หมูน้ำตัวที่4!เกมรับห่วยคู่เรือเจ๊า2-2

หมูน้ำตัวที่4!เกมรับห่วยคู่เรือเจ๊า2-2

โคเปเฮเก้นและแมนเชสเตอร์ ซิตี้โชว์เหมียวน้ำในเกมรับที่ห่วยแตกทั้งคู่จนเป็นเหตุมอบโชคให้กันและกันก่อนโดยเฉพาะลูกทีมมาร์ค ฮิวจส์มาโดนช่วงทดเจ็บจนต้องจำใจควงแขนเสมอ 2-2 ในศึกยูฟ่า คัพรอบ 32 ทีมเลกแรก

โคเปเฮเก้น 2-2 แมนฯซิตี้

ประตู :
0-1 โอนูฮา น.29,1-1 อัลเมด้า น.56,1-2 ไอร์แลนด์ น.61,2-2 วินการ์ด น.90+1

ครึ่งแรก

ช่วงต้นของเกมเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่าและเหมือนจะสนุกกับการสร้างปัญหาให้ทีมของมาร์ค ฮิวจส์เอามากๆ

แต่จังหวะรุกขึ้นมาของเรือใบก็พยายามตั้งเกมแต่ขาดความแน่นอนทำให้เสียบอลบ่อยมากแต่เกมคู่นี้เหมือนจะทันกันทำให้เกมขาดๆเกินๆไม่ค่อยเร้าใจซักเท่าไหร่

นาที 21 คริสเทนเซ่นเปิดบอลครอสจากปีกขวาให้ควิสท์หันหลังสะบัดโขกตรงระยะ 12 หลาแต่กิฟเว่นยืนตรงกลางเลยรับเข้าซองสบาย แต่จังหวะนี้บอกให้เห็นว่าแนวรับของทีมเยือนคุมกันหลวมมาก

แต่นาทีถัดมาซิตี้เกือบขึ้นนำหลังโรบินโญ่กระชากฝ่าด่านแนวรับของโคเปเฮเก้นที่วิ่งตามกรูกันมา 2-3 คนตรงหน้าเขตโทษก่อนไหลให้ไอ้สั้นไรท์ ฟิลลิปส์จับบอลแล้วแต่งเข้าขวาแล้วยิงเลียดแต่คริสเตียนเซ่นล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้

นาที 25 เจ้าถิ่นเกือบขึ้นนำอีกหลังลูกวางยาวสาดเข้าเขตโทษเป็นโคเปเฮเก้นสองคนนัวเนียแย่งกับกองหลังเรือใบก่อนกระฉอกมาเข้าทาง ที่วิ่งมายิงเต็มๆแต่ลืมเผื่อแรงบวกบอลเลยโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

แต่แล้วอีก 4 นาทีต่อมาแฟนบอลในสนามช็อกตาตั้งกันเป็นแถวและเชื่อว่านักเตะทีมเยือนเองก็งงไม่แพ้กันจากความผิดพลาดของคริสเตียนเซ๋นนายทวารที่อยู่ดีๆปล่อยให้ลูกยิงเบาเป็นเด็ก 6 ขวบของโอนูฮาที่หลุดเข้าเขตโทษเอียงตัวแปจะเล่นทางแต่อุตสาห์ตั้งท่าก้มรับสองมืดจะช้อนให้เข้าหน้าอกซองแตกค่อยๆกลิ้งข้ามเส้นเข้าไปซะงั้น อีกไม่นานต้องรวมอยู่ในช็อตฮากลิ้งในยูทูปแน่นอน

พอโดนลูกนี้เข้าไปเกมของโคเปเฮเก้นแอบช็อตเพราะตรงกันข้ามพวกเรือใบเล่นแบบคึกคักและมีพื้นที่ในการสวนกลับเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก

ช่วงทดเจ็บเกือบมีภาพกีฬามันมันอีกหลังเลาร์เซ่นกัปตันทีมกองหลังตัวสุดท้ายหวดเคลียร์บอลไปชนซาบาเลต้าที่วิ่งเข้ามาบีบอลทะลักเข้าเขตโทษก่อนวิ่งตีคู่เบียดกันไปเรื่อยๆจนสุดท้ายดาวเตะสแปนิชช้ากว่าเลยจังหวะยิงอัดไปเข้าข้างตาข่ายซะงั้น

จากนั้นอีกอึดใจเดียวแนวรับทีมเยือนปล่อยให้ ลากตัดเข้าในเขตโทษก่อนสับด้วยอีซ้ายบอลทะลุฝูงแข้งเรือใบถากเสาออกไปหวุดหวิด หมดครึ่งแรกซิตี้มานำเฮง 1-0

ครึ่งหลัง

เขี่ยได้นาทีเดียวไอ้สั้นป่วนแนวรับเลี้ยงจี้หน้าเขตโทษก่อนแตะพรวดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงมุมแคบไปเข้ามือคริสเตียนเซ่นที่ล้มตะครุบเอาไว้ได้ติดหนึบ

ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้กลายเป็นบอลวันเวย์ของซิตี้ที่ไล่นวดอยู่ข้างเดียวโดยแนวรับของโคเปเฮเก้นชักจะเอาไม่อยู่เปิดพื้นที่ว่างในกรอบมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยนาที 52 ไอร์แลนด์ได้บอลลจากเบลลามี่ที่ตบจากเส้นหลังแต่ลูกยิงเต็มข้อไปชนไอ้สั้นที่เป็นมารหัวขนมายืนขวางทางไม่งั้นอาจถึงตุงได้เลย

แต่อีก 4 นาทีต่อมาโอกาสแรกในครึ่งหลังของโคเปเฮเก้นก็เป็นประตูจนได้จากลูกเตะมุมของควิสต์บอลโค้งไซด์มาเข้ากบาลอัลเมด้าที่วิ่งมาโขกเน้นๆตรงกรอบ 6 หลาตัดหน้าสองแข้งเรือใบที่ยืนเกร็งคอรอโขกแต่คนวิ่งย่อมได้เปรียบ บอลตุงตาข่ายพร้อมอากัปกริยาสุดเซ็งของมาร์ค ฮิวจส์ที่ซุ้มม้านั่งสำรอง

อย่างไรก็ตามหลังนำแล้วคึกคักบดทีมเยือนอยู่แป๊บเดียวแค่ 5 นาทีเรือใบมาขึ้นนำหน้าตาเฉยจากลูกที่ไม่น่ามีอะไรเพราะโรบินโญ่ถูกต้อนไปอยู่ตรงมุมธงแถมคิดชั่วจะเตะอัดเอาเตะมุมเลยเปิดเข้ากลางปรากฏบอลทะลุตัวประกบที่ยืนบังมาถึงไอร์แลนด์ที่วอลเลย์จังหวะเดียวตุงตาข่ายไม่มีเหลือ งานนี้เลาร์เซ่นกัปตันทีมรับเละอีกเพราะยืนคุมยังไงให้ไอร์แลนด์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวได้ยิงโล่งๆแบบนั้น

โคเปเฮเก้นไม่มีอะไรจะเสียปูพรมขึงเกมเข้าใส่ส่วนซิตี้ถอยลงมาตั้งรับเกือบหมดยืนกันสองชั้นจนรับมือได้ทุกกระบวนท่า

ซิตี้รับอยู่พักใหญ่พอได้สวนทีนี่หลุดโล่งแบบเดี่ยวๆในนาที 82 แต่โรบินโญ่ซึ่งหลุดเข้าเขตโทษมัวแต่ชักช้าเลยถูกบีบให้ยิงจนคริสเตียนเซ่นล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้หวุดหวิด

ก่อนหมดเวลา 5 นาทีซิตี้สวนขึ้นมามีตัวน้อยแค่เบลลามี่กับไรท์ ฟิลลิปส์แต่ก็ยังอุตสาห์ชิ่งไปชิ่งมาตรงปีกซ้ายอยู่ 2-3 จังหวะก่อนที่ถีบจักรจะแปะให้ไอ้สั้นได้ส่องในกรอบโทษแต่คริสเตียนเซ่นล้มตัวปัดก่อนเบียดเสาแรกสุดเสียว

อย่างไรก็ตามช่วงทดเจ็บนาทีแรกโคเปเฮเก้นมาตีเสมอจากจังหวะกรุนชาร์อดีตแข้งเชลซีตัวสำรองวิ่งทะลุช่องรับลูกจ่ายของเพื่อนก่อนตบบอลย้อยตรงเส้นหลังให้วินการ์ดตัวสำรองอีกคนวิ่งมาโขกตรง 6 หลาบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ จังหวะนี้แนวรับทีมเยือนวิ่งไปจับอัลเมด้าที่เสาแรกกันหมด จบเกมเสมอ 2-2 ต้องไปเล่นกันใหม่ที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ซึ่งทีมของสปาร์กี้ได้เปรียบตรงที่เสมอ 0-0,1-1 ก็จะเข้ารอบด้วยกฏอเวย์โกล์ทันที

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

โคเปเฮเก้น :
คริสเตียนเซ่น,พอสเปช,เลาร์เซ่น,อันทอนส์สัน,เวนดท์,ควิสต์(วินการ์ด น.59),คริสเทนเซ่น,นอร์เรการ์ด(กรุนชาร์ น.71),ฮัทชิสัน,อัลเมด้า,ซานติน(เอ็นดอย์ล น.59)

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น,โอนูฮา,ไมคาห์ ริชาร์ดส ,ริชาร์ด ดันน์,เวย์น บริดจ์,ซาบาเลต้า,แวงซอง กอมปานี,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,โรบินโญ่(ไคเซโด้ น.90),เบลลามี่

ผู้ตัดสิน : พาเบล คราโลเวค(สาธารณรัฐเช็ก)
























 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์