อัศวินสีส้ม ฟอร์มยังเจ๋ง ขย่ม ตราไก่ 3-1

ฟุตบอลยูโร2008 อีกคู่ในกลุ่มC ที่สนามสต๊าด เดอ สวิส วังก์ดอร์ฟ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อ01.45 ตามเวลาประเทศไทย เป็นการเจอกันระหว่างรองแชมป์โลกฝรั่งเศส พบกับ 'อัศวินสีส้ม' ทีมชาติฮอลแลนด์

มาร์โก แวน บาสเท่น กุนซือฮอลแลนด์จัดทัพ 11 คนแรกยึดเอาผู้เล่นชุดที่สามารถเอาชนะแชมป์โลกอิตาลีได้ในนัดแรก ประกอบไปด้วยผู้รักษาประตูเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แผงหลังมีคาลิด บูลาห์รูซ, อังเดร ออยเยอร์, โยริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์ ขณะที่แผงมิดฟิลด์มีไนเจล เดอ ยองก์, ออร์ลันโด้ อิงเกลาร์, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เดิร์ก เค้าท์ ขณะที่ศูนย์หน้าเป็นรุด ฟาน นิสเตลรอย

ด้านทัพ'ตราไก่' ภายหลังออกสตาร์ทโรมาเนียด้วยผลเสมอ นัดนี้เรย์มงด์ โดเมเน็ค จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงเล่น 11 คนแรกประกอบไปด้วยผู้รักษาประตูเกรกอรี่ กูเป้ต์ แผงหลังมีวิลลี่ ซาญอล, วิลเลี่ยม กัลลาส, ลิลิยอง ตูราม, ปาทริก เอฟร่า ขณะที่แผงมิดฟิลด์ใช้โคล้ด มาเกเลเล่, เฌเร่มี่ ตูลาล็อง, ซิดเน่ย์ โกวู, ฟร้องค์ ริเบรี่และฟลอร็องต์ มาลูด้า ส่วนศูนย์หน้าตัวเป้าเป็นเธียร์รี่ อองรี

สถิติคู่นี้เป็นฮอลแลนด์ที่เหนือกว่าเล็กน้อย โดยพบกันทั้งหมด21ครั้ง ฮอลแลนด์ชนะ9ครั้ง ฝรั่งเศสชนะ8ครั้ง อีก4ครั้งที่เหลือผลออกมาเสมอกัน 

เริ่มครึ่งแรกเกมเป็นไปอย่างสูสี เป็นฮอลแลนด์ที่เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อนจากการยิงของรุด ฟาน นิสเตอรอยแต่บอลโดนไม่เต็มเท้าหลุดออกหลังไป ฝรั่งเศสก็มีโอกาสเช่นกันจากลูกโหม่งของฟร้องค์ ริเบรี่ แต่ยังไม่เป็นประตู

แต่แล้วเป็นฝ่ายฮอลแลนด์ที่ขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ทเปิดลูกเตะมุมจากด้านขวาบอลโค้งเข้าหาประตูก่อนที่เดิร์ก เค้าท์จะโฉบเข้ามาโหม่ง บอลพุ่งผ่านมือเกรกอรี่ กูเป้ต์เข้าไป ฮอลแลนด์ออกนำฝรั่งเศสไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่9 

หลังเสียประตูฝรั่งเศสพยายามเปิดเกมบุกหวังทวงประตูคืนแต่ก็ยังเจาะเกมรับของฮอลแลนด์ไม่ได้ ขณะที่ฮอลแลนด์เองก็อาศัยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับฝรั่งเศสแต่ยังทำประตูที่2 ไม่ได้

นาทีที่22 ฝรั่งเศสมีโอกาสตีเสมอจากจังหวะยิงของซิดเน่ย์ โกวูในกรอบเขตโทษแต่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ผู้รักษาประตูจากแมนยูฯ เซฟเอาไว้ได้ ถึงตรงนี้ฮอลแลนด์พยายามดึงเกมช้า เน้นการผ่านบอลให้แน่นอน ขณะที่ฝรั่งเศสพยายามเร่งเกมเร็วเพื่อเรียกประตูคืนแต่เกมรับของฮอลแลนด์นก็ยังไม่พลาด

นาทีที่ 33 ผู้ตัดสินแฮร์เบิร์ต ฟานเดิลจากเยอรมัน ควักใบเหลืองแจกโคลด มาเกเลเล่ เป็นคนแรกของเกมเมื่อไปเหวี่ยงแขนเข้าใส่ ฟานเดอร์ฟาร์ท จากนั้นเป็นฝรั่งเศสที่บุกหนักและมีโอกาสทำประตูติดต่อกันถึง2-3ครั้ง รวมถึงจากฟร้องค์ ริเบรี่ที่ได้จังหวะยิงด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษแต่ผู้รักษาประตูจากยอดทีมในพรีเมียร์ชิพ ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟ ป้องกันประตูเอาไว้ได้

ท้ายครึ่งแรกรูปเกมของฝรั่งเศสเป็นฝ่ายเหนือกว่าฮอลแลนด์อย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายบุกอย่างหนัก ส่วนฮอลแลนด์อาศัยเกมโต้กลับเร็ว เน้นความคล่องตัวของนักเตะโดยเฉพาะเดิร์ก เคาท์และรุดฟาน นิสเตอรอย ที่คอยสร้างปัญหาให้กับแนวรับของฝรั่งเศส

นาทีที่42 อองรีมีโอกาสทำประตูแรกของตัวเองเมื่อพลิกบอลหลบกองหลังก่อนจะยิงด้วยเท้าขวาแต่บอลออกนอกกรอบไป จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรกฮอลแลนด์นำฝรั่งเศส 0-0


เริ่มครึ่งหลังฮอลแลนด์มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ถอดเอาออร์ลันโด อิงเกลาร์ออกและส่ง อาร์เยร ร็อบเบนลงเล่นแทน นาทีที่49 อองรีมีโอกาสยิงประตูตีเสมอระยะไม่ถึง6หลาแต่บอลไปติดกองหลังฮอลแลนด์ซึ่งจังหวะนี้อองรีพยายามจะฟ้องเอาแฮนด์บอลแต่ผู้ตัดสินจากเยอรมันให้เป็นเพียงลูกเตะมุม นาทีที่53อองรีมีโอกาสอีกครั้งแต่บอลลอยข้ามคานไป

ถึงตรงนี้ฝรั่งเศสยังเป็นฝ่ายบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูคืนแต่เกมรับของฮอลแลนด์ก็ยังทำหน้าที่ได้ไม่ผิดพลาด ขณะเดียวกันทีมอัศวินสีส้มก็ไม่ได้ตั้งรับเพียงอย่างเดียว มีโอกาสทำเกมรุกตอบโต้เช่นกัน นาทีที่55 มาร์โก แวน บาสเท่นปรับหมากส่งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ลงมาแทนเดิร์ก เคาท์ผู้ยิงประตูขึ้นนำ

นาทีที่59 ฮอลแลนด์ก็โชว์ถึงประสิทธิภาพเกมโต้กลับเร็ว เมื่อร็อบเบนได้โอกาสลากลูกไปที่ริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่พุ่งเข้าชาร์ต  บอลโดนเกรกอรี่ กูเป้ต์เข้าประตูไป ฮอลแลนด์หนีห่างไปเป็น2-0 

ฝรั่งเศสที่หลังชนฝาพยายามเร่งเกมบุกมากขึ้นเพื่อทวงประตูตีตื้นแต่ฮอลแลนด์ก็โชว์ให้เห็นถึงเกมรับที่เหนียวแน่น เข้าสู่นาทีที่65 แม้จะเป็นทีมตราไก่ที่ครองบอลมากกว่าก็จริง แต่ฮอลแลนด์ก็ยิ่งเล่นยิ่งดี สามารถใช้เกมโต้กลับลุ้นโอกาสทำประตูได้เป็นระลอก

แต่แล้วนาทีที่71 ความพยายามของฝรั่งเศสก็เป็นผล เมื่อวิลลี่ ซาญอลเปิดบอลเลียดเข้ามาในกรอบเขตโทษและเป้น เธียร์รี่อองรี ที่สะกิดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูให้ฝรั่งเศสตีตื้นขึ้นมาเป็น1-2

แต่ถัดจากนั้นไม่ถึงนาที อาร์เยน ร็อบเบนก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกลบเสียงเชียร์ของฝรั่งเศส เมื่อได้โอกาสลากเลื้อยทางฝั่งซ้ายก่อนจะจี้เข้าหาประตูและยิงแสกหน้าเกรกอรี่ กูเป้ต เข้าไปฮอลแลนด์หนีห่างฝรั่งเศสอีกครั้ง 3-1

เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด เรย์มงด์ โดเมเน็ค แก้เกมอีกครั้งส่งนิโคลาส์ อเนลก้าลงแทนซิดเนย์ โกวู ขณะที่ฮอลแลนด์เริ่มเสริมเกมรับส่งวิลเฟรด เบามา ลงแทนราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท

เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 78 เกมเป็นไปอย่างสนุก ฝรั่งเศสเปิดเกมบุกแลกใส่ฮอลแลนด์อย่างหนัก ส่วนฮอลแลนด์ก็ยังใช้วิธีเน้นเกมรับและรอสวนกลับเร็วโดยอาศัยความเร็วของผู้เล่นอย่างร็อบเบนและฟานเพอร์ซี่

ช่วงท้ายครึ่งหลังเป็นฝรั่งเศสที่บุกมากกว่าก็จริงแต่ฮอลแลนด์ก็ยังไม่พลาดและโชว์ให้เห็นถึงเกมโต้กลับเร็วที่น่ากลัว นาทีที่86 ฝรั่งเศสมีโอกาสอีกครั้งจากลูกฟรีคิกแต่บอลจากริเบรี่ลอยออกหลังไป

ช่วงทดเวลา 2 นาทีฝรั่งเศสพยายามทุกวิถีทางที่จะทำประตูตีตื้นให้ได้ ทั้งการอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของอองรีและลูกยิงไกลจากแถว2 แต่กลับกลายเป็นฮอลแลนด์ที่ทำประตูหนีห่างไปเป็น4-1 เมื่อเวสลีย์ สไนเดอร์ ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาไปอย่างสวยงาม

หมดเวลาฮอลแลนด์ ลูกทีมของมาร์โก แวน บาสเท่นโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง เอาชนะฝรั่งเศสไปได้4-1 นำเป็นที่1 ของกลุ่มC เหนือทีมร่วมสายสุดหินอย่าง อิตาลี ฝรั่งเศสและโรมาเนีย ผ่านเข้ารอบ2 ไปได้อย่างสมราคาทีมเต็ง


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์