อย่าเผลอแล้วกัน!แรมโบ้ควงหน้าสิวซัดงูเข่นฟิออ 2-1 พุ่งที่3

อย่าเผลอแล้วกัน!แรมโบ้ควงหน้าสิวซัดงูเข่นฟิออ 2-1 พุ่งที่3

"งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน กลายเป็นอีกทีมรายล่าสุดที่พร้อมท้าทาย ยูเวนตุส แย่งแชมป์สคูเด็ตโต้เมื่อ ดิเอโก้ มิลิโต้ ผนึกกำลัง อันโตนิโอ คาสซาโน่ ปราบ "วิโอล่า" ฟิออเรนตินา 2-1 พร้อมกับแซงโผล่ขึ้นมารั้งอันดับ 3

ผลฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2555

อินเตอร์ 2-1 ฟิออเรนตินา

ประตู: 1-0 ดีเอโก้ มิลิโต้(จุดโทษ) น.17,2-0 อันโตนิโอ คาสซาโน่ น.34,2-1 โรมูโล่ น.40ครึ่งแรก

เปิดฉาก อินเตอร์ ไม่ฟังเสียงบุกกดดันทันทีแค่ 10 นาทีได้ลุ้น นากาโตโม๊ะ ผ่านจากทางขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษกองหลังฟิออเรนตินาสกัดออกมาเข้าทางปืน คูตินโญ่ ยิงสวนไม่ตรงกรอบ

อีก 3 นาทีถัดมา "งูใหญ่" พลาดโอกาสไปอีกครั้งบอลโยนจากทางขวามายังเสาสอง คัมบิอัสโซ่ เอี้ยวตัววอลเลย์บอลติดไซด์โค้งออกหลังไป

กระทั่งนาที 17 อินเตอร์ ออกนำจนได้ 1-0 จากจังหวะที่ ซาเน็ตติ ยิงไปติดมือ โรดริเกซ กรรมการเป่าเป็นจุดโทษแบบไม่ลังเล มิลิโต้ รับหน้าที่เพชฌฆาตไม่พลาด

หลังปลดล็อคได้ประตูขึ้นนำ "งูใหญ่" คึกคะนองอีกนาทีถัดมาน่าจะเป็นประตูแห่งฤดูกาลเลยก็ว่าได้จากจังหวะ คาสซาโน่ ชิพเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย มิลิโต้ เดาะข้ามหัวกองหลังก่อนวอลเลย์ด้วยเท้าซ้าย แบบใบไม้ร่วงบอลชนเสาเต็มๆ

สกอรตามหลังทำให้ ฟิออเรนตินา ต้องหันมาเปิดเกมบุกบ้างกระทั่งนาที 21 ได้ฟรีคิกระยะอันตราย ลายิง ซัดทะลุกำแพงมาแล้วติดเซฟ ฮันดาโนวิช นายทวารปัดแฉลบเสาเหลี่ยมนอก

ผ่านครึ่งชั่วโมง "งูใหญ่" พลาดโอกาสได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย เริ่มจาก คูตินโญ่ จ่ายให้ คาสซาโน่ ถวายพานทองให้ มิลิโต้ หลุดเข้าไปล่อเป้าดวลกับผู้รักษาประตูแต่กลับยิงไปตรงตัว วีเวียโน่ ที่ยืนอยู่เฉยๆเซฟเอาไว้ได้

กระทั่งนาที 34 อินเตอร์ ทิ้งห่าง 2-0 จากจังหวะสวนกลับ คัมบิอัสโซ่ กระชากลากมาเองก่อนไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย คาสซาโน่ หลุดโล่งๆจับด้วยซ้ายก่อนยิงด้วยเข้าเท้าเดียวกันยัดไปที่เสาแรกไม่เหลือ

โดนนำห่าง 2 เม็ด "งูใหญ่" ผ่อนเกมถอยมาตั้งรับเพื่อยันสกอร์เปิดโอกาส ฟิออเรนตินา ตามทวงคืนไล่มา 1-2 ในนาที 40 ปิซาณ์โร่ กระชากมาทางซ้ายเลี้ยงหาช่องเงยหน้ามองก่อนตักโด่งเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวา โรมูโล่ เทคตัวโหม่งคนเดียวโล่งๆกดลงพื้นเสียบตาข่าย

หลังตีไข่แตก "วิโอล่า" คึกอีก 2 นาทีจะหมดครึ่งแรกเกือบตามตีเสมอ โยเวติช กระชากหลุดเส้นหลังทางซ้ายก่อนจ่ายย้อนหักเข้ากลาง ลายิช ยืนอยู่โล่งๆจับบอลยาวเกินไปเลยโดน ฮันดาโนวิช นายทวารพุ่งมาคว้าบอลจากเท้า จบ 45 นาที "งูใหญ่" นำห่างเม็ดเดียว

ครึ่งหลัง

กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ฟิออเรนตินา พยายามเปิดเกมบุกแต่แล้วเกิดจุดเปลี่ยนจนได้เมื่อ โรดิเกซ โดนใบเหลืองใบที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกหลังสกัด นากาโตโม๊ะ จากด้านหลัง "วิโอ่า" เหลือแค่ 10 คน

แม้ตัวน้อยกว่าแต่ ฟิออ พยายามเปิดเกมบุกสู้นาที 72 อินเตอร์ ได้โอกาสสวนกลับบอลวางยาวมาถึง มิลิโต้ หลุดทะลุเข้าไปยิงคุมแคบในกรอบเขตโทษทางขวาบอลแฉลบผ่านหน้าปากประตู

ตัวเหนือกว่า "เนรัซซูรี่" หันมาเปิดเกมบุกแลกอีกครั้ง 3 นาทีถัดมาน่าจะได้ประตูตอกย้ำชัย อัลวาเรซ หลุดโล่งๆในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนไหลให้ มิลิโต้ ยิงล่อเป้าไม่ถึงสิบหลาไปตรงตัว วิเวียโน่ นายทวารปัดทิ้งออกมา

จากนันเวลาที่เหลือแม้ ฟิออเรนตินา พยายามพาบอลไปเปี้ยนเปี้ยวแถวเขตโทษแต่แผงหลัง อินเตอร์ ช่วยกันสะกดได้ดีแลบะเป็นฝ่ายควมคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดจนกระทั่งจบเกมการแข่งขันเฉือน 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อินเตอร์ มิลาน(3-5-2): ฮันดาโนวิช-ราน็อคเคีย,ซามูเอล,ฮวน เฮซุส-นากาโตโม๊ะ,คัมบิอัสโซ่(มูดินกายี น.82),การ์กาโน่,คูตินโญ่(อัลวาเรซ น.71),ซาเน็ตติ-มิลิโต้,คาสซาโน่(กวาริน น.85)

ฟิออเรนตินา(3-5-2): วิเวียโน่-รอนกาย่า,โรดริเกซ,โทโมวิช-ควาร์ดาโด้(โทนี่ น.70),โรมูโล่,ปิซาร์โร่,วาเลโร่(มิญัชโช่ น.82)-ลายิช(เฟร์นานเดซ น.46),โยเวติช