เก็บตกเอล กลาซิโก

แฟนบาร์เซโลน่ายังคงปลื้มอกปลื้มใจไม่เลิก หลังจบเอล กลาซิโก ที่ทีมรักไล่ถลุงเรอัล มาดริด 6-2 เพราะนั่นหมายความว่าโอกาสในการคว้าแชมป์ลาลีกาของทีมเลือดหมูน้ำเงินใกล้จะการันตี 100 % แล้ว

เอล กลาซิโก้ ครั้งที่ 79 นอกจากจะจบลงด้วยความอัปยศอดสูของเรอัล มาดริด ที่ถูกบาร์ซ่าย้ำแค้น แพ้ทั้งไปและกลับในฤดูกาลนี้แล้ว ยังมีความสำคัญในอีกหลายๆ ด้าน เพราะยอดทีมจากแคว้นกาตาลันกำลังจะทำ รวมถึงได้สร้างสถิติใหม่ๆ ประดับวงการลูกหนังไปแล้วหลายอย่าง

ชัยชนะนัดนี้ ทำให้บาร์ซ่ายังรั้งจ่าฝูงต่อไปแบบไม่มีใครทาบ เพราะทำคะแนนฉีกหนี เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 เพิ่มเป็น 7 แต้มแล้ว ขณะที่ยังเหลืออีก 4 นัดจะจบฤดูกาล ทำให้โอกาสในการคว้าแชมป์ลา ลีกา สมัยที่ 19 ของสโมสรอยู่ในมือแล้ว

นอกจากนี้ ผลการแข่งขัน 6-2 ยังเป็นสกอร์ที่ถล่มทลายที่สุดในประวัติศาสตร์ เอล กลาซิโก ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยิงกันมากขนาดนี้

โดยก่อนหน้านี้บาร์ซ่าเคยมาถล่มชุดขาวด้วยสกอร์สูงสุดที่เบร์นาเบว 5-0 แต่ต้องย้อนไปถึงในฤดูกาล 1973-74

นอกจากนี้ บาร์ซ่ายังโกยแต้มไปไกลถึง 85 คะแนน เทียบเท่าสถิติคะแนนสูงสุดของลาลีกา ในสมัยที่แข่งขัน 38 นัดเหมือนกัน

แต่ที่แตกต่างก็คือ ตอนนี้ฤดูกาลยังไม่จบ บาร์ซ่าเล่นไป 34 นัด หมายความว่าพวกเขายังมีโอกาสอีก 4 เกม ทำลายสถิตินี้ ซึ่งดูแล้วไม่น่าพลาดได้

ในอดีต บาร์ซ่าเคยทำคะแนนรวมทั้งฤดูกาลดีที่สุดคือ 84 คะแนน ในสมัยแฟร้งค์ ไรจ์การ์ด กุนซือชาวดัตช์พาทีมคว้าแชมป์ในฤดูกาล 2004-05

ส่วนผลงานดีที่สุดของเรอัล มาดริด เคยทำได้ 92 แต้ม สมัยที่ฟาบิโอ คาเปลโล่ คุมทีม แต่ตอนนั้นลีกยังเล่นทั้งหมด 42 นัด ซึ่งโอกาสที่บาร์ซ่าจะแซงได้ แค่ชนะเกิน 3 นัดก็เพียงพอแล้ว

เท่านั้นยังไม่พอ หลายคนอาจมองว่าลูกยิงของเคราร์ด ปีเก้้ ในเกมเมื่อวันเสาร์ เป็นแค่ช่วยย้ำชัยให้บาร์ซ่าชนะเรอัลถึงครึ่งโหลได้

แต่ที่จริงมันช่วยทำให้ทีมยิงไปทั้งหมด 100 ประตูในลาลีกา หมายความว่าเฉลี่ยแล้ว 1 นัดพวกเขาซัดได้เกือบ 3 ประตูเลยทีเดียว

ตอนนี้ พวกเขากำลังมีลุ้นทำสถิติใหม่ที่จะยิงประตูได้เกิน 107 ลูก ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเดิมที่เรอัล ทำไว้ในฤดูกาล 1989-90

หากคิดว่าจบแล้ว ต้องขออภัย เพราะทีมเลือดหมูน้ำเงินยังกลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่อีกอย่าง

ถึงตอนนี้ พวกเขาพังประตูไปแล้ว 146 ลูก จากการลงเล่นทุกรายการรวมกัน 54 นัด มากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลลีกสเปน

เฉพาะ 3 ประสานอย่าง ซามูเอล เอโต้, ลิโอเนล เมสซี่, เธียร์รี่ อองรี ก็ช่วยกันสังหารไปแล้วถึง 94 ประตู เลยทีเดียว

โดยใน ลา ลีกา นั้น เอโต้ ซัดไป 27 ประตูนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดอยู่ในเวลานี้ ส่วน เมสซี่ กดไป 23 ประตู และ อองรี จัดการทำสกอร์ 19 ประตูด้วยกัน 

แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายสลักสำคัญของกุนซือโจเซป กวาร์ดิโอล่าแน่นอน เพราะแชมป์ต่างหากที่บาร์เซโลน่าต้องการ หลังจบฤดูกาลด้วยมือเปล่ามา 2 ปีติดต่อกัน

แชมป์ลาลีกา กำลังจะได้ เช่นเดียวกับ โกปา เดล เรย์ ที่เหลือแค่ผ่าน แอธเลติก บิลเบา ในนัดชิงชนะเลิศเท่านั้น

ส่วนในโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้บาร์เซโลน่าจะเป็นเต็งหนึ่ง แต่ก็ต้องรอถามเชลซี ในวันพุธที่ 6 พ.ค.นี้ว่าจะยอมให้เข้าชิงหรือไม่

แม้นาทีนี้ ใครๆ ก็หวั่นเกรง คิง ออฟ สเปน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้กับบอลลูกกลมๆ เพราะฉะนั้นต้องติดตามดูสถานเดียวว่า บาร์เซโลน่า ที่ยอดเยี่ยมของเป๊ป จะไปได้ไกลเกิน 2 แชมป์หรือไม่ในซีซั่นนี้