทั้งคู่ เหตุเพราะครึ่งแรกเคยสับสนจนชนกันมาแล้วหนหนึ่งนั่นเอง
 

ช่วงนี้ เด็กหงส์ กำลังเริงร่าและเบิกบานอย่างสุดขีดคลั่งพลางฝันถึงความสำเร็จในอนาคต (ตามฟอร์ม) เพราะชัยชนะนัดล่าสุดนั้นให้อัตราความสะใจมากขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากจะบุกไปกำราบ เชลซี พลางสั่งสอน เฟร์นานโด ตอร์เรส ข้อหาทำร้ายจิตใจ เดอะ ค็อป พวกเขายังไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน
 

ขอโทษ!...ขนาด เทพลูคัส ยังทำตัวน่ารักเลยครับ
 

ความปราชัยเป็นนัดแรกในฤดูกาลของ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยไม่ส่งผลเสียหายอย่างจงหนักสักเท่าไหร่ แค่น่าเสียดายและเสียอารมณ์เท่านั้นเอง
 

ก็อย่างที่เคยบอกนั่นแหละครับ ฤดูกาลนี้ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งเพราะคู่แข่งต่างผลัดกันทำตัวห่วยแตกกว่านั่นแหละ
 

...ว่าแล้วขอเป็นตัวแทนของท่านซาตานกล่าวคำ ขอบคุณ ลิเวอร์พูล เป็นกรณีพิเศษ โทษฐานที่เป็นศัตรูผู้น่ารัก
 

ได้แชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ จะขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง อิอิอิ


 
บอ.บู๋
Bbmeetyou@yahoo.com

ฝากรูป


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์