อังกฤษขย่มรัสเซีย 3-0 โอเว่นซัดเบิ้ล

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 รอบคัดเลือก

เมื่อวันพุธที่ 12 กันยายน 2550 ในกลุ่ม E "ทรีไลออนส์" อังกฤษ เปิดสนามเวมบลีย์โฉมใหม่รับมือ "หมีขาว" รัสเซีย โดยสตีฟ แม็คคลาเรน กุนซืออังกฤษ ส่งผู้เล่นชุดเดิมจากนัดที่ถล่ม อิสราเอล 3-0 ลงสนาม โดยมี ริโอ เฟอร์ดินานด์ คุมเกมรับร่วมกับ จอห์น เทอร์รี แดนกลาง 4 ตัวใช้ สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ โคล, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, แกเร็ธ แบร์รี และ มี ไมเคิล โอเวน จับคู่ล่าตาข่ายกับ เอมิล เฮสกี


เริ่มเกมมาได้แค่ 7 นาที

อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุม กองหลังรัสเซียประกบคนไม่ดี ปล่อยให้ โอเวน ยืนว่างโล่งๆ เลยแปเน้นๆบอลเช็ดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม หลังจากเสียประตู รัสเซีย เริ่มเปิดเกมรุกโต้บ้างและมีโอกาสยิงเข้าไปตุงตาข่ายด้วยในนาทีที่ 19 จากคอนสแตนติน ซูเรียนอฟ แต่กรรมเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลเสียก่อน


จากนั้นในนาทีที่ 31

อังกฤษ มาขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะสวนกลับ เฮสกี โหม่งเช็ดให้โอเวน หลุดเข้าไปยิงฮาล์ฟวอลเลย์บอลลอยผ่านมือมาลาเฟเยฟ เข้าไปอย่างงดงาม ในครึ่งหลัง รัสเซีย พยายามเปิดเกมรุกมากขึ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แถมในนาทีที่ 84 ริโอ เฟอร์ดินานด์ เติมขึ้นมาสูงและโยกหลบกองหลัง ก่อนจะสับไกยิงลอดตัว มาลาเฟเยฟ เข้าไปให้อังกฤษนำห่าง 3-0 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมอังกฤษชนะ 3-0 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 2 ในรอบ 4 วัน และทะยานขึ้นรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงมี 20 คะแนนจาก 9 นัด ส่วน รัสเซีย มี 18 แต้ม ตกไปอยู่อันดับ 3


ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2008 รอบคัดเลือก วันพุธที่ 12 กันยายน 2550

กลุ่ม เอ
- คาซัคสถาน เสมอ เบลเยียม 2-2
- ฟินแลนด์ เสมอ โปแลนด์ 0-0
- โปรตุเกส เสมอ เซอร์เบีย 1-1
กลุ่ม บี
- ลิทัวเนีย ชนะ หมู่เกาะแฟโร 2-1
- ยูเครน แพ้ อิตาลี 1-2
- ฝรั่งเศส แพ้ สกอตแลนด์ 0-1
กลุ่ม ซี
- นอร์เวย์ เสมอ กรีซ 2-2
- ตุรกี ชนะ ฮังการี 3-0
- บอสเนีย แพ้ มอลโดวา 0-1
กลุ่ม ดี
- สโลวาเกีย แพ้ เวลส์ 2-5
- ไซปรัส ชนะ ซาน มารีโน 3-0
- สาธารณรัฐเช็ก ชนะ ไอร์แลนด์ 1-0
กลุ่ม อี
- อันดอร์รา แพ้ โครเอเชีย 0-6
- มาซิโดเนีย เสมอ เอสโตเนีย 1-1
- อังกฤษ ชนะ รัสเซีย 3-0
กลุ่ม เอฟ
- เดนมาร์ก ชนะ ลิกเตนสไตน์ 4-0
- ไอซ์แลนด์ ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 2-1
- สเปน ชนะ ลัตเวีย 2-0
กลุ่ม จี
- บัลแกเรีย ชนะ ลักเซมเบิร์ก 3-0
- สโลวีเนีย ชนะ เบลารุส 1-0
- แอลเบเนีย แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์