วาทะพาจนพฤติกรรมพาซวย

เรื่องความเห็นไม่ลงรอยเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่มีความคิดไม่เหมือนกัน แต่หากมันรุนแรงเกินกว่าเหตุก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ อย่างในกรณีของ นิโกล่าส์ อเนลก้า หัวหอกติสต์แตก ที่มีปากเสียงขั้นรุนแรงกับ เรย์มงด์ โดเมเน็ค กุนซือมาดภารโรง ทีมชาติฝรั่งเศส จนถึงขั้นยกย่องให้เป็นลูกคุณตัวเลยทีเดียว และด้วยวาจาสามห้าวไม่เคารพผู้ใหญ่ สมควรแล้วที่ต้องโดนสั่งสอน โดยสหพันธ์ฟุตบอลน้ำหมอ ก็เลยมอบใบแดงอัปเปหิ นิโก้ พ้นทัพ เลส์ เบลส์


แม้หลายคนมองว่า โดเมเน็ค สมควรแล้วที่ถูกเด็กรุ่นลูกด่าเสียผู้เสียคนแบบนี้ แต่ตามความเห็นของคนที่กตัญญูรู้คุณคน นี่คือพฤิตกรรมระดับระยำ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะอย่างน้อยก็เป็นผู้ใหญ่ ฉะนั้นเด็กรุ่นหลังอย่าได้เลียนแบบเป็นอันขาด แม้มันจะดูฮาร์ดคอร์สะใจวัยโจ๋ แต่หากใครโดนด่าแม่แบบนี้แล้วยิ้มได้ก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้ว


จะ ว่าไปแล้ว เรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวกับคำพูดคำจาในวงการลูกหนังมีมากมาย และส่งผลกระทบต่อเจ้าของคำพูดก็เยอะแยะ ดังนั้น สัปดาห์นี้ มาเพ่งพิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้กันเลยดีกว่า


อูลี่ สไตน์ VS. ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ (เยอรมันตะวันตก)

นายทวารจอมหนึบ ซึ่งได้รับการยกย่องจาก ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ บุนเดสเทรนเนอร์ ว่าเป็นโกล์ที่เหนียวหนึบ และเหมาะสมที่จะได้สวมหมายเลข 1 ให้กับ เยอรมันตะวันตก ในศึกฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก มากกว่า โทนี่ ชูมัคเกอร์ อย่างไรก็ตาม เรื่องทุกอย่างต้องกลับตาลปัตรทันที เมื่อ สไตน์ ดันทะลึ่งปากไม่อยู่สุขวิจารณ์ ไกเซอร์ฟร้านซ์ ว่าเป็น ตัวตลกในอ่างซุป จากภาพของ เบ็คเคาเบาเออร์ ที่อยู่ในโฆษณาซุป และด้วยวาจาปากมันไม่เข้าเรื่อง สไตน์ ก็เลยโดนส่งตัวกลับเมืองเบียร์ ซึ่งในเวิลด์ คัพ ฉบับจังโก้ พวกเขาผ่านเข้าถึงรอบชิง แต่แพ้ อาร์เจนตินา แต่ 4 ปีหลังจากนั้น อินทรีเหล็ก ก็บินผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จ แต่ไม่มีชื่อของ สไตน์ อยู่ร่วมทีม โดยเป็นผลพ่วงจากการวิจารณ์ในครั้งนี้ และสุดท้าย โกล์ปากมอม ก็มีสถิติติดทีมชาติแค่ 6 นัดเท่านั้น




เอริค คันโตน่า VS. อองรี่ มิเชล (ฝรั่งเศส)

ใครๆ ก็รู้ว่า ก็องโต้ ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นคนที่พูดตรงๆ ขวานฝ่าซาก และด้วยบุคลิคแบบนี้ย่อมไม่ส่งผลดีต่อการเล่นทีมชาติฝรั่งเศสของเขา โดยในเดือนกันยายน 1988 ซึ่ง อองรี มิเชล ทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ ก็ตกเป็นเป้าวิจารณ์ของเขาแบบเลี่ยงไม่ได้ โดย มิเชล ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นของทัพ เลส์ เบลอส์ ที่ทะลุเข้ารอบตัดเชือก เวิลด์ คัพ 1986 ตัดสินใจตัดชื่อ คันโตน่า ออกจากทีมในเกมอุ่นเครื่อง และการทำแบบนี้เหมือนจุดไฟใส่กองฟางเพราะ ตำนานแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เลยตอบโต้ด้วยวาจาสุดแสบถึงลำไส้ใหญ่ว่า -ผมเคยอ่านคำพูดของ มิคกี้ รู้ค (ดาราดังฮอลลีวู้ด) เพราะเขาเป็นขวัญใจของผม ซึ่งเขาพูดว่าคนที่ให้ความสนใจกับรางวัลออสการ์เป็นพวกน่ารังเกียจ ผมคิดว่า อองรี มิเชล ก้ไม่ห่างไกลจากคำนิยามนั้นหรอก- จากคำพูดดังกล่าวทำให้ เอริค เดอะ คิง โดนสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส แบน 10 เดือน




สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก VS. แฟนบอล

จอมห้าวหัวเสือ ฉายาก็บอกตรงๆ แล้วว่าพฤติกรรมเป็นแบบไหน เรื่องนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันเวิลด์ คัพ 1994 ที่แดนลุงแซม โดย เยอรมัน ลงดวลแข่งกับ เกาหลีใต้ ซึ่งทุกอย่างก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ เอฟเฟ่นแบร์ก เกิดคลั่งอะไรก็ไม่รู้ควักนิ้วกลางเรียวงามได้ใจ มอบให้กับแฟนบอล อินทรีเหล็ก ที่โห่ใส่ทีมหลังผิดหวังกับผลงานแม้จะชนะ โสมขาว 3-2 ก็ตาม และการกระทำแบบนี้มีหรือที่ แบร์ตี้ โฟ้กท์ส เทรนเนอร์ จะยอมให้ลอยนวล กอปรกับสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันให้การหนุนหลังก็เลยยื่นซองขาวส่ง เอฟเฟ่ กลับมา อย่างไรก็ตาม อดีตกัปตันทีม บาเยิร์น มิวนิค ได้หวนกลับมาสวมเสื้อทีมชาติอีกครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ ปี 1998



เอ็ดการ์ ดาวิดส์ VS. กุส ฮิดดิ้งค์ (ฮอลแลนด์)

ดาวิดส์ ซึ่งได้รับฉายาว่า พิตบูลล์ และก็ดุสมชื่อ เมื่อเจ้าตัวเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันแฉเรื่องราววงในทัพ อัศวินสีส้ม เกี่ยวกับการเหยียดผิว ในศึกยูโร 96 โดยกล่าวหา ฮิดดิ้งค์ว่า -โดนพี่น้องเดอ บัวร์ (โรนัลด์ กับ แฟร้งค์) และ (เดนนิส) เบิร์กแคมป์ เป่าหู และ ฮิดดิ้งค์ ต้องหยุดฟังคำแนะนำของคนพวกนี้- พูดจาก้าวร้าวแบบนี้ก็ต้องโดนส่งตัวกลับบ้านละซิครับ และเรื่องนี้ทำให้เกิดร้อยร้าวภายในทีมที่สำคัญยังทำให้พวกเขาโดน อังกฤษ ยำเละเทะ 4-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม และจากนั้นก็ตกรอบก่อนรองชนะเลิศในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ฮิดดิ้งค์ กับ ดาวิดส์ ก็หันมาจูบปากกันอีกครั้ง และให้เขามีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งพวกเขาทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แต่แพ้จุดโทษต่อ บราซิล อย่างน่าเสียดาย



นิโกล่าส์ อเนลก้า VS. ฌักส์ ซ็องตินี่ (ฝรั่งเศส)

สันดานของ อเนลก้า มีมาตั้งแต่สมัยวันรุ่นแล้ว ขานี้ต้องยอมรับว่าอีโก้สูงมากๆ โดยเรื่องราวฉาวโฉ่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2003 เมื่อเขาโดน ซ็องตินี่ ตัดสินใจไม่เลือกเขาร่วมทีม พอโดนตัดทิ้งแบบนี้มีหรือคนที่หัวแข็งอารมณ์ติสต์จะยอมง่ายๆ ว่าแล้วก็อาศัยสื่อด่าโค้ชมันซะเลย ผมไม่อยากเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสหรอก เขา (ซ็องตินี่) ควรจะมานั่งคุกเข่าต่อหน้าผม แล้วก็ขอโทษ หลังจากนั้นผมค่อยคิดเรื่องการเล่นทีมชาติ อย่างไรก็ตาม ซ็องตินี่ ไม่สนใจที่จะทำตามปากมอมๆ ของ นิโก้ และส่งผลให้นักเตะต้องรอคอยการถูกเรียกตัวเล่นให้ทัพ ตราไก่ จนถึงยุค เรย์มงด์ โดเมเน็ค และสุดท้าย อเนลก้า ก็ลืมบุญคุณคนด่าผู้มีพระคุณชนิดที่แม่ของ น้าเน็ค ถึงกับนอนสะดุ้งเลยทีเดียว



ดีเอโก้ มาราโดน่า VS. สื่อมวลชน

เสือเตี้ย โดนสื่อมวลชนสับเละเพราะกุมบังเหียน อาร์เจนตินา ได้ห่วยแตกสิ้นดี จนซุ่มเสี่ยงที่จะตกรอบคัดเลือก เวิลด์ คัพ 2010 โซนอเมริกาใต้ แต่หลังจากที่ มาราโดน่า นำทีมชนะ อุรุกวัย และผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปทัวร์ซาฟารีได้สำเร็จ พี่ท่านก็ออกมาจวกพวกสื่อที่ตามราวีเขามาตลอดทันที พวกคนเหล่านี้ไม่เคยเชื่อมั่นในทีมชุดนี้ และปฏิบัติกับผมราวกับว่าผมไม่มีค่า วันนี้เราได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายแล้ว โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น เรามีเกียรติ ส่วนพวกคนเหล่านี้ไม่เคยเชื่อมั่นในตัวเราเลย หลังจากแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสื่อ ส่งผลให้เขาโดน ฟีฟ่า แบนห้ามคุมทีม 2 เดือนรวมทั้งไม่ได้ร่วมงานจับสลาก ฟุตบอลโลก 2010 ด้วยอีกต่างหาก

http://blog.siamsport.co.th