ลา ลีกาหวิดกร่อย!ราชัน 10 ตัวซ่ำเซบีญ่าหืด 1-0


ลา ลีกา

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2553



เรอัล มาดริด 1 - 0 เซบีย่า

ประตู :
1-0 อังเคล ดิ มาเรีย น.77

เรอัลมาดริดเปิดบ้านด้วยสถิติสุดหรูชนะมารวด 7 นัดในบ้านโดยนัดนี้มีเซบีย่าที่เพิ่งผ่านการเข้ารอบแบ่งกลุ่มยูโรป้าลีกไปสด ๆ ร้อน ๆ มาเยือน เด็ก ๆ เฮียมูนำทีมโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้เจ้าเก่า จำเป็นต้องเก็บสถิติชนะรวดเป็นนัดที่ 8 ให้ได้เพื่อบีบช่องว่างกับบาร์เซโลน่าให้แคบลง

ครึ่งแรก

เบนเซม่าโฉบกระชาก

เสียงนกหวีดเป่าเริ่มต้นเกมเจ้าถิ่นก็ตั้งเกมบุกกดดันผู้มาเยือนทันทีนาที 13 น่าจะได้ประตูจากดิมาเรียจ่ายทะลุช่องให้เบนเซม่าวิ่งโฉบมาเอาบอลตัดหน้าปาล็อปแต่เบนเซม่าไม่มีช่อง เลยต้องหาเพื่อนเพื่อส่งแต่กลายเป็นเสียจังหวะไป 

โอกาสของ 2 โด้ กับ 1 เด้

นาที 22 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้เสียวจากฟรีคิกปาล็อปรับกระฉอกนิดนึงแต่ยังไวตะปบเอาไว้ได้ นาทีถัดมาเซบีย่าเกือบได้บ้างโดยเนเกรโด้แต่งบอลจะยิงแต่เปเป้เคลียร์บอลออกหลังไปได้ทัน ก่อนที่เอสกูเด้จะขึ้นโขกลูกเตะมุมเฉี่ยวเสาออกหลังไปแค่คืบ

เซบีย่ายังรับเหนียว

ต้องบอกว่าวันนี้เกมรับเซบีย่าทีมเยือนมาดีมาก ๆ ทำเอาราชันชุดขาวที่ขาดอลองโซ่แทบหาโอกาสเปิดบอลเข้าทำไม่ได้เลย นาที 28 ดิมาเรียได้ลองลั่นไกจากแถวสองด้วยซ้ายบอลส่ายนิดนึงทำให้ปาล็อปที่กะปัดออกมาเกือบปัดไม่อยู่บอลเฉี่ยวออกหลังไปนิดเดียว

ราชันเริ่มตื้อ,ข้างสนามมีเดือด

ช่วง 10 นาทีท้ายของครึ่งแรกเกมของราชันชุดขาวขาดความต่อเนื่องพอสมควรเพราะเซบีย่าทำลายจังหวะเกมได้ดี แถมยังมีโอกาสได้สวนขึ้นมาประปราย ขณะที่กลุ่มสต๊าฟฟ์ของทั้งสองทีมดูจะเครียดจากเกมไม่น้อย มีการปะทะฝีปากกันระหว่างซุ้มม้านั่งจนเกือบจะมีมวย

เซบีย่าเกือบได้เฮ,เปเป้เซฟชีวิตราชัน

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บโรมาริคได้ซัดฟรีคิกเต็มข้อบอลพุ่งแรงอย่างกับจรวดทำให้คาซิยาสต้องทุบออกมา บอลเกือบจะเข้าทางเนเกรโด้ที่ดักรอจังหวะซ้ำอยู่แต่เปเป้ฮึดวิ่งมาเคลียร์ได้ทัน ทำให้ราชันชุดขาวจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 ด้วยฟอร์มที่น่าอึดอัดพอสมควร

ครึ่งหลัง

คาซิยาสออกแรงอีกแล้ว

เปิดมาเกือบ 2 นาทีคาซิยาสโกล์ที่เพิ่งชูรางวัลไปก่อนเกมเริ่มก็ได้ออกแรงปัดลูกยิงไกลของโรมาริคอีกครั้ง อีกสี่นาทีถัดมาโรนัลโด้ได้ลองฟรีคิกหน้ากรอบแต่สุดหล่อโด้ยิงเบาผิดธรรมชาติปาล็อปรับกินสบายกันไป

เด็กเก่าราชันทิ้งโอกาสทอง!

เข้าสู่นาที 58 หลุยส์ ฟาเบียโน่จ่ายบอลทะลุช่องให้เนเกรโด้หลุดไลน์ของมาดริดเข้าไปเตรียมซัดประตูทีมเก่า แต่เนเกรโด้กลับยิงข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้นซะงั้นทิ้งโอกาสนี้ไปอย่างน่าเสียดาย 

ดิมาเรียอดจุดโทษแถมรับเหลือง

ถัดมาสองนาทีดิมาเรียลากเลื้อยเข้าไปกะให้ถึงเส้นหลังแต่โซโกร่าวิ่งมาประคองและมีการปะทะกันเล็กน้อย ดิมาเรียทิ้งตัวแต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษแถมให้ใบเหลืองกับดิมาเรีย จังหวะนี้ปาล็อปดูจะไม่พอใจมาต่อว่าดิมาเรียทำให้เกือบจะมีเรื่องกันเล็กน้อย

คาร์วัลโญ่เหลืองที่สอง!ราชันเหลือ 10 คน

นาที 63 หายนะของเจ้าถิ่นก็มาเยือนจากจังหวะคาร์วัลโญ่ขึ้นโหม่ง แล้วไปกางแขนใส่เนเกรโด้ผู้ตัดสินชักใบเหลืองที่สองให้คาร์วัลโญ่ทันทีท่ามกลางความชุลมุนจากการประท้วงของนักเตะเจ้าถิ่นทำให้คาซิยาสที่ออกมาโวยวายโดนเหลืองไปอีกคน

ใบเหลืองราชันว่อน

ผู้ตัดสินเกมนี้ชักจะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับนักเตะเจ้าถิ่นเต็มตัวซะแล้วหลังจากชักใบเหลือง 2 ใบซ้อนให้กับลาสและเปเป้ จากจังหวะลาสไปทำฟาวล์น่าเกลียดและเปเป้ที่พยายามจะมาประท้วงทำเอา มูรินโญ่ถึงกับแสยะยิ้มประชดผู้ตัดสิน

ดิมาเรียยยย!!!

ความอัดอั้นทั้งหมดทั้งมวลของเจ้าถิ่นก็มาสิ้นสุดลงในนาที 77 จากจังหวะที่น่าจะได้จุดโทษจากที่เลออนได้ซัดไปติดแขนของคาเปล แต่ดิมาเรียไม่สนใจปรี่ไปเก็บบอลก่อนหลอกปาล็อปที่มาบังหนึ่งจังหวะและซัดมุมแคบเข้าไปให้ราชันขึ้นนำ1-0 ทั้งที่เหลือสิบคน มูรินโญ่ตัดสินใจส่งอัลบิโอลเซ็นเตอร์ฮาล์ฟลงไปแทนโอซิลทันที

เหลืองแดงว่อนเซบีย่า 10 คนเท่าแล้ว

ช่วงทดเจ็บดาโบไปทำฟาวล์น่าเกลียดใส่ดิมาเรียทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงแบบไม่ต้องมีเหลืองออกไปกลายเป็นเหลือ 10 คนเท่ากันในช่วงเวลาอีก 2-3 นาทีที่เหลือ และเรอัลมาดริดก็ปิดเกมในช่วงที่เหลือทำให้ราชันชุดขาวเก็บสามแต้มสำคัญรักษาสถิติสุดหรูชนะรวดในบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 8 ก่อนปิดครึ่งฤดูกาลแรกได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


เรอัล มาดริด :
อิเคร์ คาซิยาส 6.5, เซร์คิโอ รามอส 6.5, ริคาร์โด คาร์วัลโญ่ 5.5 , เปเป้ 7.5, อัลบาโร่ อัลเบลัว 5, ซามี เคห์ดิร่า 5.5(กราเนโร่ น.61, 5), ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 5.5, เมซุต โอซิล 6(อัลบิโอล น.79, 5), อังเคล ดิ มาเรีย 7.5**, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 5, คาริม เบนเซม่า 5(เลออน น.61,6.5 )

เซบีย่า : อันเดรส ปาล็อป 5.5, ชูเลียง เอสกูเด้ 7, มาร์ติน กาเซเรส 6.5, ฟรานซิสโก้ นาบาร์โร่ 6.5, มูฮัมมาดู ดาโบ 5.5, ดิดิเย่ร์ โซโกร่า 6.5(ดาซิลวา น.85, 4.5), โรมาริค 6, ดิเอโก้ คาเปล 6.5(อัลฟาโร่ น.85, 4.5), อับดุลลาย คองโก 6.5 (อคอสต้า น.63, 5), หลุยส์ ฟาเบียโน่ 5, อัลบาโร เนเกรโด้ 6


 



เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์