สิงโตจะคำราม?

ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้จะเริ่มในวันที่ 11 มิถุนายน และเจ้าภาพเริ่มนับถอยหลัง 100 วัน ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา

แม้ว่าสำนักข่าวต่างประเทศจะเสนอข่าวที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับแอฟริกาใต้อย่างต่อเนื่อง แต่เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่ายืนยันว่า แอฟริกาใต้พร้อมที่จะจัดฟุตบอลโลกครั้งแรกในทวีปแอฟริกา

แบล็ตเตอร์บอกว่าเขามีแผน 2 และแผน 3 สำรองไว้แล้ว แต่ทั้ง 2 แผนนั้นก็ยังให้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพอยู่ดี

ฟุตบอลโลกครั้งนี้ อังกฤษตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะดูเหมือนว่าทีมสิงโตมีโอกาสที่จะคำรามในแอฟริกาใต้และคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1966

อังกฤษเป็นเต็ง 3 รองจากสเปนและบราซิล ซึ่งมีอัตราต่อรองใกล้เคียงกันมาก ร้านรับพนันที่ถูกกฎหมายบางแห่งให้สเปนกับบราซิลเป็นเต็ง 1 ร่วมกัน

อังกฤษฝันหวานยิ่งขึ้นเมื่อเวย์น รูนีย์ ยิงได้เรื่อยๆ และกลายเป็นความหวังสูงสุดของอังกฤษ

อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษบอกว่าอังกฤษไม่สามารถเป็นแชมป์โลกได้หากไม่มีรูนีย์

ความเห็นของเชียเรอร์อาจจะถูกต้องเพราะกองหน้าคนอื่นของทีมชาติอังกฤษพึ่งพาอาศัยไม่ค่อยได้ ถ้ารูนีย์เป็นอะไรไป ความหวังของอังกฤษก็แทบจะดับวูบ

อังกฤษชุดนี้มีดีพอตัว นอกจากรูนีย์แล้ว อังกฤษยังมีทีเด็ดจากกองกลางอย่างสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด และ แฟรงก์ แลมพาร์ด ซึ่งดูเหมือนว่าจะเล่นร่วมกันได้แล้ว

ปัญหาของอังกฤษน่าจะอยู่ที่กองหลังและผู้รักษาประตู

เวย์น บริดจ์ แบ๊กซ้ายหมายเลข 2 ประกาศไม่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษหลังจากถูกจอห์น เทอร์รี่ ตีท้ายครัว ขณะที่แอชลีย์ โคล แบ๊กซ้ายเบอร์ 1 ก็เจ็บยาว แถมยังมีเรื่องคาวโลกีย์อีกต่างหาก

ริโอ เฟอร์ดินานด์ หัวหน้าทีมคนใหม่เจ็บบ่อย ส่วนจอห์น เทอร์รี่ หัวหน้าทีมคนเดิมดูเหมือนว่าใจไม่นิ่งหลังจากถูกแฉเรื่องฉาว

ผู้รักษาประตูของอังกฤษไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีคนไหนไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเดวิด เจมส์ (ทรงผมใหม่), โรเบิร์ต กรีน, โจ ฮาร์ต และ เบน ฟอสเตอร์

อย่างไรก็ตาม ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษมาจากอิตาลี ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องเกมรับ เขาคงหาทางทำให้แนวรับของอังกฤษแน่นหนาขึ้นได้

ในขณะที่คนอังกฤษกำลังคลั่งไคล้รูนีย์ ถ้าให้ผมเลือกใครคนหนึ่งที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะนำอังกฤษเป็นแชมป์โลก ผมขอชี้ไปที่คาเปลโล่

รูนีย์มีความสำคัญต่อทีมชาติอังกฤษแน่ๆ แต่โค้ชอิตาเลียนส่วนใหญ่ค่อนข้างถนัดกับการเล่นที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งศูนย์หน้าที่ยิงกระจาย

ขอเพียงแต่อย่าให้อังกฤษต้องดวลลูกโทษกับใครก็แล้วกัน