หมูมาแว้ว!ซัดโทนพาผีลิ่วน็อคเอาท์


ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553


เรนเจอร์ส 0 : 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


ประตู :
0-1 เวย์น รูนี่ย์ น.87 (จุดโทษ)

ครึ่งแรก

อาร์ตได้โขกแต่ยังตรงตัว

เริ่มเกมมา 7 นาทีเป็นทีมเยือนทีได้โอกาสจบสกอร์ก่อนหลังไรอัน กิ๊กส์แทงบอลให้ฟาบิโอหลุดขึ้นไปทางกราบซ้ายล็อคบอลไปเข้าเท้าขวาแล้วบรรจงเปิดเข้ากลางมาบอลเลยมาถึงเบอร์บาตอฟได้โขกแต่ว่ายังตรงแม็คเกรเกอร์รับเอาไว้ได้

ผีขึงแต่จบไม่ลง

ช่วง 15 นาทีแรกเป็นทางฝั่งยูไนเต็ดที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดครองบอลบุกใส่เรนเจอร์สได้อยู่เกือบตลอด ทว่าจังหวะสุดท้ายไม่คมพอทำให้ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ

มิลเลอร์โขกเกือบหาย

นาที 16 เจ้าบ้านได้โอกาสครั้งแรกของเกมแล้วก็เกือบเป็นประตูไปเลยหลังได้ฟรีคิกที่หน้าเขตโทษยูไนเต็ดเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษเป็นเดวิด เวียร์ที่โขกชงต่อให้เคนนี่ มิลเลอร์ได้โขกเหน่งๆแล้วแต่ว่าบอลผ่านหน้าปากประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ผีต่อบอลสวยแต่นานี่ซัดข้ามคาน

ช่วงกลางครึ่งแรกเกมค่อนข้างน่าเบื่อหลังทั้งสองทีมแทบจะหาโอกาสจบกันไม่ได้เลยกว่าจะมีโอกาสกันอีกครั้งก็ปาเข้าไปนาที 37 เป็นทางฝั่งยูไนเต็ดที่มีโอกาสจากจังหวะที่ไรอัน กิ๊กส์ได้บอลอยู่ที่หน้าเขตโทษจ่ายต่อให้นานี่เล่นวันทูกับคาร์ริคหลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วแต่จังหวะยิงซัดข้ามคานไปไม่ได้ลุ้นเลย

หมูโขกชนคาน

ทีมเยือนได้โอกาสจบสกอร์ต่อเนื่องคราวนี้เป็นจังหวะที่ไรอัน กิ๊กส์จ่ายบอลให้ฟาบิโอทะลุขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนโยนเข้ากลางไปให้รูนี่ย์ได้บอลลอยข้ามหัวแม็คเกรเกอร์ไปแล้วแต่น่าเสียดายที่ไปตกบนคานแล้วกระเด้งออกหลังไป

มิลเลอร์หลุดซัดติดนิดเดียว

นาที 40 เจ้าบ้านมาได้โอกาสที่ดีที่สุดในครึ่งแรกหลังเคนนี่ มิลเลอร์ได้บอลหลุดเข้าไปทางเขตโทษทางฝั่งขวาแต่ไม่ยอมจ่ายให้เพื่อนที่รออยู่ทางเสาสองโล่งๆไปซัดเองสุดท้ายติดขาฟาน เดอร์ ซาร์ออกหลังไป

จากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่มีโอกาสจบสกอร์เพิ่มเติมทำให้ครบ 45 นาทียังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

หมูฟรีคิกได้ลุ้น

เริ่มครึ่งหลังมาแค่ 2 นาทีเป็นยูไนเต็ดที่ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะฟรีคิกระยะประมาณ 27 หลาซัดข้ามกำแพงมาได้แล้วแต่บอลไซด์มากเกินทำให้หลุดเสาออกหลังไป

[เบิร์บวอลเล่ย์ไปไหน
ต้นครึ่งหลังรูปเกมยังเป็นทางฝั่งยูไนเต็ดที่ดูดีกว่าและได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ไรอัน กิ๊กส์สลัดตัวประกบหลุดขึ้นไปทางกราบซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางมาให้เบอร์บาตอฟได้วอลเล่ย์แต่โดนไม่เต็มบอลไม่มีน้ำหนักบอลเข้ามือแม็คเกรเกอร์รับสบาย

คาร์ริคพลาดโอกาสทอง

นาที 55 ยูไนเต็ดน่าได้ประตูขึ้นนำจริงๆจากการประสานงานกันอย่างลงตัวหลังดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟจ่ายให้รูนี่ย์ที่รออยู่หน้าเขตโทษแล้วไหลต่อให้คาร์ริคหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษแล้วแต่จังหวะสุดท้ายดันยิงไปตรงตัวแม็คเกรเกอร์บล๊อกเอาไว้ได้

อีแวนส์พลาดเกือบงานเข้า

นาที 58 จอห์นนี่ อีแวนส์เกือบทำยูไนเต็ดงานเข้าแล้วหลังบังบอลไม่ดีเสียเหลี่ยมให้เนสมิธได้ยิงแต่ยังดีที่ฟาน เดอร์ ซาร์บล๊อกได้ดีทำให้รอดการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด

รูนี่ย์โขกยังไม่ได้อีก

ช่วงนาที 70 ยูไนเต็ดโหมเกมรุกอย่างหนักหวังจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้แล้วก็มีโอกาสจากจังหวะที่ไรอัน กิ๊กส์เปิดให้เวย์น รูนี่ย์ได้โขกแต่บอลก็ไม่ตรงกรอบหลุดออกหลังไป

เบิร์บ,บังออก-ถั่ว,อบต.ลง

นาที 76 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันตัดสินใจปรับเปลี่ยนแนวรุกถอดเอาดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟและนานี่ออก แล้วส่งฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซกับกาเบรียล โอแบร์ตองลงไปเล่นแทน

เนสมิธก้านคอฟาบิโอ!ผีได้จุดโทษ

นึกว่าเกมนี้จะจบลงด้วยผลเสมอแล้วแต่แล้วในนาทีที่ 86 ยูไนเต็ดมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ฟาบิโอหลุดเข้าไปในเขตโทษพยายามจะโหม่งบอลแต่โดนเนสมิธเตะเข้าไปเต็มหน้าทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที

แล้วก็เป็นเวย์น รูนี่ย์ที่รับหน้าสังหารยิงเข้าไปทางมุมซ้ายมือของตัวเอง ปีศาจแดงขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มทำให้จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะเรนเจอร์สไปได้ 1-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เรนเจอร์ส :
อัลลัน แม็คเกรเกอร์ 7, เคิร์ค บรอดฟุต 6, เดวิด เวียร์ 7.5, สตีเว่น วิทเท๊กเกอร์ 6.5 , ริชาร์ด ฟอสเตอร์ 7, สตีเว่น เดวิส 6, ลี แม็คคัลล็อค 6, ไคเล่ ฮัตตัน 6.5 (บีตตี้ น.88), วลาดิเมียร์ ไวส์ส 6.5 (เฟล๊ค น.80), สตีเว่น เนสมิธ 5.5 , เคนนี่ มิลเลอร์ 6

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6.5, คริส สมอลลิ่ง 7, โจนาธาน อีแวนส์ 6.5, ฟาบิโอ 7, จอห์น โอเชีย 6, พอล สโคลส์ 6.5 (แอนเดอร์สัน น.67,6), ไมเคิ่ล คาร์ริค 6, ไรอัน กิ๊กส์ 6.5, นานี่ 6.5 (โอแบร์ต็อง น.76,6), เวย์น รูนี่ย์ 7**, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6 (เฮอร์นานเดซ น.76,6)




เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์