สิงโตเฮ!ยิวฆ่าหมีขาว2-1เลี่ยน-ดัตช์-กระทิงซิวตั๋ว

สิงโตเฮ!ยิวฆ่าหมีขาว2-1เลี่ยน-ดัตช์-กระทิงซิวตั๋ว

ทีมชาติอังกฤษได้เฮหลังเส้นทางลุ้นเข้ารอบสดใสขึ้น เมื่อ หมีขาว รัสเซีย บุกไปพลาดท่าปราชัยให้กับ อิสราเอล 1-2 ส่งผลให้อังกฤษแค่เสมอ โครเอเชีย นัดหน้าก็จะเข้ารอบทันที ขณะที่ อิตาลี จับมือ ฝรั่งเศส ลอยลำเรียบร้อยแล้ว หลังบุกมาเขี่ย สกอตแลนด์ ตกรอบ 2-1 ส่วน ฮอลแลนด์ ฉลุยเช่นกันหลังเฉือน ลักเซมเบิร์ก 1-0 คัดยูโร 2008


ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008


(รอบคัดเลือก ฤดูกาล 2007/2008)


(วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2550)



(กลุ่มบี)


สกอตแลนด์ 1 - อิตาลี 2

สนาม :แฮมป์เด้น ปาร์ค (กลาสโกว์, สกอตแลนด์)


ทีมชาติสกอตแลนด์ รองจ่าฝูงกลุ่มบี. ลงเล่นในบ้านพบ อิตาลี ในแมตช์ตัดสินชะตาของทั้งสองทีมในการลุ้นไปเล่นยูโร 2008 รอบสุดท้าย ซึ่งนัดนี้หากทีมใดชนะ จะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที โดยถ้า อิตาลี ชนะ จะควง ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบไปด้วยเช่นกัน


อเล็กซ์ แม็คลีช ผู้จัดการทีมชาติสกอตแลนด์ส่ง แบร์รี่ เฟอร์กูสัน กัปตันทีมกับ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ เป็นตัวหลักแดนกลาง เจมส์ แม็คฟาดเด้น เป็นคีย์แมนแดนหน้า ขณะที่ โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ โค้ชทีมชาติอิตาลี แชมป์ฟุตบอลโลก 2006 มี เจนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเดรีย ปีร์โล่, มัสซิโม อัมโบรซินี่, ลูก้า โทนี่ นำทัพ


ครึ่งแรกเริ่มต้น ซึ่งนักเตะทั้งสองทีมต้องลงเล่นท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และแล้วเพียง 1 นาที 20 วินาที อิตาลีได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะทุ่มบอลเร็วจากทางฝั่งซ้ายเข้ามาให้ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ผ่านบอลในกรอบเขตโทษให้ ลูก้า โทนี่ ซัดระยะเพียง 6 หลา ตุงตาข่าย


จากนั้นนาทีที่ 3 อิตาลีเกือบได้ประตูที่สอง เมื่อ ลูก้า โทนี่ ตัดบอลได้ ก่อนจ่ายให้ เมาโร คาโมราเนซี่ ซัดระยะ 10 หลา บอลเหินข้ามคานไม่กี่หลา และนาที 13 ลูก้า โทนี่ ได้ยิงระยะ 10 หลา แต่ เคร็ก กอร์ดอน นายทวารเจ้าถิ่นพุ่งตัวปัดออกเส้นหลังไปได้


นาที 16 สกอตแลนด์ได้ลูกเตะมุม แบร์รี่ เฟอร์กูสัน กัปตันทีมเปิดบอลเข้ามาหน้าประตู อลัน ฮัตตัน ขึ้นโหม่งบอลไปเข้าทาง สก๊อตต์ บราวน์ ยิงไปโดนแขนของ จานลูก้า ซามบร็อตต้า แต่ผู้ตัดสินมานูเอล เมฆูโต้ กอนซาเลซ ชาวสเปน ไม่เป่าให้เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด


สกอตแลนด์บุกอย่างต่อเนื่อง นาที 18 เจมส์ แม็คฟาดเด้น เปิดลูกเตะมุมเข้ามาหน้าประตู อลัน ฮัตตันโหม่งเต็มหัว บอลผ่านหน้าประตูออกไป


นาที 29 เจมส์ แม็คฟาดเด้น ยิงฟรีคิก จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารอิตาลีเซฟได้สบาย และนาที 30 เจ้าถิ่นบุกอย่างต่อเนื่อง แกรี่ เนย์สมิธ โยนบอลจากฝั่งซ้าย มัสซิโม อัมโบรซินี่ เคลียร์บอลไม่พ้นอันตราย มาเข้าทาง แบร์รี่ เฟอร์กูสัน กัปตันทีมจ่ายให้ เจมส์ แม็คฟาดเด้น ยิงในกรอบเขตโทษ บอลไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน


เข้าสู่นาที 31 โอกาสเป็นของอิตาลี จากจังหวะที่ ลูก้า โทนี่ทำทางให้ อันเดรีย ปีร์โล่ ยิงระยะเพียง 5 หลา เคร็ก กอร์ดอน ผู้รักษาประตูพุ่งตัวเซฟไว้ได้ ก่อนที่ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ซัลโวซ้ำตุงตาข่าย อย่างไรก็ตามผู้ตัดสิน ไม่ให้อิตาลีได้ประตู เนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้า ทว่าเมื่อดูจากภาพรีเพลย์ ลูกยิงของ ดิ นาตาเล่ ไม่ล้ำหน้า


ในช่วงท้ายเกมครึ่งแรก นาที 46 สกอตแลนด์น่าได้ประตู จากจังหวะที่ แบร์รี่ เฟอร์กูสัน เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวา เดวิด เวียร์ โหม่งในกรอบเขตโทษ อันเดรีย ปีร์โล่ มิดฟิลด์อิตาลีโขกสกัดบนเส้นประตูออกไปได้อย่างหวุดหวิด จบครึ่งแรก อิตาลีนำอยู่ 1-0


เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 50 อิตาลีมีลุ้นเมื่อ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ โยนบอลให้ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ วอลเล่ย์ไปติดบล็อคของ อลัน ฮัตตัน กองหลังวิสกี้ และนาที 52 สกอตแลนด์เป็นฝ่ายทำเกมบุก สตีเฟ่น แม็คมานัส โหม่งบอลไปให้ เจมส์ แม็คฟาดเด้น ซัดระยะ 6 หลา ไปติด จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้


และแล้วความพยายามในการบุกของสกอตแลนด์เป็นผล เมื่อได้ประตูตีเสมอ 1-1 นาที 64 เจมส์ แม็คฟาดเด้น ยิงฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลมาเข้าทางลี แม็คคัลลอช ยิงระยะ 6 หลา ติด จานลุยจิ บุฟฟ่อน เซฟได้ แต่ไม่พ้นอันตราย แบร์รี่ เฟอร์กูสัน ตามซ้ำระยะเผาขนตุงตาข่าย


เวลาที่เหลืออยู่ นาที 76 ลี แม็คคัลลอช เปิดบอลให้ เดวิด เวียร์ ยิงไปติด ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กองหลังกัปตันทีมอิตาลี โหม่งเคลียร์พ้นอันตราย และแล้วนาที 91 ความหวังของสกอตแลนด์ที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้าย ยูโร 2008 ต้องสิ้นสุดลงทันที เมื่อ อันเดรีย ปีร์โล่ เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวา เข้ามาในกรอบเขตโทษให้ คริสเตียน ปานุชชี่ โหม่งที่เสาไกล เข้าประตูไป อัซซูร์รี่นำ 2-1


หมดเวลาการแข่งขัน อิตาลี บุกมาชนะ สกอตแลนด์ 2-1 ส่งผลให้ อิตาลี ผ่านเข้าไปสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ พร้อมกับพา ฝรั่งเศส รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเช่นเดียวกัน ส่วน สกอตแลนด์ ตกรอบคัดเลือกไปอย่างน่าเสียดาย


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สกอตแลนด์ : เคร็ก กอร์ดอน - อลัน ฮัตตัน, สตีเฟ่น แม็คมานัส, เดวิด เวียร์, แกรี่ เนย์สมิธ - ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน (กัปตันทีม), พอล ฮาร์ทลี่ย์, สก๊ตอตต์ บราวน์, ลี แม็คคัลลอช - เจมส์ แม็คฟาดเด้น
สำรอง : อัลลัน แม็คเกรเกอร์, เกรแฮม อเล็กซานเดอร์, แกรี่ คัลด์เวลล์, สตีเฟ่น เพียร์สัน, แบร์รี่ ร็อบสัน, คริส บอยด์, เคนนี่ มิลเลอร์
อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - คริสเตียน ปานุชชี่, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (กัปตันทีม), อันเดรีย บาร์ซาญี่, จานลูก้า ซามบร็อตต้า - เจนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเดรีย ปีร์โล่, เมาโร คาโมราเนซี่, มัสซิโม อัมโบรซินี่ - ลูก้า โทนี่, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่
สำรอง : มาร์โก อเมเลีย, มัสซิโม อ็อดโด้, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า, วินเซนโซ่ ยาควินต้า, อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่


(กลุ่ม อี)


อิสราเอล 2 - รัสเซีย 1

สนาม :รามัต กาน สเตเดี้ยม (เทลอาวีฟ)


อิสราเอล เจ้าบ้านวาง เบน ซาฮาร์ กองหน้าดาวรุ่งลงมาล่าตาข่าย โดยเกมนี้ไม่มี ยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์ตัวกลั่นของสโมสร ลิเวอร์พูล ที่มีอาการบาดเจ็บ


ทางด้าน หมีขาว รัสเซีย ทีมเยือนต้องการสามคะแนนเพื่อขยับแซงหน้า อังกฤษ ขึ้นไปเป็นอันดับสองของกลุ่ม โดยส่ง อังเดร อาร์ชาวิน ล่าตาข่ายกับ โรมัน พาฟลียูเชนโก้


ออกสตาร์ทครึ่งแรก รัสเซีย ลำเลียงบอลเข้าโจมตีได้มากกว่า แต่ไม่มีจังหวะยิงเลยในช่วง 5 นาทีแรก


เกมเร็วของอิสราเอล เริ่มเห็นผล มีโอกาสทักทายก่อนในนาทีที่ 9 เมื่อ บารัค อิตซากิ ได้บอลที่เพื่อนผ่านมาจากทางขวา แต่จังหวะจับบอลทำได้ไม่ดี เลยโดน วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ นายทวารทีมเยือนเซฟไว้ได้


อย่างไรก็ตาม นาทีต่อมา อิสราเอล สามารถขึ้นนำจนได้ เมื่อ บารัค อิตซากิ ได้บอลก่อนแทงเข้าช่องให้กับ เอลยานิพ บาร์ด้า ที่สอดขึ้นมายิงไซด์ก้อยข้าม วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ นายทวารหมีขาว เข้าประตูไปให้เจ้าบ้านนำเร็ว 1-0


ผ่านมาถึงนาทีที่ 16 ยูริ เซียร์คอฟ กองกลางของรัสเซีย กระชากเข้าไปกดไม่ผ่านการป้องกันของ ดูดู้ อาวัต นายทวารของเจ้าบ้าน


เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 24 ดินิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟ ของทีมเยือนอาศัยความเร็วพลิ้วเข้าไปซัดบอลไม่ตรงกรอบ


ครึ่งชั่วโมงของเกม รัสเซีย เปลี่ยนเอา ดิมิทรี ตอร์บินสกี้ ลงมาเล่นแทน อีกอร์ เซมชอฟ


นาทีที่ 32 ซาฮาร์ ของอิสราเอล ได้ลองส่องแต่ไม่ผ่านมือของ วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ นายทวารของทีมชาติรัสเซีย หมดครึ่งแรก อิสราเอล ขึ้นนำไปก่อน 1-0


เข้าสู่ครึ่งหลังได้ 6 นาที พาฟลียูเชนโก้ ตัวเก่งของหมีขาว หาเหลี่ยมซัดบอลไม่เข้ากรอบ นาทีต่อมา รัสเซีย เปลี่ยนเอา ดิมิทรี ซีเชฟ กองหน้าความเร็วสูง ลงมาเล่นแทน พาฟลียูเชนโก้


เจ้าบ้านมาได้ลุ้นเหมือนกันในนาทีที่ 54 จาก บาร์ด้า แต่บอลถากเสาไป หลังจากนั้น 4 นาทีโอกาสเป็นของรัสเซีย บิยารืเล็ตดินอฟ ได้สับไก ทว่า อาวัต นายทวารอิสราเอล เซฟได้สวยงาม


อย่างไรก็ตาม รัสเซีย ตามตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ ซีเรียนอฟ จ่ายให้กับ อังเดร อาร์ชาวิน ป้ายออกทางซ้ายให้กับ บิยาร์เล็ตดินอฟ สอดเข้ามาซัดชนตัวของ ดูดู อาวัต นายทวารอิสราเอล นิดหนึ่งก่อนทะลุเข้าตุงตาข่ายให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 แล้วในนาทีที่ 61


ทัพหมีขาว มีกำลังใจรุกเข้าใส่บ้าง ยูริ เซียร์คอฟ อัดตูมเดียวบอลบานออกหลังไป ในนาทีที่ 64


เกมรุกของรัสเซีย เหนือกว่าแล้ว ดิมิทรี ซีเชฟ กองหน้าตัวสำรองซัดเต็มเท้า แต่ว่า ดูดู้ อาวัต นายทวารเจ้าบ้านยังหนึบป้องกันไว้ได้ ในนาทีที่ 77


จากนั้น 5 นาที อัลเบอร์มาน ของอิสราเอล ได้ซัดบอลไซด์ออกนอกกรอบไป


และแล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อิสราเอล ก็มาได้ประหนีเป็น 2-1 จาก โอเมอร์ โกลัน


เวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม 90 นาที อิสราเอล เฉือนชนะ รัสเซีย ไป 2-1


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อิสราเอล : ดูดู้ อาวัต - ยูวาล ชปูกิ้น, เดเคล ไคนาน, ทาล เบน ฮาอิม, โยอัฟ ซิฟ - ทาเมียร์ โคเฮน, กัล อัลเบอร์มาน, บารัค อิตซากิ, มาออร์ บาร์ บูซาโกล, เอลยานิพ บาร์ด้า, เบน ซาฮาร์
สำรอง: เนียร์ ดาวิโดวิช (ผู้รักษาประตู) - อวีราม บารุชยาน, โรแบร์โต้ โคลาอุตติ, อามิต เบน ชูชาน, โอเมอร์ โกลัน, โมเช่ โอฮายอน, อาวี่ สโตรล
รัสเซีย: วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ - อเล็กไซ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ - คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ, อีกอร์ เซมชอฟ, ดินิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟ, ยูริ เซียร์คอฟ, อังเดร อาร์ชาวิน, โรมัน พาฟลียูเชนโก้
สำรอง: วยาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ (ผู้รักษาประตู) - ดิมิทรี ตอร์บินสกี้, อีวาน ซาเอนโก้, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ, พาเวล โพเกรบินยัค, เดนิส โคโลดิน, ดิมิทรี ซีเชฟ


(กลุ่ม จี)


ฮอลแลนด์ 1 - ลักเซมเบิร์ก 0

สนาม :เดอ ไคป์, (ร็อตเตอร์ดัม)


อัศวินสีส้ม ทีมชาติฮอลแลนด์ เปิดบ้านเจอกับ ลักเซมเบิร์ก โดยเกมนี้เจ้าบ้านต้องการแค่ชัยชนะจะได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ยูโร 2008 ทันที วาง รุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้าจากเรอัล มาดริด ลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ แดนนี่ โคเวอร์มันส์ หัวหอกจากพีเอสวี ส่วนทีมเยือนมี เจฟฟ์ สตราสเซอร์ กองหลังจอมเก๋าลงมาคุมแนวรับ


เปิดฉากครึ่งแรกได้แค่ 4 นาที ฮอลแลนด์ ได้ฟรีคิก วิลเฟร็ด เบาม่า ซัดฟรีคิกหลุดกรอบออกไป


รูปเกมเป็นเจ้าบ้านสนุกอยู่ข้างเดียว รุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้าตัวเก่งหลุดเข้าไปยิงแต่ไม่ผ่าน โจนาธาน ยูแบร์ต นายทวารของลักเซมเบิร์ก ในนาทีที่ 12


สามนาทีต่อมา ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กองกลางตัวเก่งของกังหันสีส้ม ลากเข้าไปยิงบอลข้ามคานไป


ฮอลแลนด์ เดินหน้าบุกกดดันอย่างหนัก นาทีที่ 35 เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ลองยิงแต่ไม่ผ่านการเซฟของ โจนาธาน ยูแบร์ต นายทวารของลักเซมเบิร์ก


อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 43 ฮอลแลนด์ ออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะโต้กลับเร็วบอลมาทาง เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ทะลุขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะครอสมาที่เสาแรกให้กับ แดนนี่ โคเวอร์มันส์ โฉบเข้ามาใช้ข้างเท้าแตะเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้ ฮอลแลนด์ นำก่อน 1-0 ในครึ่งแรก


มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ฮอลแลนด์ เปลี่ยนเอา เดิร์ค เค้าท์ ลงมาเล่นกองหน้าแทน รุด ฟาน นิสเตลรอย ส่วนทีมเยือนให้ โจอาคิม ลงมาเล่นแทน คิเตนเก้


นาทีที่ 50 ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กระชากเข้าไปซัดแต่ไม่ผ่านมือของ โจนาธาน ยูแบร์ต นายทวารลักเซมเบิร์ก


เจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง แดนนี่ โคเวอร์มันส์ กองหน้าจากสโมสรพีเอสวี ได้ซัดบอลถากเสาไปในนาทีที่ 55


มาถึงนาทีที่ 71 ฮอลแลนด์ ได้ลุ้นอีกครั้ง วิลเฟร็ด เบาม่า ลองยิง แต่ไม่ผ่าน โจนาธาน ยูแบร์ต นายทวารของลักเซมเบิร์ก


สามนาทีต่อมา เดิร์ค เค้าท์ กองหน้าของเจ้าบ้าน ซัดไม่ผ่าน โจนาธาน ยูแบร์ต นายทวารของลักเซมเบิร์ก


นาทีที่ 77 อัศวินสีส้ม น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ แดนนี่ โคเวอร์มันส์ ซัดเต็มๆบอลไปกระแทกเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย จบเกม ฮอลแลนด์ เฉือนชนะ 1-0 เก็บสามแต้มพร้อมกับได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ยูโร 2008 แล้ว


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - มาริโอ เมลช็อต, ยอริส มาไธจ์เซ่น, วิลเฟร็ด เบาม่า, เดมี่ เดอ ซูว์ - โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สต์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ - รุด ฟาน นิสเตลรอย, แดนนี่ โคเวอร์มันส์
สำรอง: มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก (ผู้รักษาประตู) - ออร์ลันโด้ เอ็งเกลาร์, อังเดร ออยเยอร์, จอห์นนี่ ไฮติงก้า, อูร์บี้ เอมานูเอลสัน, เดิร์ค เค้าท์, ไรอัน บาเบล
ลักเซมเบิร์ก: โจนาธาน ยูแบร์ต - คิม คินซิเกอร์, เอริค ฮอฟฟ์มันน์, ฌอง ว้ากเนอร์, เจฟฟ์ สตราสเซอร์ - มาริโอ มุทช์, เรเน่ ปีเตอร์ส, เบน ปายาล, ชิลล์ส เบ็ตต์เมอร์, เซบาสเตียน เรมี่ย์, โฌแอล คิเตนเก้
สำรอง: มาร์ก โอเบอร์ไวส์ (ผู้รักษาประตู) - เชราร์ด ไกส์บุสช์, เฌอโรม บิการ์ด, คาร์ลอส แฟร์เรยร่า, ฟอนส์ เลเว็ค, ดาเนี่ยล เด โมต้า, ออเรเลียง โยอาคิม


(กลุ่มดี)


เยอรมัน 4 - ไซปรัส 0

สนาม :อาเวเด อารีน่า


เยอรมัน เปิดสนาม อาเวเด อารีน่า ในฮันโนเวอร์ รับการมาเยือนของไซปรัส ในเกมยูโร 2008 รอบคัดเลือก กลุ่มดี โดยนัดนี้ไม่มีความหมายอะไร เนื่องจากได้สองทีมที่ลอยลำผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว


เปิดฉากขึ้นมาแค่สองนาที อินทรีเหล็กก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ลูคัส โพโดลสกี้ พาบอลขึ้นทางฝั่งซ้ายก่อนครอสเข้ากลางให้ เคลเมนส์ ฟริตซ์ เทกตัวขึ้นโหม่งในเขตโทษผ่านมือ อันโตนิส จอร์จัลลิเดส ผู้รักษาประตูไซปรัส เข้าไปเป็น 1-0


ทีมเยือนยังไม่เสียขวัญ เดินหน้าแลกหมัดกับเจ้าถิ่นและก็เกือบได้ประตูแก้คืนทันควัน ในนาทีที่ 5 จากจังหวะเตะมุมที่ เอฟสตาธิออส เอโลเนฟติส ปั่นลูกเตะมุมโค้งเข้าหาปากประตู แต่ เยนส์ เลห์มันน์ ยังป้องกันไว้ได้


จากนั้นเกมกลับเป็นเยอรมันที่ครองเกมอยู่ข้างเดียว ก่อนจะมาได้ประตูที่สอง เมื่อ ฟริตซ์ ผ่านบอลจากทางขวาให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ กดเรียดด้วยเท้าขวาในเขตโทษตุงตาข่ายเป็น 2-0 ในนาทีที่ 20


ช่วงเวลาที่เหลือ เยอรมัน ยังครองเกมได้เหนือกว่า แต่ก็ไม่ได้เน้นจังหวะสุดท้ายเท่าที่ควร จบ 45 นาที เจ้าถิ่นยังนำอยู่แค่ 2-0


กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ยังคงเป็นเยอรมัน ที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และมาได้ประตูนำห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 53 เมื่อมิโลสลาฟ โคลเซ่ เปิดบอลจากทางริมเส้น ให้ลูคัส โพโดลสกี้ วิ่งเข้ามาแปง่ายๆ เข้าไป


ไซปรัส มีตอบโต้เหมือนกัน นาทีที่ 62 คอนสแตนตินอส มาคริดิส หมุนตัวยิงในกรอบเขตโทษ ให้เยนส์ เลห์มันน์ ต้องปัดออกไป


แต่เป็นเยอรมัน ที่มาได้ประตูที่ 4 ในนาทีที่ 82 เมื่อโทมัส ฮิตเซิ่ลส์แพร์เกอร์ ตั้งป้อมซัดไกล บอลพุ่งเข้าเสียบตาข่ายอย่างงดงาม หมดเวลาการแข่งขันเยอรมัน ถล่มเอาชนะไซปรัส แบบสบายๆ 4-0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เยอรมัน: เยนส์ เลห์มันน์ - อาร์เน่ ฟรีดริช, ฟิลิป ลาห์ม, เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, เคลเมนส์ ฟริตซ์ - โทมัส ฮิตเซิ่ลส์แพร์เกอร์, พิโอเตอร์ โตรชอฟสกี้, ลูคัส โพโดลสกี้, มิโรสลาฟ โคลเซ่, มาริโอ โกเมซ
สำรอง: โรเบิร์ต เอ็งเค่, กอนซาโล่ คาสโตร, มานูเอล ฟรีดริช, ทิม โบรอฟสกี้, โรแบร์โต้ ฮิลแบร์ต, ไมค์ ฮานเค่, โอลิเวอร์ นอยวิลล์
ไซปรัส: อันโตนิส จอร์จัลลิเดส - ลัมโบรส ลัมบรู, ยอร์กอส ธีโอโดตู, พาราสเควาส คริสตู, อเล็กซานดรอส การ์โปซิส, ยานนิส ออคคาส, คอนสแตนตินอส คาราลัมปิดิส, มารินอส ซัตซิอัส, เอฟสตาธิออส เอโลเนฟติส, คอนสแตนตินอส มาคริดิส, มิชาลิส คอนสแตนตินู
สำรอง: มิชาลิส มอร์ฟิส, เอเลียส ชาราลัมบุส, คริสติส ธีโอฟิลู, คริซอสโตมุส มิชาอิล, คริสโตส มารันโกส, มาริออส นิโคลาอู, ยิอาซูมี ยิอาซูมี


(กลุ่มเอฟ)


สเปน 3 - สวีเดน 0


สเปน ลงสนามพบกับ สวีเดน โดยที่สถานการณ์ไม่สดใสนักต้องการชัยชนะในเกมนี้ การจัดทัพแม้จะมีปัญหาเล็กน้อยแต่ก็เต็มที่ ดาบิด บิย่า ยืนหอกให้สเปน ส่วนทีมเยือนใช้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ มาร์คุส โรเซนเบิร์ก


นาทีต่อนาที
น.14 สเปน ที่เปิดฉากรุกหนักตั้งแต่แรกมาได้ประตูออกนำเมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ เปิดเตะมุมโค้งมาให้ เชส ฟาเบรกาส แตะต่อให้ โจน คัปเดบีล่า เข้าชาร์จเผาขนเสียบตาข่าย


น.30 สกอร์น่าไหลเพิ่มเมื่อ ดาบิด บิย่า ซัดบอลพุ่งไปชนเสาเต็มเปา


น.39 ทีมกระทิงดุยังทำได้ดีและมาซัดนำห่าง 2-0 คราวนี้ อันเดรียส อิเนียสต้า แตะให้ ชาบี ทำชิ่งเร็วมาที่ โจน คัปเดบีล่า ก่อนต่อมายัง อีเนียสต้า ปิดสกอร์เด็ดขาด


น.65 สเปน ยังเหนือกว่าเยอะและมายิงเพิ่ม 3-0 ในครึ่งหลังเมื่อ คัปเดบีล่า เปิดบอลมาตรงกลาง ชาบี เอาบอลลงแล้วดีดลูกเด้งไปถึง เซร์คิโอ รามอส ซัดเข้าไป


น.90 ในเวลาที่เหลือทีมกระทิงดุเล่นสบายและเอาชนะ สวีเดน ไปได้ 3-0 ตีตั๋วเล่นรอบสุดท้าย ส่วน สวีเดน ยังต้องการแต้มอีกในเกมสุดท้าย


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
สเปน : อีเกร์ กาซียาส, เซร์คิโอ รามอส, การ์เลส ปูโยล, คาร์ลอส มาเชน่า, โจน คัปเดบีล่า, อันเดรียส อิเนียสต้า, เชส ฟาเบรกาส, ดาบิด อัลเบด้า, ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา, ดาบิด บิย่า
สวีเดน : อันเดรียส อีซัคส์สัน, มิคาเอล นีลส์สัน, เพ็ตเตอร์ ฮานส์สัน, โอลอฟ เมลเบิร์ก, เอริค เอ็ดแมน, คริสเตียน วิลเฮล์มสสัน, ดาเนียล อันเดอร์สสัน, อันเดอร์ สเวนส์สัน, เฟรดริก ลุงเบิร์ก, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก

ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้


กลุ่มเอ

  • ฟินแลนด์ ชนะ อาเซอร์ไบจาน 2-1


  • โปแลนด์ ชนะ เบลเยียม 2-0


  • เซอร์เบีย - คาซัคสถาน (เลื่อนการแข่งขันเนื่องจากหิมะตก)


  • โปรตุเกส ชนะ อาร์เมเนีย 1-0

  • กลุ่มบี

  • ลิทัวเนีย ชนะ ยูเครน 2-0

  • กลุ่มซี

  • มอลโดว่า ชนะ ฮังการี 3-0


  • นอร์เวย์ แพ้ ตุรกี 1-2


  • กรีซ ชนะ มอลต้า 5-0

  • กลุ่มดี

  • เวลส์ เสมอ ไอร์แลนด์ 2-2


  • สาธารณรัฐเช็ก ชนะ สโลวาเกีย 3-1

  • กลุ่มอี

  • อันดอร์ร่า แพ้ เอสโตเนีย 0-2


  • มาซิโดเนีย ชนะ โครเอเชีย 2-0

  • กลุ่มเอฟ

  • ลัตเวีย ชนะ ลิกเตนสไตน์ 4-1


  • ไอร์แลนด์เหนือ ชนะ เดนมาร์ก 2-1

  • กลุ่มจี

  • บัลแกเรีย ชนะ โรมาเนีย 1-0


  • อัลแบเนีย แพ้ เบลารุส 2-4


  • เนเธอร์แลนด์ ชนะ ลักเซมเบิร์ก 1-0


  • เครดิต :
     

    ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
    กระทู้เด็ดน่าแชร์