ศึกโหมโรง!!ระหว่างสถิติบาร์ซ่า-แมนยู /เมสซี่-โรนัลโด้

ศึกดุเดือดระดับโลกกำลังประทุขึ้น และปีนี้ก็เป็นปีสมเกียรติแก่ระดับรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอย่างแท้จริง เมื่อ 2 ยอดทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่น่าหวั่นพรึงที่สุดในโลกกับการล่าแชมป์เป็นว่าเล่นมา 2 ฤดูกาล ส่วนอีกทีมคือทีมบาร์เซโลน่า ทีมที่มีเก่งฉกาจราวกับมาจากต่างดาว ที่คว้าแชมป์ทุกอย่างในปีนี้และทำลายสถิติฟุตบอลเสียทุกอย่างไป


ก่อนการชิงแชมป์จะระเบิดขึ้น ณ กรุงโรม หลายสำนักก็จับทั้งคู่มาสู้กันเสียก่อนแล้ว และแน่นอนสิ่งที่ขาดไม่ได้คือสถิติของทั้ง 2 ทีมที่พิสูจน์ว่า ทีมทั้ง 2 มีดีอย่างไร ถึงได้คว้าแชมป์ลีก แชมป์ถ้วย และมีดีที่จะเข้ามาชิงชนะเลิศในรายการที่ใหญ่ที่สุดอย่าง UCL นี้


สุดยอมทีมที่บุกที่ดีที่สุด VS สุดยอดทีมที่มีเกมรับดีที่สุด


ถ้านับเฉพาะรายการยุโรป บาร์ซ่ายิงไปแล้ว 34 ลูก เฉลี่ย 1 นัดทีมเจ้าบุญทุ่มซัดไป 2.6 ลูกต่อนัด ส่วนแมนยูยิงไป 18 ลูกเฉลี่ย 1.5 ลูกต่อนัด โดยการสร้างโอกาสของการทำประตูทั้ง 2 ทีมอย่างกับนัดกันมาคือแต่ละทีมได้ยิงเฉลี่ยกันไปทีมละ 14 ครั้งเข้ากรอบต่อนัด แสดงให้เห็นว่าทีมของกวาร์ดิโอล่าเปิดตำรา เดินหน้าฆ่ามัน สร้างเกมรุกได้เยี่ยมไกลห่างนัก


แต่สำหรับทีมของเฟอร์กูสันก็ได้ความแข็งแกร่งของเกมรับเป็นปัจจัยในการล่าแชมป์สมัย 2 ติดต่อกัน ด้วยการที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียประตูน้อยที่สุดในรายการนี้ที่ 6 ประตู เฉลี่ยเสียไป 0.5 ลูกต่อแมตช์ ในขณะที่บาร์ซ่าเสียไป 13 ลูก เฉลี่ย 1.3 /แมตช์


แต่มีสถิติที่น่าหวาดหวั่นอีกอันของทีมบาร์เซโลน่าคือ การยิงไปทุกรายการ 155 ลูก แต่ถ้านับเฉพาะลาลิก้าลีกและ UCL บาร์ซ่าซัดไป 138 ลูก [ลาลิก้า 104 / UCL 34] และแมนยูยิง 2 รายการเดียวกันรวม 85 ลูกโดยแข่งมากกว่า 1 นัด โดยในลีกบาร์เซโลน่าเป็นทีมที่ยิงประตูเยอะที่สุดในลีกและเสียประตูน้อยที่สุดในลีก ขณะที่แมนยูยิงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีกและเสียประตูน้อยที่สุดอันดับ 2 ในลีกเช่นกัน


เปอร์เซนต์การครองบอล


ในถ้วยยุโรป บาร์ซ่ามีเปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ย 62% ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ครองบอลเหนือคู่แข่งที่สู้ด้วยนิดหน่อยอยู่ที่ 54% ซึ่งเป็นเคล็ดลับทั้ง 2 ทีมที่เอาชนะเหนือคู่แข่งมาตลอด แต่บาร์ซ่ามีสถิติที่ดีกว่าอันทำให้การยิงประตูดีกว่านั่นเอง


คิงแอสซิสต์


ในรายการยุโรปเจ้าของ MVP รายการยูโร 2008 อย่าง ซาบี้ เฮอร์นันเดสครองสถิติการจ่ายให้เพื่อนยิงประตูที่ 6 ประตู ตามมาด้วยลิโอเนล เมสซี่จ่ายไป 5 ในขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์และรูนี่ย์ของแมนยูตามมาคนละ 3 แค่นี้อย่าเพิ่งตกใจ เพราะสถิติการแอสซิสต์ของซาบี้คนนี้มีถึง 32 ประตู*ของทุกรายการในปีนี้ คงไม่ต้องสารธยายต่อเลยว่าจำนวนขนาดนี้ก็ทำให้เขามีลุ้นเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกได้แน่นอน


ราชันยิงประตู


ลิโอเนล เมสซี่นำดาวตำแหน่งซัลโวสูงสุดที่ 8 ประตูของรายการนี้ ตามมาด้วยอองรีที่ 5 ประตู โดยแมนยูมีผู้เล่น 3 คนยิงที่ 4 ประตูตามมาได้แก่เบอร์บาตอฟ, รูนี่ย์และโรนัลโด้คนละ 4 ประตู ส่วนซามูเอล เอโต้และโบยานยิงกันไปคนละ 3 ประตู


แฟร์เพลย์


น่าดีใจแทนแฟนบอลที่จะได้เห็นการเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก เพราะนอกจากการเล่นจากระดับสุดยอดของทั้ง 2 ทีมแล้ว แมนยูและบาร์ซ่าต่างเป็นทีมที่มีการเล่นที่ทำฟาวล์ต่ำมาก เพราะตกเป็นเป้าในการโดนทำฟาล์วข้างเดียวเป็นประจำ โดนบาร์ซ่าเป็นทีมที่ทำฟาวล์ใส่คู่แข่งน้อยเป็นอันดับ 2 ในรายการ ส่วนแมนยูตามมาเป็นที่ 4 และไม่น่าแปลกใจที่ ปีกกวนสตั๊ดของคู่แข่งประจำรายการจะเป็นของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยเป็นเหยื่อโดนหวดทำฟาวล์จากคู่แข่งไปถึง 36 ครั้งเท่ากับฟร้อง ริเบรี่ ตามมาด้วยอิเนาต้าที่ 31 ครั้ง และน่าแปลกที่เมสซี่โดนไปแค่ 23 ครั้ง คงเพราะเจ้าตัวมีนิสัยที่ไม่ชอบล้มถึงแม้จะโดนทำฟาวล์หนักแค่ไหนก็ตาม


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ VS ลิโอเนล เมสซี่


คงจะไม่พูดถึง 2 คนนี้ไม่ได้ แม้ทั้งสองจะออกมากลบกระแสว่าการแข่งครั้งนี้เป็นเวทีที่ทำให้เขาทั้ง 2 คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของปีนี้ไปได้ ปีที่แล้วทั้งคู่เจอกัน แม้เมสซี่จะโชว์ฟอร์มได้เด่นประทับใจมากกว่า แต่สถิติทั้งฤดูกาลของโรนัลโด้ดีกว่าก็ทำให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกไป ส่วนปีนี้ดูสถิติของอัจฉริยะอาเจนต์จะทิ้งห่างพอสมควร เพราะโรนัลโด้เล่นไปแล้ว 52 นัดยิงไป 26 ประตู จ่าย 8 แอสซิสต์ ส่วนลิโอเนล เมสซี่เล่น 50 นัดยิงไป 37 ลูกกับอีก 24 แอสซิสต์* เท่ากับว่าเมสซี่เล่นให้ทีมได้ประตูไปถึง 61 ประตูจากเขาคนเดียว สถิตินี้ต้องสร้างความหวาดหวั่นแก่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแน่นอน เพราะเมสซี่คนเดียวทำทีมได้ประตูเกือบเทียบเท่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั้งทีมยิงประตูในลีกทั้งฤดูกาลที่ 67 ประตูโดยแมนยูเหลืออีก 1 นัดในลีกให้เล่น ส่วนเมสซี่เหลืออีก 2 นัด สถิตินี้คงไม่แปลกที่สื่อทั้งไทยและเทศจะเรียกเมสซี่ว่ามนุษย์ต่างดาว


นอกจากนี้สถิติในรายการยุโรป ที่เมสซี่ยิงไป 8 ประตู โรนัลโด้ยิงไป 4 ประตู ก็มาดูถึงการใช้โอกาสในการยิงประตูกันบ้าง โดนเมสซี่ใช้โอกาสยิง 3 ครั้งเป็น 1 ประตู ในขณะที่โรนัลโด้ใช้โอกาส 13 ครั้งเพื่อเบิกสกอร์ 1 ประตู


อย่างไรก็ตาม สถิติทั้งหมดมันไม่ใช่คำตอบหรือผลการแข่งที่ทีมทั้ง 2 จะเจอกัน แต่มันก็ใช่ว่าไม่สำคัญ เพราะทั้ง 2 ทีมต่างนำสถิติของทีมตัวเองและคู่ต่อสู้นำมาวางแผนรับมือกันทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อนำชัยชนะมาสู่ทีมของตัวเอง และไม่ว่าทีมใดจะเป็นฝ่ายชนะและชูถ้วยในการแข่งขันครั้งนี้ก็ตาม จะไม่มีใครปฎิเสธได้ว่าทั้ง 2 ทีมคือทีมที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้ และผู้แพ้ก็ไม่ใช่ทีมที่แย่กว่า แต่เพราะผู้ชนะจะมีเพียงแค่หนึ่งและสมควรได้รับชัยชนะไปในท้ายที่สุด


 


รวบรวมสถิติข้อมูลต่าง ๆ จาก


เวปไซด์ soccernet,wiki,fcbarcelona.cat,fctranferblog


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์