สุดสัปดาห์นี้ บอลสโมสรยุโรปต้องหลีกทางให้โปรแกรมทีมชาติ ซึ่งมีทั้งนัดอุ่นเครื่องและฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกมากมายหลายคู่
บอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ใกล้เข้ามาแล้วนะครับ แม้ว่าทีมที่เข้ารอบชัวร์ๆ จะยังมีไม่เยอะ แต่สัปดาห์หน้าก็คงได้เพิ่มอีก โดยเฉพาะขวัญใจคนดูอย่าง อังกฤษ ซึ่งถ้าเอาชนะ โครเอเชีย ในวันพุธก็ฉลองใหญ่ได้ทันที
ก่อนจะถึงเกมสู้โครแอต สิงโตคำรามมีคิวอุ่นเครื่องกับสโลวีเนียในวันเสาร์ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือ คงทดสอบแทคติคกับตัวผู้เล่นพอหอมปากหอมคอ ไม่เน้นอะไรมากมาย เพราะทีมชุดนี้ลงตัวดีอยู่แล้ว นักเตะก็เข้าใจว่าควรเล่นยังไง
หัวใจของอังกฤษคือ แดนกลางที่ครบเครื่องช่วยเกมรับได้ เกมรุกก็มีตัวเติมขึ้นไปยิงประตู ลดภาระให้ เวย์น รูนี่ย์ รวมๆ แล้ว ทีมชุดนี้มองไกลไปถึงรอบสุดท้ายได้เลย และนั่นจะเป็นความท้าทายกับเป้าหมายอย่างแท้จริง
อังกฤษอาจเคยโดนโครเอเชียเขี่ยตกรอบบอลยุโรป แต่เมื่อโครแอตขาดเพลย์เมคเกอร์อย่าง ลูก้า โมดริช ที่เจ็บ มันก็ยากที่ฟ้าจะผ่าซ้ำสอง นี่คือความจริงที่โค้ช สลาเวน บีลิช ก็คงยอมรับแก่ใจและน่าจะไปลุ้นจริงจังอีกทีในเกมเพลย์ออฟมากกว่า
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกโซนยุโรป เขาเอาแค่ทีมจ่าฝูง 9 ทีมเข้ารอบอัตโนมัติ ส่วนอันดับสองจะคัดเฉพาะที่สองที่ผลงานดีสุด 8 ทีมมาประกบคู่เล่นเพลย์ออฟเพื่อโปะให้ครบโควต้า 13 ทีม จะเห็นว่าระบบค่อนข้างหินและทีมดังๆ มีหวังหลุดโผแบบช็อคแฟนๆ กันหลายทีมเลยแหละ
เคยคิดไหมครับว่า ถ้าบอลโลกปีหน้าไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช งานจะกร่อยขนาดไหน?
เรื่องนี้เป็นไปได้ 60 เปอร์เซ็นต์ เพราะทั้ง โปรตุเกส และ สวีเดน ในกลุ่ม 1 อาการไม่ดีทั้งคู่ ตามจ่าฝูง เดนมาร์ก ถึง 7 แต้ม โอกาสตกรอบเปิดกว้างเห็นๆ โดยเฉพาะทีมฝอยทองโปรตุเกสที่เสาร์นี้จะบุกเยือนเดนมาร์ก ถ้าแพ้ขึ้นมาก็วงแตกกันเท่านั้น
ในเกมระดับชาติ โรนัลโด้ช่วยได้แค่ระดับหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังแก้ปัญหากองหน้าฝืด เกมรุกสนิมเขรอะไม่ตก โปรตุเกสเล่นระบบคัดเลือกมา 6 นัด เสมอ 0-0 ถึง 3 เกม หนึ่งในนั้นเป็นการเสมอหมูสนาม แอลเบเนีย ในบ้านเสียด้วย
ถ้าเกิดอะไรขึ้น มันก็ต้องโทษตัวเองเต็มๆ
โปรตุเกสกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนเจเนอเรชั่นคล้ายๆ ฝรั่งเศส แต่ทีมตราไก่โชคดีที่มีตัวให้เลือกเยอะกว่า คุณภาพดีกว่า สไตล์การเล่นก็หลากหลายแถมกระจายกันไปอยู่ทีมใหญ่ในยุโรป สะสมความเก๋าไว้เพียบ
ฝรั่งเศสที่อยู่กลุ่ม 7 อาจยังตามจ่าฝูง เซอร์เบีย 5 แต้ม แต่ก็แข่งน้อยกว่า 1 นัด ถ้าวันเสาร์เอาชนะโรมาเนียก็จะไล่จี้ติดและพร้อมจะเล่นบิ๊กแมตช์ต่อในวันพุธทันที
บิ๊กแมตช์ที่ว่าคือ การบุกเยือนเซอร์เบีย ซึ่งน่าจะเป็นเกมชี้ชะตาหาทีมเข้ารอบแน่ๆ ตรงนี้เป็นการทดสอบเลยว่า คนรุ่นใหม่ของฝรั่งเศสอย่าง อาบู ดิอาบี้, ลาสซาน่า ดิยาร่า, ฟร้องก์ ริเบรี่ ปาตริช เอฟร่า จะก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักให้ "เลส์เบลอ" ได้หรือยัง
แฟนเก่าแฟนแก่เอาใจช่วยกันได้ตามสะดวก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
