ริคาร์โด กากา : สุดยอดนักเตะของโลกประจำปี 2007

ปฏิเสธไม่ได้ว่า

ริคาร์โด กากา คือ นักฟุตบอลที่โดดเด่นที่สุดในปี 2007 และคำพูดดังกล่าวก็ได้รับการพิสูจน์แล้ว เมื่อเขากวาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทุกสถาบันมาครองแบบไร้คู่แข่ง
 
ในจำนวนรางวัลเหล่านั้น
 
รวมถึงรางวัลจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสูงอย่างสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และนิตยสารฟรองซ์ ฟุตบอล เจ้าของรางวัล “บัลลงดอร์” ด้วย
 
สาเหตุหลักที่รางวัลของทั้ง 2 สถาบันดังกล่าว

ได้รับการยอมรับ เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ใช้กรรมการชุดใด ๆ หรือใครคนใดเป็นผู้ตัดสิน แต่ใช้การโหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพ, โค้ช, ผู้สื่อข่าวผู้เชี่ยวชาญ หรือแม้แต่แฟน ๆ

ดังนั้น การเหมาทั้ง 2 รางวัล จึงทำให้ต้องยอมรับว่า กากา คือ

ยอดแข้งเบอร์ 1 ของโลก ในนาทีนี้อย่างแท้จริง ผลงานที่เข้าตาที่สุดของเพลย์เมกเกอร์หน้าหล่อวัย 25 ปี ก็คือ การรับบทพระเอกตัวจริงในการนำ เอซี มิลาน ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในปีที่ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลยุโรป รายการใหญ่ที่สุดที่มักจะใช้ตัดสินรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมก็คือ แชม เปียนส์ ลีก
 
ฟอร์มของ กากา ร้อนแรงตั้งแต่รอบแรก ๆ
 
และยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงพีค สุด ๆ ก็คือเกมในรอบตัดเชือกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันเป็นที่มาของฉายา “ผีกากา” กากา ยิงไปถึง 10 ประตู ในการพา มิลาน คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 7 และยังคงทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์อันเป็นงานหลักได้อย่างไม่บกพร่อง เมื่อสามารถทำทางให้เพื่อนยิงอีกนับไม่ถ้วน
 
มันจึงไม่ผิดนัก ถ้าหากจะบอกว่า ตอนนี้ กากา คือแทบจะทุกอย่างของ มิลาน และถ้าหากไม่มี กากา มิลาน อาจจะไม่ได้แชมป์ยุโรป

คำพูดดังกล่าว
 
ไม่ได้เกินเลยความจริง เพราะฤดูกาลที่แล้ว มิลาน มีปัญหาเยอะมาก และผลงานในกัลโช เซเรีย อา ก็ดูไม่ดีเอาเลย แถมยังโดนตัดถึง 8 คะแนน จากคดีพัวพันกับการล้มบอล
 
ส่วนฤดูกาลนี้

สถานการณ์กลับยิ่งดูเลวร้ายหนักขึ้นไปอีก และมิลาน ก็ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่วนเวียนอยู่ในโซนกลางของตาราง แถมยังไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยในบ้านตัวเอง แต่นั่นไม่ได้มีผลกระทบต่อ กากา เลย เขายังคงส่องแสงให้ตัวเองได้ตลอดเวลา และพลังกับทักษะของเขา อาจจะเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ มิลาน ยังอยู่ในการแข่งขันปีนี้
     
ผลงานของ กากา หรือในชื่อเต็มว่า

“ริคาร์โด อิเซคสัน ดอส ซานโตส เลเต” กับ มิลาน ทำให้หลายคนบอกว่า เขาคือหนึ่งใน “ผู้เล่นหมายเลข 10” ที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดในปัจจุบันและสไตล์การเล่นของเขา ทำให้ผู้คนนึกถึงนักเตะอย่าง เปเล่, ดีเอโก มาราโดนา, มิเชล พลาตินี และ ซีเนอดีน ซีดาน
 
ซึ่งเมื่อรวมกับรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับในปีนี้ ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่า กากา ได้เริ่มต้นก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกของการเป็นนักเตะระดับตำนานของโลกดังรายชื่อที่กล่าวมาแล้ว

อย่างไรก็ดี

ถึงแม้จะกำลังอยู่บนจุดสูงสุดของชีวิต แต่ชีวิตของ กากา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย เขายังคงไม่ชอบออกงาน, ยังเป็นคนเงียบ ๆ และยังคงไม่ชอบทำตัวเป็นข่าวเหมือนเดิม อย่างเดียวที่ กากา ทำมาตลอด และยังทำก็คือมุ่งมั่นพัฒนาทักษะของตัวเอง เพื่อใช้ผลงานในสนามเป็นตัวบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเอง
 
ที่สำคัญ เขายังคงทำงานเพื่อพระเจ้าอย่างเคร่งครัด
 
กากา เคยเกือบจมน้ำเสียชีวิตเมื่อตอนเด็ก ๆ แต่เขารอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ หลังจากนั้น เขาเชื่อว่า พระเจ้าคือผู้ที่ช่วยชีวิตเขา และเขาก็เชื่อมั่นในพระเจ้าเสมอมา เขามีความศรัทธาในพระเจ้า และศาสนาคริสต์ถึงกับบอกว่า หลังจากแขวนสตั๊ดแล้ว สิ่งที่เขาอยากจะทำมากที่สุดก็คือเป็นผู้เผยแพร่ศาสนา กากา เผยหลังจากได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าว่า ตอนเป็นเด็ก ความฝันของเขามีเพียงแค่ได้ลงเล่นให้เซา เปาโล และติดทีมชาติบราซิลสักครั้ง
 
แต่เขาบอกด้วยว่า

ถ้าหากคุณมีความเชื่อมั่นในพระเจ้า พระองค์จะมอบสิ่งที่คาดไม่ถึงให้แก่คุณ และเขาก็ได้เห็นมันแล้วจากสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาตอนนี้ ความสำเร็จของ กากา ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความสามารถ และพรสวรรค์แต่กำเนิด แต่ส่วนใหญ่ ต้องบอกว่า เป็นเพราะการเป็นคนดี และความพอเพียงของเขา
 
เพราะไม่ว่าจะเก่งกาจหรือมีพรสวรรค์สูงขนาดไหน ถ้าหาก กากา ไม่ได้เป็นคนดี ที่ยึดมั่นในศาสนา หรือไม่ได้เป็นคนที่รู้จักประมาณตนเอง และหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ เขาคงจะไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างคงเส้นคงวาจนก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในชีวิตได้เหมือนในปัจจุบัน
 
ดังนั้นจึงเชื่อมั่นได้เลยว่า
 
ด้วยความ “ยิ่งใหญ่อย่างเรียบง่าย” ของ กากา นี้เอง ที่จะทำให้เขาจารึกชื่อตัวเองในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของโลกได้อย่างแน่นอน.