อันเนื่องมาจากเซโก้

src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/110119C1T10220.jpg



     พลันที่ไอ้ดินระเบิดบอสเนีย เอดิน เซโก้ อาละวาดพรีเมียร์ลีกหลายคนบนฐานบัญชาการของเราบอกว่าสอบผ่านๆ


 

ตังกุย ก็เป็นหนึ่งในนั้นหลังเห็นลีลาร่ายเวทย์แมตช์กับวูล์ฟแฮมป์ตัน
 

27 ล้านปอนด์เรือใบเซ็นเช็กให้โวล์ฟบวร์กเข้ามาโค้งคำนับพร้อมกับเลียปากแผล่บๆ รับเงินสบายบรื๋อส์ 
 

ซึ่งตรงนั้นทำให้ดัชนี้ตัวเลขคว้านักเตะในยุคของ ชีค มันซูร์ พุ่งทะลุ 250 ล้านปอนด์ไปแล้ว
 

มันซูร์ ไม่ใช่เจ้าแรก ก่อนหน้านั้น เสี่ยหมี ก็เคยสั่นสะเทือนลีกผู้ดีด้วยการใช้เงินบัลดาลความสำเร็จกับเชลซีในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่
 

ครานั้นพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ คาร์ลิ่ง คัพ ไหลมาเทมา
 

กระนั้นก็ดีครั้งนี้เงินของท่านชีคยังไม่มีคำตอบว่าเรือใบจะมีแชมป์ลีกสูงสุดมาประดับตู้โชว์หรือไม่หลังจากครั้งสุดท้ายที่เคยสัมผัสเกียรติยศนั้นคือซีซั่น 1967/68 ขณะที่ ลีก คัพ คือถ้วยสุดท้ายอย่างเป็นทางการที่พวกเขาทำสำเร็จในปี 1974
 

พลังอัดฉีดของโครตเศรษฐีอาหรับแม้จะยังไม่มีคำตอบเรื่องดังกล่าวแต่ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าเงินของเขาสร้างอณาจักร์อีสต์แลนด์ให้ยิ่งใหญ่ได้ในพริบตา
 

ซิตี้ ทีมที่เคยจรลีระหว่างการเลื่อนชั้นและตกชั้นสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในทีมที่น่าจับตามองในโลกลูกหนัง พวกเขาพยายามผลักตัวเองออกจากร่มเงาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง โดยซีซั่นนี้ท้าทายถึงขนาดทำตัวเป็นหอกข้างแคร่ในการลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว
 

ยิ่งการปรากฏตัวของ เซโก้ ด้วย ผองชนคนซิตี้เลยคึกคักกว่าเดิม เรือใบ ดู หล่อ ยิ่งกว่าเก่า ทำให้ระยะเวลาหลังจากนี้อีก 4 เดือนการลุ้นแชมป์ของพรีเมียร์ลีกจึงร้อนระอุเป็นทวีคูณ
 

จริงอยู่ด้วยประสบการณ์ไม่มีใครเถียงว่าพลพรรค เฟอร์กี้เบบส์ ช่ำชองกับการแบกรับความกดดันได้ดีขนาดไหน โดยเฉพาะกับสองนัดที่แข่งน้อยกว่าอยู่ในกำมือเหนือ ซิตี้ กับแต้มเท่าที่ 45
 

และ 1 นัดที่น้อยกว่าในสถานการณ์ที่มีแต้มมากกว่า อาร์เซน่อล, เชลซี และ สเปอร์ส 2, 7  และ 8 คะแนนตามลำดับ
 

กูรูหลายสำนักมองว่า ยูไนเต็ด พลาดยาก
 

กระนั้นการที่ ยูไนเต็ดสะดุดแบ่งแต้มที่ไวท์ ฮาร์ทเลน  ขณะที่ อีกสามทีมใหญ่กำชัยรวดทำให้อะไรต่อมิอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดย เซอร์ อเล็กซ์ ฟันธงว่า 1 มีนาคมที่จะเยือนเชลซี นั่นแหละคือเกมชี้แชมป์ของทีม ตรงนั้นบ่งชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่อันดับ 2-4 ป๋าแพนด้ามองว่ายังเป็นตัวแสบที่จะทำให้ผีแดงต้องกังวลอยู่ร่ำไป
 

ฉะนั้นการมาของเซโก้ จึงยิ่งทำให้ ยูไนเต็ด เพิ่มความกังวลใจกับคู่แข่งมากขึ้นเป็นธรรมดาและมันก็ทำให้พรีเมียร์ลีกถูกยกระดับให้เป็นลีกที่ลุ้นแชมป์ชนิดที่ต้องซู้ดปากซี้ดซ้าดเผลอๆบั้นปลายต้องใช้ภาพถ่ายตัดสิน
 

ตรงจุดนี้ล่ะครับที่ทำให้เรามองว่าเดิมจากที่ใครพยายามพูดกรอกหูว่า การใช้เงินอัดฉีดสร้างทีมบันดาลความสำเร็จจะทำให้ช่องว่างของทีมใหญ่กับทีมเล็กนั้นห่างขึ้น
 

มองผิวเผินอาจ ใช่ แต่ลึกๆผมว่าก็ ไม่ เสมอไป
 

ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่าเรากำลังตัดสินกันในแง่ไหน?
 

ถ้ามองว่าทีมเล็กหมดสิทธิ์เซอร์ไพรซ์ในการเป็นแชมป์ เขาอาจพูดถูก แต่ฟุตบอลก็เป็นเรื่องของธุรกิจการลงทุนไปแล้วและก็นานมากแล้วด้วยที่เราไม่เห็นทีมเล็กผุดขึ้นมาเบียดทีมลุ้นแชมป์
 

กระนั้นการควักเงินของหลายๆทีมในช่วงหลังรวมถึงการซื้อตัวผู้เล่นที่ถูกต้อง การจ้างโค้ชที่ใช่  นั่นก็ทำให้พรีเมียร์ลีกตื่นเต้นขึ้นกว่าเก่า
 

เราเห็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โผล่ ขึ้นมา สเปอร์ส ก็น่ากลัว พวกเขาเบียด ลิเวอร์พูล อดีตหนึ่งในบิ๊กโฟร์ตกขอบไปได้
 

ลิเวอร์พูล พุ่งชนเหวในวันนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าขีดชื่อของยักษ์ใหญ่แห่งลุ่มน้ำเมอร์ซีย์ออกในวันหน้าเพราะยี่ห้อของหงส์แดงทุกคนกล้าคาดหวังว่าพวกเขาไม่ตายแล้วตายเลย ฉะนั้นต่อไปก็คงมีทีมที่ลุ้นแชมป์มากขึ้นไม่ใช่แค่ บิ๊กโฟร์ อาจเป็น ท็อปไฟว์ หรือ ท็อปซิกซ์ หรือท็อปเซเว่น ก็ว่ากันไป
 

ดังนั้นมันเป็นการดีเหมือนกันไม่ใช่หรือที่การที่ลีกฟุตบอลมีคนมีคนเข้ามาลงทุนแม้จะโดนค่อนขอดว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จก็ตามที!!!
 

ซึ่งมันผิดหรือที่ใช้เงินซื้อความสำเร็จ ฉะนั้นที่ผ่านมาเรานี่แหละที่เป็นเหยื่อ เราอาจโดนใคร ฝังหัว ไปเองโดยไม่รู้ตัวว่าทีมแชมป์ถ้าเจ๋งจริงต้องไม่ใช้เงินซื้อถ้วยแบบฟาสต์ฟู้ด
 

เพราะความคิดของคนเราไม่เหมือนกันบางคนการเป็นแชมป์เขาไม่เลือกหรอกว่าต้องใช้วิธีการไหนจะลัดหรือไม่ลัดไม่มีข้อห้ามบังคับอะไร
 

อีกอย่างถ้ามองกันอีกด้านบางคนบอกว่ายิ่งทีมใหญ่ลงทุนมากเท่าไหร่ทีมเล็กก็ยิ่งตาย ทว่าตอนนี้เรากลับเห็นว่าทีมเล็กๆก็พัฒนาตัวเองได้แข็งขึ้น
 

ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของการอยู่รอด
 

แบล็คพูล หรือจะ วูล์ฟแฮมป์ตัน, วีแกน พวกเขาสามารถชนะทีมใหญ่ได้เหมือนกันหรือไม่ก็ไม่ใช่สมันน้อยให้เคี้ยวได้คล่องคอในหลายๆเกมนั่นเพราะพวกเขาเรียนรู้ในวิธีการที่จะรับมือกับความเขี้ยวในลีกที่มีมากกว่าเก่า
 

จริงอยู่ในแง่การตลาดพวกเขาอาจเป็นเหยื่อของทีมใหญ่หลายหนโดนดึงสตาร์ในทีมไปกระนั้นก็ได้ซึ่งเงินก้อนหนึ่งมาชดเชย และถ้าพวกเขามีสายตากว้างไกล บริหารเงินก้อนใหญ่ที่ได้มาอย่างดี วันหนึ่งพวกเขาก็จะยืนหยัดและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมได้เช่นกัน
 

ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นชัดเจนว่าการลงทุนของทีมใหญ่ หรือการที่ใครค่อนขอดว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จจริงๆแล้วก็ทำให้ทีมเล็กๆเรียนรู้วิธีการอยู่รอดได้เหมือนกัน
 

ซึ่งบางทีมันอาจทำให้ช่องว่างของพรีเมียร์ลีกถูกบีบให้แคบลงด้วยซ้ำ
 

เพราะเท่าที่เห็นมาตรฐานตอนนี้ก็ใกล้เคียงกันมากขึ้น
 

ด้วยเหตุนี้เชื่อครับว่าการมาของ เซโก้ และอีกหลายคนที่กำลังตามมาน่าจะทำให้พรีเมียร์ลีกดุเดือดมากขึ้นในทุกๆปีที่ผ่านไป
 

ทีมไหนตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน
 

มันก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือที่ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่


 
เต็ก บางจาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์