อีกด้านของ เบลามี่

อีกด้านของ เบลามี่
เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน ปรมาจารย์ผุ้ล่วงลับเคยให้คำจำกัดความ เคร็ก เบลามี่ หนึ่งในลูกศิษย์ของเขาว่า เป็นนักเตะที่ทะเลอะกับต้วเองได้
ภาพลักษณืของ เบลามี่ มันเป็นอย่างนั้น เพราะในยามที่อยู่ในสนามจะโหวกเหวกโวยวาย ไม่มีปัญหากับนักเตะด้วยกันก็ ข้ามไปหาเรื่องผู้ตัดสิน หากไม่ถูกใจขึ้นมา ไหนจะรอยสักด่งพร้อยทั่วตัวที่ตอกลิ่มยำ้เข้าให้อีก แต่นั่นมันเป็นแค่ บางด้าน
โอเวน สล็อต คนข่าวชั้นครูของ เดอะ ไทม์ เล่าว่าเขาเคยเคือง เบลามี่ ตอนที่ขอสำภาษณ์ แล้วโดนปฏิเสธ ทีแรกคิดว่าหยิ่งทะนงโอหัง ทำตัวเป็นดาราดัง
ทว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เบลามี่ ไม่ชอบการตกเป็นข่าวไม่ว่าจะแบบไหนทั้งสิ้น เพราะขนาดเขาอุทิศตนไห้กับการเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลในเชียร์ราลีโอน ประเทศเล็กๆทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีป แอฟริกา มันก็ไม่เคยมีข่าวนำเสนอเลยด้วยซ้ำ
ตอนฤดูร้อนปี 2007 เบลามี่ ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนซึ่งทำธุรกิจค้าไม้ที่ เชียร์ลารีโอนไห้ลองเดินทางไปเที่ยวดู ก่อนเขาจะได้ประสบกับตัวว่า เด็กที่นี่มีฟุตบอลในหัวใจ แต่ขาดแคลนปัจจัยหลายอย่างเหลือเกิน
ก็เลยเริ่มเจียดเงินมาช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ที่สำคัญเขาเชื่อมั่นว่าฟุตบอลจะช่วยกำจัด สงครามกลางเมือง ที่คุกรุ่นมาตลอดเชียร์ลารีโอน
เบลามี่ ก้มหน้าก้มตาทำงานเพื่อสังคม โดยไม่ใส่ใจจะประชาสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้น ภายในเวลาแค่ 2 ปี จากจุดเริ่มต้นอันเป็นแรงบันดาลใจในคร้ังช่วยสร้างนักฟุตบอลมากถึง 1,600 คน มีการว่าจ้างโค้ช 40 คน รวมทั้งผู้จัดการทีมให้มาช่วยพัฒนาจนรุดหน้าไปไกล
แอฟริกา โปรเจกต์ ของเขายังรุกคืบต่อไป ปีหน้าเขาจะสร้างอะคาเดมี่หรือศูนย์ฝึกฟุตบอลขึ้นมา แถบชานเมืองฟรีทาวน์ เมืองหลวงของประเทศ ด้วยทุนสูงถึง 650,000 ปอนด์ เลยทีเดียว
สิ่งที่เขาทำมันตรงข้ามกับเรื่องที่แสดงออกมาในสนาม ภาพที่เขาต่อยแฟนบอลหลังจบเกม นับว่าเลวร้าย แต่ก็อย่างที่บอกเอาไว้ถึงความเป็น เบลามี่
นี่เป็นความจริงบางส่วน ของ เบลามี่ ที่แทบไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน
อย่างน้อยที่สุดมันก็ทำไห้เรารู้ว่า เขา เบลามี่ นั้นมีความจริงใจแค่ไหน