ลิเวอร์พูล 1-2 อาร์เซนอล

ลิเวอร์พูล 1-2 อาร์เซนอล



ประตู : 1-0 เคาท์ น.41,1-1 จอห์นสัน น.50,1-2 อาร์ชาวิน น.58


ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพคึกคักเลยทีเดียวหลังได้เฟร์นานโด ตอร์เรสกลับมายืนเป็นกองหน้าอีกครั้งแต่ที่ชัวร์ปึ๊กคือลูคัส เลว่าที่พักเต็มๆเมื่อกลางสัปดาห์กลับมาจับคู่กับฮาเวียร์ มาสเคราโน่อีกครั้งนั่นหมายความว่าอัลแบร์โต้ อาควิลานี่ต้องกลับไปนั่งสำรองตามเดิม

ด้านอาร์เซนอลมีปัญหาผู้เล่นเจ็บเยอะเรียกว่าหน้าเป้าหายเกลี้ยงทั้งฟาน เพอร์ซี่และเบนด์เนอร์ทำให้ต้องใช้แนวรุกตัวเล็กๆอย่างอังเดร อาร์ชาวินและซาเมียร์ นาสรี่โดยมีเชสก์ ฟาเบรกัสเป็นจอมทัพเช่นเดิม

ครึ่งแรก

หงส์กระหน่ำแหล
หงส์แดงเริ่มเกมมาก็ลุยแหลกใส่อาร์เซนอลตามฟอร์มพร้อมเสียงเชียร์ของเดอะค็อปที่ร้องยูวิว เนฟเวอร์ วอล์ก อโลนตั้งแต่ก่อนเขี่ย

ปืนใหญ่พยายามใช้การสวนกลับเพราะเจ้าถิ่นกำลังบ้าระห่ำมากแต่ดูเหมือนแนวรับและมิดฟิลด์ตัวรับที่ราฟาเอล เบนิเตซวางหมากมานั้นกำลังทำหน้าที่สกรีนหยุดเกมรุกเพื่อเอาบอลกลับได้ดีอยู่ 

ช็อกตอร์เรสยิงเน้นๆไม่เข้า
นาที 11 ลิเวอร์พูลน่าจะขึ้นนำอย่างที่สุดหลังจังหวะที่ทีมเยือนบุกอยู่ดีๆเสียบอลทำให้เคาท์ตัดแล้วฝากให้ตอร์เรสทำชิ่งตรงหัวกระโหลกแดนตัวเองกับเจอร์ราร์ดก่อนที่หัวขิงจะกระชากห้อขึ้นมาแล้วปาดตบเร็วให้ตอร์เรสวิ่งมาเข้าฮอร์ตเหน่งๆไร้ตัวประกบในกรอบเขตโทษแต่ตอนยิงเอียงตัวซัดแป๊กไปเข้ามืออัลมูเนียอย่างไม่น่าเชื่อ หายเจ็บไปนานเลยสนิมเกราะ ถ้าเป็นตอนฮ็อตๆไม่น่าเหลือ

หงส์เกือบได้จุดโทษ
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าถิ่นมาอีกแล้วตอร์เรสลากจี้เข้ามาถึงหน้าเขตโทษตรงเยื้องๆฝั่งขวาแล้วปาดแปะให้เจอร์ราร์ดที่วิ่งทำทางก่อนหลุดเข้าเขตโทษแล้วตอนแตกหนีกัลลาส์เหมือนสะดุดจนบอลล้นตัวซึ่งเป็นจังหวะที่กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสรวบพอดี กรรมการทำมือให้เล่นต่อ

หัวขิงเทพ
วันนี้เจอร์ราร์ดเล่นดีมาก จ่าบอลแต่ละทีเนียนตาเหมือนเทวดาโดยนาที 21 จังหวะได้บอลตรงกลางสนามแทงไซด์ก้อยตัดหลังตราโอเล่ให้เคาท์วิ่งไปเอาตรงปีกขวาน้ำหนักสุดติ่งก่อนที่แข้งไตรกีฬาจะเอาตัวรอดแล้วแตะต่อให้จอห์นสันกระชากหลุดไปถึงริมกรอบโทษแต่ตอนจ่ายทำได้ไม่ดีติดกองหลังปืนใหญ่ซะก่อน

หัวขิงซัดติดบล็อก
เจ้าถิ่นยังรับออดอร์บุกมาเรื่อยๆนาที 28 เคาท์ได้บอลในเขตโทษแล้วตบย้อนตั้งให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาแปเน้นๆตรงระยะ 14 หลาแต่ติดบล็อกกองหลังอาร์เซนอลอย่างน่าเสียดาย

ปืนรับเหนื่อย
ปืนใหญ่ตั้งรับอยู่ข้างเดียวแต่จะเห็นได้ว่ากำลังจ้องเล่นงานในจังหวะสวนกลับและถ้ามีประตูจากลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์เมื่อไหร่ลิเวอร์พูลงานเข้าแน่เพราะตอนนี้ได้แค่ลูกโหมหนักแต่การประสานงานเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายยังไม่ดีพอโดยเฉพาะตอร์เรสที่วูบวาบน่ากลัวแต่หวงบอลเยอะมากเกินไป

นาที 36 นาสรี่ลากบอลขึ้นมาพอเห็นไม่มีใครเข้าเลยตัดสินใจส่องตรงระยะ 20 หลาเศษๆบอลบดปลิ้นออกข้างเสาไป 2-3 หลา

มาแล้ว 1-0 เคาท์ฮีโร่
เกมที่น่าจะจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้แต่แล้วนาที 41 ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำสมใจอยากจากจังหวะฟรีคิกไกล 30 กว่าหลาที่เจอร์ราร์ดถูกเดนิลสันใช้ก้นดักทางอัดจนตัวลอยเป็นออเรลิโอที่รับหน้าที่ปั่นบอลไซด์ลอยละลิ่วเข้ามาตรงระยะ 7-8 หลาเป็นลูคัสถอยหลังโขกแต่ไม่โดนทำให้อัลมูเนียเสียจังหวะออกมาชกไม่ดีบอลตกมาที่เคาทืใช้อกพักแล้วยิงดีดๆลอดขาเฟอร์มาเลนที่เข้ามาบล็อกเข้าประตูโดยที่กัลลาส์ยืนคุมเส้นถลำไปดักอีกทาง หงส์แดง 1-0

ครึ่งหลัง

เชสก์ทักทายก่อน
อาร์เซนอลลงมาเล่นแบบตั้งใจกว่าครึ่งแรกและแค่ 3 นาทีเชสก์ได้ลูกส้มในกรอบเยื้องฝั่งซ้ายเป็นเชสก์ซัดเต็มข้อลอดขาคาร์ราเกอร์ยังดีที่ไปตรงตัวเรน่าที่รับเข้ามือพอดี

จอห์นสัน Og. เสมอ 1-1
และนาที 50 ลิเวอร์พูลงานเข้าจนได้หลังนาสรี่หลุดขึ้นมาตรงริมกรอบโทษก่อนปาดบอลเลียดมาที่จุดนัดพบบอลแฉลบออเลริโอนิดนึงจนคาร์ราเกอร์ที่วิ่งมาเสาแรกถลำพยายามเอาขาสกัดแต่ไม่ถึงบอลเลยมาถูกขาจอห์นสันที่วิ่งตามอาร์ชาวินค่อยๆกลิ้งเข้าประตูตัวเอง

อาร์ชาวินตะบันหาย 2-1
เจ้าถิ่นงานเข้าอีกแล้วเพราะอีก 8 นาทีต่อมาต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังอย่างไม่น่าเชื่อหลังเชสก์หยอดบอลตรงหน้าเขตโทษเลยมาให้อาร์ชาวินแต่เหมือนจอห์นสันจะเก็บกินเพราะเข้าถึงก่อนแต่ดันไปจับบอลไหลปลิ้นเท้าทำให้อาร์ชาวินพลิกทีนึงแล้วตะบันยิงอย่างว่องบอลพุ่งเป็นหัวกระสุนชนเสาเข้าไปสุดงาม เรน่าได้แต่ยืนมอง อาร์ชาวินกำลังกลับมาหลอนหงส์แดงอีกแล้วหลังเคยยิงคนเดียว 4 ประตูเมื่อซีซั่นก่อน

หงส์ใบ้กิน
ลิเวอร์พูลโดนเข้าไปถึงกับช็อตความห้าวในครึ่งแรกหายไปหมด เจอร์ราร์ดและตอร์เรสที่เคยพลิ้วไหวตอนนี้หายไปจากเกมแล้วส่วนปืนใหญ่หันมาเล่นบอลเชิงเคาะสั้นๆให้เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายไล่อย่างเดียวแล้ว

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลงัดมวยวัดเข้าสู้แต่เหมือนทีมมีระบบอย่างอาร์เซนอลสามารถต้านเอาไว้ได้ตลอดโดยเฉพาะลูกบอมบ์มั่วซั่วจบเกมหงส์แดงแพ้คาบ้าน 2-1 ทำสถิติน่าสะดุ้งชนะแค่ 2 จาก 9 นัดในลีกอยู่อันดับ 11 นำหน้าสโต๊คแค่ 3 แต้มในขณะที่อาร์เซนอลแซงวิลล่าขึ้นไปอยู่ที่สามตามหลังเชลซีแค่ 6 แต้มเท่านั้นพร้อมทำสถิติบุกมาเอาชนะในแอนฟิลด์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน(เดเก้น น.82),เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่(อาควิลานี่ น.66),ลูคัส เลว่า,เดิร์ก เคาท์,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,ยอสซี่ เบนายูน(เอ็นก็อน น.79),เฟร์นานโด ตอร์เรส

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย,บาคารี่ ซาญ่า,วิลเลี่ยม กัลลาส์,โธมัส เฟอร์มาเลน,อาร์มานด์ ตราโอเร่(ซิลแวสตร์ น.87),เชสก์ ฟาเบรกัส,อเล็กซานเดอร์ ซง,เดนิลสัน,ธีโอ วัลค็อตต์(ดิยาบี้ น.70),อังเดร อาร์ชาวิน(แรมซี่ย์ น.92),ซาเมียร์ นาสรี่
























 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์