สิงโตโคตรดุ!ขย้ำ6-0,สวีเดนต้อนยับ

สิงโตคำราม อังกฤษ จ่าฝูงของกลุ่ม 6 ที่ชนะมา 6 นัดรวด ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดสังเวียน เวมบลีย์ ไล่ยำใหญ่ อันดอร์ร่า ทีมบ๊วยของกลุ่มไปแบบเหนือชั้น 6-0 ด้าน ขุนพลไวกิ้ง ทีมชาติสวีเดน ยังมีลุ้นไปเล่นในรอบสุดท้ายอยู่ หลังถล่ม มอลตา 4-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนที่ผ่านมา


                                                                           ฟุตบอลโลก 2010
                                                                   (รอบคัดเลือก โซนยุโรป)
                                                                  วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2552
                                                                                    (กลุ่ม 6)
                                                                     อังกฤษ 6 - อันดอร์ร่า 0

 


สิงโตคำราม อังกฤษ จ่าฝูงของกลุ่ม 6 ที่ชนะมา 6 นัดรวด ลงเล่นใน เวมบลีย์ พบกับ อันดอร์ร่า ทีมบ๊วยของกลุ่มที่แพ้มา 6 นัดรวด กุนซือฟาบิโอ คาเปลโล่ ของอังกฤษ ต้องขาด ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ แกเร็ธ แบร์รี่ เนื่องจากเจ็บและติดโทษแบน จึงเป็นโอกาสของ โจลีออน เลสค็อตต์ กับ เดวิด เบ็คแฮ่ม ได้ลงเล่นแทน และเป็นเกมที่ 112 ในนามทีมชาติของ เบ็คส์ ด้วย

 

โดยเกมนี้อัฒจันทร์ในเวมบลีย์ค้อนข้างบางตา เพราะการประท้วงหยุดงานของรถไฟใต้ดิน

 
  เริ่มเกมมาอังกฤษ บุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 2 ก็หวิดจะได้ประตูนำไปก่อนเมื่อ เกล็น จอห์นสัน กระดกบอลเข้าเขตโทษให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ดูดบอลลงก่อนจะซัดมุมแคบฝั่งขวาในเขตโทษ เจซุส อัลบาเรซ นายทวารอันดอร์ร่าต้องทุบออกมาแต่ เวย์น รูนี่ย์ ได้โหม่งซ้ำบอลไปชนคานอย่างจัง พลาดได้ประตูไปสำหรับทัพสิงโตคำราม

 

แต่อีก 2 นาทีถัดมา อังกฤษ ขึ้นนำ 1-0 จนได้ เมื่อ จอห์นสัน คนเดิมตั้งป้อมเปิดโค้งจากฝั่งขวาอย่าเหมาะเหม็งให้ เวย์น รูนี่ย์ ตั้งหัวโหม่งเน้นๆที่เสาสอง ผ่านมือ อัลบาเรซ ง่ายๆตุงตาข่าย

 

นาทีที่ 10 ยังเป็นโอกาสของอังกฤษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้บอลฝั่งซ้ายก่อนจะตัดเข้ากลางและยิงด้วยขวา บอลพุ่งจะเสียบเสาแรกแต่ อัลบาเรซ ผวาทุบทิ้งออกหลังไปได้ จากจังหวะเตะมุมไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

 

เกมหยุดลงชั่วขณะในนาทีที่  27 เมื่อ เฟอร์นานโด ซิลวา ขึ้นโหม่งแย่งบอลแต่ว่าไปโดนศอกของ เลสค็อตต์ จนแตกต้องออกไปปฐมพยายามข้างนอก และผู้ตัดสินเป่าให้เกมดำเนินต่อไป อันดอร์ร่าต้องเล่นเพียง 10 คน

 
  เพราะผู้เล่นน้อยกว่า อันดอร์ร่า ก็โดนเจาะประตูเลย จอห์นสัน แทงทะลุให้ วัลค็อตต์ สปีดไปตบบอลย้อนหลังคืนมาให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วิ่งเข้ามาเข่นเน้นส่งบอลพุ่งเรียดลอดขา อัลบาเรซ เข้าไปอีกประตู อังกฤษ นำ 2-0

 
  นาที 32 อันดอร์ร่า มามีโอกาสแรกของเกมจากการยิงของ เซร์จี้  โมเรโน่ แต่ว่าไม่เข้ากรอบ

 

เกมตกเป็นของอังกฤษโดยสิ้นเชิง นาที 38 ก็มาได้ประตูนำห่างเป็น  3-0 เมื่อ จอห์นสัน คนเดิมได้เปิดบอลจากสุดเส้นข้างเข้าไปหน้าประตูให้ รูนี่ย์ วิ่งเข้ามาแปเน้นๆส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย ทำให้จบครึ่งแรก สิงโตคำราม นำสบาย 3-0

  

ครึ่งหลัง อังกฤษ เปลี่ยนสองคนส่ง แอชลี่ย์ ยัง กับ เจอร์เมน เดโฟ ลงแทน รูนี่ย์ กับ เจอร์ราร์ด

 

ถึงนาทีที่ 73 สกอร์เปลี่ยนเป็น 4-0 สำหรับ อังกฤษ จากเตะมุมสั้น เกล็น จอห์นสัน ล็อกหลอกกองหลังสองจังหวะ แล้วโยนให้ เจอร์เมน เดโฟ ตัวสำรอง โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม

 

ถัดจากนั้น 2 นาที อังกฤษ หนีห่าง 5-0 เดวิด เบ็คแฮม ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลา เฮซุส อัลบาเรซ รับบอลไม่อยู่มือ เลยเสร็จ เดโฟ เผด็จศึกตุงตาข่าย เป็นประตูที่สองของดาวยิงสเปอร์สในเกมนี้

 

จากนั้น สิงโตคำราม มาได้ประตูปิดท้าย 6-0 ในนาทีที่ 80 เจอร์เมน เดโฟ ยิงแฉลบกองหลังอันดอร์ร่า เข้าทาง ปีเตอร์ เคร้าช์ สังหารจ่อๆ เข้าไปไม่พลาด

 

จบเกม อังกฤษ ไล่ยำ อันดอร์ร่า เละเทะ 6-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 
อังกฤษ : โรเบิร์ต กรีน, เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี่, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล, ธีโอ วัลค็อตต์, เดวิด เบ็คแฮ่ม, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนี่ย์, ปีเตอร์ เคร้าช์ 

สำรอง : พอล โรบินสัน, แกรี่ เนวิลล์, เวย์น บริดจ์, แอชลี่ย์ ยัง, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,  เจอร์เมน เดโฟ, คาร์ลตัน โคล
 
อันดอร์ร่า : เจซุส อัลบาเรซ, โจเซป อยาล่า, โจเซป การ์เซีย, ออสการ์ โซเนยี, อันโตนี่ ลิม่า, อิลเดฟอนส์ ลิม่า, เซร์จี้ โมเรโน่, มาร์ซิโอ วิเอร่า, เฟอร์นานโด ซิลวา, มาเนล จิเมเนซ, ฮาเวียร์ อันดอร์ร่า
 
สำรอง :  จูลี่ เฟอร์นานเดซ, โจเซป โกเมส, จอร์ดี้ เอสคูร่า, วิคเตอร์ โมเรร่า, วิคเตอร์ โรดริเกซ, เจนิส การ์เซีย, มาร์ค วัลเลส

                                                                                      (กลุ่ม 1)
                                                                         สวีเดน 4 - มอลตา 0
สนาม:
เอ็นยา อุลเลวี่, โกเตนเบิร์ก, สวีเดน 
 

ขุนพลไวกิ้ง ทีมชาติสวีเดน ต้องการชัยชนะเท่านั้นเพื่อเก็บโอกาสลุ้นไปเล่นรอบสุดท้ายเอาไว้ โดยจัดชุดใหญ่ลงสนามครบครัน ในแนวรุกไม่มี เฮนริค ลาร์สสัน ที่ถอนตัวออกไปเนื่องจากปัญหาในครอบครัว จากเหตุน้องชายเสียชีวิต เลยต้องวาง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกตัวกลั่นจากสโมสร อินเตอร์ มิลาน ลงมาล่าตาข่ายคู่กับ มาร์คุส เบิร์ก พร้อมได้ คิม คัลล์สตรอม เป็นตัวปั้นเกมรุก 

 

ส่วน มอลตา ทีมบ๊วยของกลุ่ม ยังไม่ชนะใครเลยเมื่อผ่านมา 7 นัด อีกทั้งทำประตูไม่ได้เลยด้วย ไม่มี มิเชล มิฟซุด ที่ติดโทษแบน เลยต้องใช้งาน ดาเนี่ยล บ็อกดาโนวิช เป็นหัวหอกตัวเป้า 

 

ออกสตาร์ทครึ่งแรกไปได้แค่ 9 นาที เจ้าบ้านน่าจะได้นำไปก่อนเมื่อ  อันเดอร์ส สเวนส์สัน ทะลุไปกระดกบอลตรงเส้นโทษลอยหลุดคานไปนิดเดียว

 
  หลังจากนั้น 4 นาที มอลตา หวิดช็อกเจ้าถิ่นเมื่อได้บอลเข้ามาในกรอบโทษ อเล็กซานเดอร์ มุสแค็ต ยิงไปโดน อันเดรียส อิซัคส์สัน ปัดออกมา มุสแคต ตามซ้ำยังโดนเซฟได้ และจากนั้น โรเดริก บริฟฟา ก็ซัดลูกชุลมุนข้ามคาน

 

อย่างไรก็ตาม สวีเดน มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ในนาทีที่ 22 เมื่อ ราสมุส เอล์ม วอลเลย์ส่งบอลพุ่งชนคานกระเด้งออกมาให้ คิม คัลล์สตรอม ซ้ำระยะเผาขนไม่เหลือให้เจ้าบ้านนำ 1-0 แล้ว 

 

ถัดมา 6 นาที คิม คัลล์สตรอม ของสวีเดนเกือบมาพังสกอร์อีกลูกจากการวอลเลย์เน้นๆส่งบอลลอยข้ามคาน หมดครึ่งแรกเจ้าบ้านนำก่อน 1-0 

 

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 7 นาที ขุนพลไวกิ้ง มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ คิม คัลล์สตรอม โยนเข้ากลาง ดาเนียล มาจสโตโรวิช โขกเข้าไปตุงตาข่ายให้ สวีเดน นำห่าง 2-0 

 

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 56 สวีเดน มาได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ ราสมุส เอล์ม แทงบอลให้กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หลุดเข้าไปในกรอบโทษแล้วสังหารผ่าน แอนดรูว์ ฮ็อกก์ นายทวารมอลตา เข้าไปให้เจ้าถิ่นนำขาด 3-0 

 

สองนาทีต่อมา ขุนพลไวกิ้ง มาได้ประตูที่สี่ เมื่อ วิคเตอร์ เอล์ม ผ่านบอลมาให้ อิบราฮิโมวิช ยิงไปชนเสาเด้งออกมาให้ มาร์คุส เบิร์ก ซ้ำเข้าไปให้สวีเดน นำขาดลอย 4-0 

 

เวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จนครบ 90 นาที สวีเดน เปิดบ้านต้อน มอลตา ไปกระจุย 4-0 เก็บสามแต้มเต็มมีเพิ่มเป็น 9 คะแนน จาก 6 นัด เท่ากับ โปรตุเกส ทีมอันดับสามของตารางคะแนน ยังมีลุ้นไปเล่นในรอบสุดท้ายอยู่ ส่วน มอลตา ทีมบ๊วยไม่ชนะใครเลยในการลงสนาม 8 นัด และ ทำประตูไม่ได้ด้วย แต่เสียไปถึง 21 ประตูแล้ว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
 

สวีเดน: อันเดรียส อิซัคส์สัน - เบห์รัง ซาฟารี, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก, ดาเนี่ยล มาจสโตโรวิช, อดัม โยฮันส์สัน - วิคเตอร์ เอล์ม, ราสมุส เอล์ม, อันเดอร์ส สเวนส์สัน, คิม คัลล์สตรอม - ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, มาร์คุส เบิร์ก 
 

สำรอง: เอ็ดดี้ กุสตาฟส์สัน, ดาเนี่ยล อันเดอร์สสัน, เพ็ตเตอร์ ฮันส์สัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน, ซามูเอล โฮลเมน, โทเบียส ไฮเซ่น 
 

มอลตา: แอนดรูว์ ฮ็อกก์ - โจนาธาน คารูอาน่า, ฌอน บายาด้า, อังเดร อกิอัส, จอห์น ฮัทชินสัน, ลุค ดิเม็ช, โรเดริค บริฟฟา, อเล็กซานเดอร์ มุสแค็ต, อังเดร เชมบรี้, เจมี่ เพซ - ดาเนี่ยล บ็อกดาโนวิช 

  สำรอง: จัสติน ฮาเบอร์ (ผู้รักษาประตู) - เควิน ซัมมุต, แอนดรูว์ โคเฮน, ฌอง-ปิแอร์ มิฟซุด, ไรอัน เฟเน็ช, แมนนี่ มุสแค็ต, เคนเน็ธ ชิคลูน่า

                                                                                     (กลุ่ม 9)
                                                                      ฮอลแลนด์ 2 - นอร์เวย์  0
สนาม :
ร็อตเตอร์ดัม (ร็อตเตอร์ดัม, ฮอลแลนด์)
 

ฮอลแลนด์ จ่าฝูงกลุ่ม 9 เป็นทีมแรกจากโซนยุโรป ที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย เรียบร้อยแล้ว เกมนี้พวกเขาลงสนามพบ นอร์เวย์ ทีมบ๊วยที่มี 3 คะแนน แต่ นอร์เวย์ ยังมีลุ้นที่จะไปเล่นรอบเพลย์-ออฟ 

 

เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ก โค้ชฮอลแลนด์ส่ง มาร์ค ฟาน บอมเมล, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์ กัปตันทีมนำทัพ ส่วนเอกิล โอลเซ่น กุนซือนอร์เวย์มี ยอห์น คาริว กัปตันทีม, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่เป็นแกนหลัก

 

นักเตะทั้งสองทีมลงเล่นท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พื้นสนามเจิ่งนองไปด้วยน้ำ โดยเกมครึ่งแรก นาที 11 ฮอลแลนด์มีลุ้นที่จะได้ประตู เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนโยนให้ เดิร์ค เค้าท์ โหม่งข้ามคานไม่กี่หลา 

 

จากนั้น นาทีที่ 16 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สตาร์ดัตช์ได้ยิงบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าประตูไป แต่ ยูริ บาสคาคอฟ ชาวรัสเซีย ไม่เป่าให้ ฮอลแลนด์ ได้ประตู เนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้า

 

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของฮอลแลนด์ เป็นผล ได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน โยนบอลแม่นยำให้ อังเดร ออยเยอร์ กองหลังแผลงฤทธิ์ขึ้นโหม่งเข้าประตูได้สำเร็จนาที 32  

  

อัศวินสีส้มส่ง เอ็ดสัน บราฟไฮด์ ลงเล่นแทนโจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ นาที 46 จบครึ่งแรก ฮอลแลนด์นำ 1-0

 

เข้าสู่ครึ่งหลัง ฮอลแลนด์น่าได้ประตูที่สอง จากลูกยิงไกลของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ยอน คนุตเซ่น นายทวารนอร์เวย์ พุ่งตัวเซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ นาที 47 

 

ทว่า ดัตช์ก็มาได้ประตูนำ 2-0 จนได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำทางให้ อาร์เยน ร็อบเบน ซัลโวผ่าน ยอน คนุดเซ่น เข้าประตูไป นาที 50 นับเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้ 

 

ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นยังเป็นฝ่ายบุกมากกว่า แต่พวกเขายิงเพิ่มไม่สำเร็จ หมดเวลาการแข่งขัน ฮอลแลนด์ ชนะ นอร์เวย์ 2-0

 รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
 

ฮอลแลนด์ : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก, จอห์น ไฮติงก้า, อังเดร ออยเยอร์, โยริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ (กัปตันทีม), มาร์ค ฟาน บอมเมล, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, สไตจ์น ชาร์ส, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, อาร์เยน ร็อบเบน, เดิร์ค เค้าท์
 

สำรอง : เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ เวียล, เดมี่ เดอ ซูว์, คลาส ฮุนเตลาร์, เอ็ดสัน บราฟไฮด์, เฮนค์ ทิมเมอร์, ดาวิเด้ เมนเดส, ไรอัน บาเบล
 
  นอร์เวย์ : ยอน คนุดเซ่น, ยอน ฮอยลันด์, คเจติล วาห์เลอร์, เฟรดริก วินส์เนส, มอร์เท่น เฟวันก์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, บียอร์น เฮลเก้ รีเซ่, เฮนนิ่ง เฮาเกอร์, ยอห์น คาริว (กัปตันทีม), มอร์เท่น พีเดอร์เซ่น, คริสเตียน กรินด์เฮม
 

สำรอง : ดาเนี่ยล บราเท่น, รูเน่ ยาร์สไตน์, อเล็กซานเดอร์ เท็ตตี้, เอสเพ่น รุด, เพอร์ ซิลิยัน สเคลเบร็ด, ทรอนด์ อีริค เบอร์เตลเซ่น, อีริค ฮุสเคล็ปป์

ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
กลุ่ม 1

  • สวีเดน ชนะ มอลต้า 4-0
    กลุ่ม 4

  • ฟินแลนด์ แพ้ รัสเซีย 0-3
    กลุ่ม 6

  • ยูเครน ชนะ คาซัคสถาน 2-1

  • อังกฤษ ชนะ อันดอร์ร่า 6-0
    กลุ่ม 7

  • หมู่เกาะแฟโร แพ้ เซอร์เบีย 0-2
    กลุ่ม 9

  • มาซิโดเนีย ชนะ ไอซ์แลนด์ 2-0

  • เนเธอร์แลนด์ ชนะ นอร์เวย์ 2-0

  • เครดิต :
     

    ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
    กระทู้เด็ดน่าแชร์