หยุดเถอะยักษ์ใหญ่

การดำเนินการของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่เตรียมบทลงโทษห้ามทีมเชลซีซื้อนักเตะใหม่เป็นเวลา 2 ปี นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ

กล่าวคือ ทีมยักษ์ใหญ่ของกรุงลอนดอนพยายามชักชวนให้ กาแอล กากูต้า ดาวรุ่งของสโมสรล็องส์ ฉีกสัญญากับต้นสังกัดเพื่อย้ายมาร่วมทีมในปี 2007 และยังเกี่ยวพันไปถึง "ผีแดง"แมนฯ ยู สโมสรฟุตบอลที่มั่งคั่งที่สุดในโลก ที่คว้าตัว พอล พ็อกบา มิดฟิลด์วัย 16 ของเลออาฟร์ ไปในลักษณะคล้ายคลึงกัน

อแลง เบลซูร์ ประธานฝ่ายเทคนิคของเลออาฟร์ ออกมาแสดงความเห็นว่า ฟีฟ่าควรจะดำเนินการในลักษณะนี้มานานแล้ว

อะไรที่ไม่ถูกไม่ควร องค์กรหลักอย่างฟีฟ่าควรจะชูธงนำ มีบทลงโทษที่รุนแรง มีการดำเนินการที่แข็งกร้าว

เป็นการสะกิดเตือน "ยักษ์ใหญ่" ว่า เงิน ไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้

นี่ไม่ใช่กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เคยมีรายงานข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ในอังกฤษหลายฉบับที่ระบุว่า
ในประเทศยากจนหลายแห่ง สินค้าที่กำลังเป็นที่ต้องการก็คือนักเตะอายุน้อยๆ ที่มีพรสวรรค์สูง ซึ่งมีสโมสรใหญ่ในยุโรปและตะวันออกกลางต้องการได้ตัวเป็นอย่างยิ่ง จนบางรายเข้าข่ายกดขี่แรงงานนักเตะหนุ่มไปก็มี

ฟุตบอลกลายเป็นการค้าไปได้อย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน

แม้แต่ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ก็เคยให้สัมภาษณ์ไม่พอใจการปฏิบัติของสโมสรชั้นนำของยุโรปหลายแห่งอยู่เนืองๆ เช่นกัน

แบล็ตเตอร์ ระบุว่า การไล่ล่านักเตะหนุ่มๆ เหล่านี้ ก็เหมือนการปฏิบัติการของนักล่าอาณานิคม ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว

นี่คือ "ด้านมืด" ของกีฬาที่คนคลั่งไคล้มากที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย

ปัญหาที่พบก็คือ วงการฟุตบอลทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรป ได้กลายเป็นตลาดที่ปล่อยให้ทีมยักษ์ใหญ่เงินถุงเงินถัง กอบโกยเงินทอง และทำงานแบบไม่เห็นหัวทีมเล็กๆ

การผูกขาดเช่นนี้นับวันจะรุนแรงยิ่งขึ้น

มีข้อมูลจากทีมเลออาฟร์ ระบุว่า
 
สโมสรได้จ่ายเงินปีละกว่า 7.14 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนอะคาเดมี่ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกนักเตะเยาวชนของสโมสร และเกินกว่าครึ่งค่อนทีมของทีมชุดใหญ่ เป็นนักเตะที่มาจากอะคาเดมี่ของสโมสรทั้งสิ้น การมาโดนฮุบในลักษณะนี้จึงออกจะเกินทนไปหน่อย

ถึงเวลาที่ "ยักษ์ใหญ่" ควรจะหยุดเพื่อทบทวนตัวเองบ้างแล้ว

หรือว่าไงครับ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์