ราชันแชมป์!เรเยสฮีโร่เหมาสองพลิกเฮ

เรอัล มาดริด


เกือบเข้าโลงในนัดปิดฤดูกาลหลังปล่อยให้เรอัล มาญอร์ก้ามาลูบคมยิงขึ้นนำก่อนตั้งแต่ไก่โห่แถมมาเสีย รุด ฟาน นิสเตลรอยและเบ็คแฮมจนขวัญกระเจิงแต่สุดท้ายมาได้ชายเรโฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยสมากดเบิ้ลให้ ทีมแซงชนะ 3-1 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 30 อย่างสะใจจ๊อด

บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง


ฟุตบอลลา ลีกานัดที่ 38 (ปิดฤดูกาล)

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 2550

เรอัล มาดริด 1-3 มาญอร์ก้า

สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว

ประตู : 0-1 บาเรล่า น.16 ,1-1 เรเยส น.68 ,2-1 ดิยาร์ร่า น.81 ,3-1 เรเยส น.83

เรอัล มาดริด

ลงสนามด้วยความหวังในการคว้าแชมป์พรีเมรา ลีกา เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีหากเพียงแต่สยบเรอัล มาญอร์ก้า ให้ได้เท่านั้นในเกมนี้ โดยที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็ได้ เดวิด เบ็คแฮม แกนนำคนสำคัญที่ช่วยทำให้ทีมกลับมามีลุ้นแชมป์ผ่านความฟิตลงสนามเป็นเกมสุดท้ายก่อนย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก ได้สำเร็จ

แต่ทีม "ชาวเกาะ"


ก็ไม่ใช่หมูนุ่มให้เคี้ยวเล่นง่ายๆ และเพียงแค่ช่วงต้นเกมก็เกือบทำเอาแฟนๆในซานติอาโก เบอร์นาบิว ต้องหัวใจวาย เมื่อบาซินาส ได้ลูกหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะซัดด้วยซ้ายชนเสาแฉลบออกไป

มาดริด พยายามตั้งเกมกลับมา

ซึ่งก็ทำได้ค่อนข้างดีโดยมีโรบินโญ่ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมที่สำคัญ แต่ทีเด็ดจากเกมสวนกลับของมาญอร์ก้า นั้นอันตรายมาก และในนาทีที่ 17 ฆวน บาเรล่า ก็ทะลุกับดักล้ำหน้าของเจ้าถิ่นหลุดเข้าไปยิงผ่านมืออิเคร์ คาซีญาส เข้าไปอย่างเหนือชั้น นักเตะราชันเสียประตู 1-0 ไปก่อนทำเอาไม่อยู่สุขพยายามเปิดฉากบดเพื่อทวงประตูตีเสมอทันที และมีโอกาสทวงคืนอย่างรวดเร็วจากฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ แต่เบ็คแฮม ปั่นไปเข้ามือของโมย่า

หลังจากนั้น


ขุนพลชุดขาวก็พยายามเร่งเครื่องขึ้นแต่ก็ยังหาทางเจาะทีมเยือนไม่ได้ แถมยังต้องมาเสียกำลังหลักอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่เกิดบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องให้กอนซาโล่ อิกวาอิน ลงสนามมาแทน ทำเอาเกมรุกที่ยังหาทางเจาะไม่ได้ยิ่งมีปัญหาเข้าไปอีก สุดท้ายจบครึ่งแรกจึงยังตามหลังอยู่เหมือนเดิม

เข้าครึ่งหลัง

มาญอร์ก้า ยังคงตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่นและใช้เกมสวนกลับเล่นงานต่อไปซึ่งช่วงนับจากนี้สุดระทึกเพราะเจ้าถิ่นดันเกมรุกจนหลังรอยทำให้มาญอร์ก้าบุกมาแต่ละครั้งได้เสียวและเกือบจบสกอร์เม็ดสองอยู่หลายครั้ง ซึ่งก็เกือบได้ผลอีกครั้งโดยยังเป็นบาเรล่า คนเดิมที่ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนจิ้มบอลผ่านคาซีญาสไปแล้ว แต่ลูกถากเสาออกไปแค่ไม่กี่นิ้วเท่านั้น ทำเอาแฟนราชันชุดขาวถอนหายใจดังเฮือก

ถัดมา เบ็คแฮม


มีจังหวะได้ปั่นฟรีคิกในระยะเวลาใกล้เคียงกัน 2 ครั้ง โดยปั่นตกบนตาข่ายไปครั้งเป็นการจูนศูนย์ ก่อนที่จะปั่นจากริมเส้นไปชนสามเหลี่ยมเต็มๆ มาดริด พยายามต่อไป โดยฟาบิโอ คาเปลโล่ ส่งกูตี และโฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ลงมาแทนเบ็คแฮม และเรเยส ก็มีส่วนช่วยให้ทีมได้ประตูตีเสมอทันที เมื่อราอูล หาจังหวะพลิกบอลในเขตโทษก่อนเปิดตบเข้ากลางมาให้ปีกซ้ายพรสวรรค์เข้าชาร์จระยะ 6 หลาไม่มีพลาด ให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 ในนาทีที่ 68

ประตูนี้ปลุกชีวิต

ให้มาดริดยิ่งคึกมากขึ้นอีกเนื่องจากต้องการอีกประตูเดียวก็จะเป็นแชมป์ทันที และหลังจากจังหวะยิงหน้ากรอบเขตโทษแบบเน้นๆของโรบินโญ่ที่โดนโมย่า ซูเปอร์เซฟปัดได้ มาดริดก็มาได้ประตูแซงนำจากลูกเตะมุมดิยาร์ร่า ได้ทะยานโขกเต็มๆ โมย่าปัดได้ลูกก็ยิงไปกระดอนตัวเพื่อนเข้าประตูไป

และเรเยส

ก็กลายเป็นตัวทีเด็ดของจริง เมื่อทำประตูที่ 3 ได้จากการปั่นจังหวะเดียวเข้าไปแบบสุดงามจากจังหวะประสานงานสุดสวยของโรบินโญ่และอิกวาอิน ซึ่งประตูนี้ก็กลายเป็นประตูที่การันตีตำแหน่งแชมป์ให้เหล่าขุนพล ราชันชุดขาว ที่กลับมาเถลิงบัลลังก์เจ้าวงการฟุตบอลสเปนอีกครั้งได้อย่างยิ่งใหญ่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


เรอัล มาดริด : คาซิญาส,มิเชล ซัลกาโด้,เซร์คิโอ รามอส,คันนาวาโร่,โรแบร์โต้ คาร์ลอส,ดิยาร์ร่า,เอเมอร์สัน (กูตี 46),เบ็คแฮม (เรเยส 65),ราอูล,โรบินโญ่,ฟาน นิสเตลรอย (อีกวาอิน 31)

มาญอร์ก้า : โมย่า,เอ๊คตอร์,นูเนส (รามิส 35),บาเญสเตรอส,นาบาร์โร่,บาเรล่า,เปเรย์ร่า (เตรโฆ่ 88),บาซินาส,โจนาส,อรานโก้,บิคตอร์ (มักซี่ 66)


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์