สตาร์ลูกหนัง กับพาหนะ ประดับบารมี

ผลการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน ระบุว่า นักเตะในลีกพรีเมียร์ชิพของเมืองผู้ดีมีรายได้เฉลี่ยราว 70 ล้านบาท เป็นธรรมดาของผู้ชายส่วนใหญ่ที่เวลามีเงินเหลือเฟือให้จับจ่าย ก็มักจะเลือก 'รถ' ที่ดีที่สุด มาใช้งาน อาจพิถีพิถันเลือกสรรยิ่งกว่าซื้อบ้านด้วยซ้ำ

สัปดาห์ก่อนเพิ่งมีข่าวฮือฮาขนาดย่อมๆ ในวงการฟุตบอลเมืองผู้ดี เมื่อ โอลิวิเย่ร์ กาโป กองกลางชาวฝรั่งเศสของ เบอร์มิงแฮม มอบรถเมอร์เซเดส เบนซ์ มูลค่า 30,000 ปอนด์ หรือเกือบๆ 2 ล้านบาท ให้กับนักเตะฝึกหัดในทีมซึ่งคอยทำหน้าที่เช็ดรองเท้าให้เขาเป็น "ของที่ระลึก"

แต่ถึงจะเสียเบนซ์คันงามไปแล้ว ก็ใช่ว่ากาโปจะเดือดร้อนแต่อย่างใด เพราะในโรงจอดรถที่บ้านยังมีทั้งพอร์ชและฮัมเมอร์คันหรูจอดรอบริการอยู่แล้ว

ดังนั้น ข่าวนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างปานมหาสมุทรของกาโปแล้ว ยังสื่อเป็นนัยๆ ถึงรูปแบบชีวิตของนักเตะอาชีพในยุโรปซึ่งถึงแม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมาก และเล่นให้ทีมระดับปานกลาง (ถึงระดับล่างของลีกสูงสุด) ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างฟู่ฟ่ากว่าคนธรรมดาเดินดินอย่างเราๆ

ผลการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน ดีลอยต์ เมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า

นักเตะในลีกพรีเมียร์ชิพของเมืองผู้ดีจะมีรายได้เฉลี่ยราว 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70.4 ล้านบาท) และผลจากสัญญาส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดโทรทัศน์ตัวใหม่จะทำให้ค่าเหนื่อยสูงสุดของนักเตะระดับแนวหน้าถีบตัวขึ้นไปสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (640 ล้านบาท) เลยทีเดียว

เป็นธรรมดาของผู้ชายส่วนใหญ่ที่เวลามีเงินเหลือเฟือให้จับจ่ายซื้อของได้ ก็มักจะเลือก รถ ที่ดีที่สุด เข้ากับสไตล์ตัวเองที่สุดมาใช้งาน ทั้งดูแลประคบประหงม และบางครั้งอาจจะพิถีพิถันเลือกสรรยิ่งกว่าซื้อบ้านซะด้วยซ้ำไป

ลิโอเนล โลร็องต์ แห่งนิตยสารการเงินและธุรกิจ ฟอร์บส์ เพิ่งทำการรวบรวมเรื่องราวพาหนะสี่ล้อของเหล่านักฟุตบอลชื่อดังมาเล่าสู่กันฟังเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเราก็ถือโอกาสถอดความมารายงานให้ทุกท่านได้ทรรศนะ ณ เวลานี้เลย...

รายแรกที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงย่อมไม่พ้น เดวิด เบ๊คแฮม ซุปเปอร์สตาร์นักเตะชื่อก้องโลก ซึ่ง ไซม่อน โอลิเวียร่า เอเย่นต์ของเขาเผยว่า

"ว่ากันตามจริงแล้ว เขาก็สนุกกับการสะสมรถเลยล่ะครับ เดี๋ยวซื้อเดี๋ยวขาย อยู่ที่ว่าถูกใจที่มาที่ไปของแต่ละคันมากแค่ไหน"

สำหรับรถที่ทราบกันว่าเบ๊คแฮมครอบครองหรือเคยครอบครองอยู่นั้น อาทิ แอสตัน มาร์ติน ดีบี 7, ลัมบอร์กินี่ กัลลาร์โด้, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-5, โรลสรอยซ์ แฟนธอม และพอร์ช 911 เทอร์โบ ซึ่งเจ้าตัวเคยใช้ซิ่งไปรับ วิคตอเรีย ภรรยาสุดรักที่สนามบินในลอสแองเจลิส เมื่อปีกลาย แต่ตอนนี้ขายไปแล้วเรียบร้อย

ด้าน เธียร์รี่ อองรี อดีตดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล

ท่าทางจะได้รับอิทธิพลจากการใช้ชีวิตในอังกฤษไม่ใช่น้อย เพราะตัวเลือกของเขาคือ แอสตัน มาร์ติน แวนควิช มูลค่า 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ (11.2 ล้านบาท) แบบเดียวกับที่สายลับ 007 เจมส์ บอนด์ ใช้ในหนัง ได อนาเธอร์ เดย์ หรือ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ สตาร์รุ่นลายครามของ ยูเวนตุส ใช้รถที่ใกล้ชิดผูกพันกับทีมม้าลายอย่างยิ่ง นั่นคือ เฟียต 500 เนื่องจากตระกูล อักเนลลี่ ซึ่งเป็นเจ้าของรถเฟียตนั้นก็บริหารทีมยูเว่มาช้านานแล้วนั่นเอง โดยรถที่เดล ปิเอโร่ ขับนั้น เป็นโมเดลใหม่คันที่ 10 จากสายพานผลิตพอดิบพอดี เพื่อให้เข้ากับเสื้อหมายเลข 10 ที่เจ้าตัวใส่รับใช้สโมสรมายาวนาน

เรื่องของการเปลี่ยนรถตามช่วงเวลา บางครั้งก็บ่งบอกถึงเส้นทางการไต่เต้าสู่ดาวของนักเตะบางคนได้เหมือนกัน เช่นเบ๊คแฮมช่วงราวกลางทศวรรษที่ 1990 สมัยยังไม่รุ่ง ก็ขับรถ ฟอร์ด เอสคอร์ต เรียบๆ ง่ายๆ ไม่หวือหวา

หรือยกตัวอย่าง เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งตอนแรกขับ ฟอร์ด คา คันละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ตอนนี้กลับเป็นเจ้าของคอลเลคชั่นรถสุดหรูมูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (48 ล้านบาท) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เบนต์ลีย์ คอนติเนนตัล จีที ราคา 175,990 ดอลลาร์สหรัฐ (5.6 ล้านบาท) และมีข่าวซุบซิบว่า เจ้าตัวเพิ่งสั่งซื้อรถลัมบอร์กินี่ แอลพี 640 มูร์เซียลาโก้ มูลค่าถึง 340,000 ดอลลาร์สหรัฐ (10.9 ล้านบาท) มาหมาดๆ

กล่าวคือ พอเริ่มลืมตาอ้าปากมีชื่อเสียงโด่งดังก็ต้องมีการเปลี่ยนพาหนะให้สมฐานะสักหน่อย แต่จะว่าไป บางครั้งความโด่งดังเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขาได้เป็นเจ้าของรถหรูๆ โดยไม่ต้องเดือดร้อนถอนขนหน้าแข้งด้วยซ้ำไป เพราะยิ่งมีชื่อเสียงเท่าไร ใครๆ ก็รุมตอมอยากเป็นสปอนเซอร์ให้ เช่น ออดี้ ซึ่งเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับสโมสรยักษ์ใหญ่ของ 3 ลีก อย่าง รีล มาดริด บาเยิร์น มิวนิก และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยเหตุนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จึงได้ออดี้ อาร์ 8 มูลค่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ (6.1 ล้านบาท) มาซิ่งฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียงตังค์สักแดงเดียว!

ศาสตราจารย์อลัน แบร์เนอร์ แห่งภาควิชากีฬาและการออกกำลังกายของมหาวิทยาลัยลอฟโบโร่ กล่าวว่า

ความสำเร็จของนักฟุตบอลอาชีพยุคปัจจุบันซึ่งนับวันยิ่งขยายฐานแฟนๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศมากขึ้นทุกที กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หรูๆ ทั้งหลายเปลี่ยนนโยบายเรื่องสปอนเซอร์และพรีเซ็นเตอร์โฆษณาใหม่ จากเดิมที่มองข้ามนักฟุตบอลไปเพราะเห็นว่าดึงดูดลูกค้าคนละกลุ่มกัน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายจำกัดอยู่แค่คนมีฐานะ เดี๋ยวนี้จะหันมาเปิดกว้างมากขึ้น เพราะยิ่งมีโอกาสขายได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่านักเตะดังๆ ค่าตัวแพงๆ ทั้งหลายจะสนุกสนานกับการใช้เงินแต่งรถคันงามได้ไม่รู้จบ เพราะถ้าไม่รู้จัก "ประมาณตน" หรือใช้ชีวิตอย่าง "พอเพียง" เสียบ้าง ก็อาจเดือดร้อนได้เหมือนกัน เหมือนอย่าง เอริค เชมบ้า-เชมบ้า กองกลางชาวแคเมอรูน ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่ในลีกลูกหนังกาตาร์ เมื่อปีกลายเพิ่งจะโดนศาลในเมืองเบอร์มิงแฮมตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลาย เพราะใช้เงินเกินตัวจนหนี้สินท่วมหัว

ประเด็นนี้ อดีตเอเย่นต์ของเชมบ้า-เชมบ้าบอกว่าไม่แปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว...

เพราะเจ้าตัวเล่นใช้เงินมือเติบซื้อรถเอสยูวีมาเติมโรงรถตั้ง 10 คันนี่นา!