รับนายใหม่!ปอมปีย์ตบเรือหงิก2-0

รับนายใหม่!ปอมปีย์ตบเรือหงิก2-0

เข้าสูตรบอลเปลี่ยนโค้ชเมื่อพอล ฮาร์ทคุมปอร์ทสมัธที่ไม่ชนะใครมา 9 นัดปลดล็อกโค่นทีมคนรวยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 จากสองประตูของจอห์นสันและไฮร์ดาร์สสันในช่วงเวลาห่างกันแค่ 5 นาทีเท่านั้น

ปอร์ทสมัธ 2-0 แมนฯซิตี้

ประตู :
1-0 จอห์นสัน น.70,ไฮร์ดาร์สสัน น.75

ปอร์ทสมัธยุคไร้โทนี่ อดัมส์ที่ถูกปลดโดยผลงานช่วงหลังย่ำแย่หนักไม่ชนะใครมา 9 นัดติดต่อกันจนพอล ฮาร์ทเข้ารับตำแหน่งชั่วคราวส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้สามวันดีสี่วันไข้แต่ช่วงหลังค่อนข้างดีชนะ 4 จาก 6 นัดแต่ปัญหาคือฟอร์มนอกบ้านที่เพิ่งชนะแค่หนึ่งจาก 11 นัดโดยครั้งสุดท้ายที่ชนะคือบุกถล่มซันเดอร์แลนด์ 3-0 ในวันที่ 31 สิงหาคมปีที่แล้ว

มาร์ค ฮิวจส์เลือกเอลาโน่ลงตัวจริงหลังโชว์ฟอร์มกับทีมชาติบราซิลได้ดีโดยหวังจะช่วยสร้างความมหัศจรรย์ร่วมกับโรบินโญ่ในเกมนี้ได้


ครึ่งแรก

ปอร์ทสมัธเล่นกันตั้งใจมากพยายามพาบอลบุกสู้แต่การจ่ายบอลยังไม่เฉียบขาดนักในขณะที่เรือใบพยายามดึงช้าหาช่องเจาะเนิบๆ

นาทีที่ 8 เพนแนนท์แงะบอลออกจากปีกขวาก่อนลากตัดเข้าไปถึงหน้าเขตโทษกระชากหนีตัวประกบแต่บอลแรงเลยไปปั๊มแย่งกันก่อนกระฉอกไปเข้าทางเคราช์ที่พลิกยิงวอลเลย์ในกรอบแต่บอลไปตรงตัวกิฟเว่นที่ยืนดีรับเข้าซองสบาย

อีก 3 นาทีเคราช์ดูดบอลตรงกลางสนามแล้วแตะให้ไฮร์ดาร์สสันแตะโด่งเป็นนูเจนท์หลุดล้ำหน้ากระชากจี้เข้าเขตโทษแต่ตอนกระชากแตะแรงแถมตัวเองก็วิ่งไม่ค่อยเร็วทำให้ตอนยิงมุมมันแคบเลยซัดเข้าข้างสุดเศร้า


เกมเป็นของเจ้าถิ่นเกือบๆจะข้างเดียวเพราะเรือใลยังขึ้นเกมหาจังหวะยิงไม่ได้เลยแต่ยังยื้ออยู่ได้เพราะปอมปีย์เองกดดันไม่ค่อยสุดเท่าไหร่

นาที 22 โอกาสแรกของทีมเยือนจากจังหวะวางยาวให้เบลลามี่วิ่งเข้าเขตโทษทางซ้ายแต่เจอตัวประกบตามแยกเขี้ยวมาด้านข้างเลยแปะออกปีกให้บริดจ์ที่คืนบอลกลับมาให้ถีบจักรก่อนท้ายที่สุดไหลตั้งให้เอลาโน่จับบอลตรงระยะ 22 หลาแล้วยิงไกลสบายๆเพราะไม่มีใครเข้าเลยแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป

อีก 6 นาทีต่อมาจอห์นสันเปิดบอลจากปีกขวาเป็นนูเจนท์โถมสูงกว่าตัวประกบแต่ตอนโขกโดนบางบอลแฉลบออกหลังอย่างน่าเสียดาย

ช่วง 10 นาทีสุดท้ายซิตี้เหมือนจะต่อบอลทำชิ่งกันได้ดีขึ้นแต่จังหวะสุดท้ายพลาดกันเองซึ่งต้องชมปอมปีย์ว่าเข้าถึงเนื้อถึงตัวเร็วและหนักมาก

แต่ท้ายเกมเจ้าบ้านกลับกดดันหนักโดยเฉพาะการเปิดบอลทางขวาของทั้งจอห์นสันและเพนแนนท์เล่นเอาแนวรับเรือใบช่วยกันเคลียร์หน้าตาตื่นแต่บอลยังไม่เข้าหัวเคราช์ซักที หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

นาที 53 ปอมปีย์น่าจะขึ้นนำสุดๆหลังครันชาร์แทงทะลุให้นูเจนท์หนีกับดักล้ำหน้าตั้งแต่เกือบๆกลางสนามระยะราว 40 หลาแต่ด้วยสปีดที่ไม่เร็วมากทำให้การกระชากจึงเร็วไม่พอทำให้จังหวะยิงตรงมุมขวาเกือบถึงกรอบ 6 หลาถูกตัวประกบวิ่งมาบีบจนต้องรีบยิงบอลแป๊กค่อยๆออกหลังไปสุดอนาถ

นาที 65 นูเจนท์วันนี้มีโอกาสมากแต่สิ้นเปลืองสุดๆเพราะลูกเตะมุมของเพนแนนท์เปิดมาแกโขกระยะแค่ 6 หลาเช็ดบางออกหลังไปอีก

แต่แล้วอีก 5 นาทีปอมปีย์มาได้ประตูจนได้เมื่อเกล็น จอห์นสันกระชากจี้ตรงกรอบโทษฝั่งขวาหาบริดจ์ก่อนทั้งคู่จะไหล่ชนไหล่กันตรงเส้นหลังแล้วแบ็คจอมบุกล็อกเข้าในหามุมยิงอัดเต็มๆติดเซฟกิฟเว่นบอลกระฉอกมาเข้าทางก่อนอัดยิงด้วยอีซ้ายบอลแหกทะลุเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปสุดมัน ปอมปีย์นำ 1-0

โดนแล้วมีไหลเพราะนาที 75 เรือใบมาโดนลูก 2 ง่ายๆจากลูกเตะมุมเป็นเคราช์วิ่งเข้าหาแถมดังเอาโอนูฮาตามมาด้วยทำให้ไฮร์ดาร์สสันวิ่งตามมาเขกตรงบริเวณจุดโทษชนิดที่กอมปานีสุดเซ็งเพราะได้แต่วิ่งตามหลังเอาไม่อยู่

เรือใบตาค้างไม่ได้ประตูตีไข่แตกในนาที 84 หลังลูกเปิดจากปีกขวาของโลแกนเป็นเชด อีแวนส์กอหน้าตัวสำรองโขกเผาขนแค่ 6-7 หลาแต่เจมส์พุ่งปัดบนเส้นสุดเหลือเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือขุนพลซิตี้หมดปัญญาเจาะปอร์ทสมัธที่ขึงเกมรับแน่นไม่ไหวลงท้ายแพ้ไป 2-0 ยังนอนอยู่อันดับ 9 ส่วนปอมปีย์ขยับจาก 16 มาที่ 15 เขี่ยสเปอร์สมาหนาวแทน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ปอร์ทสมัธ :
เดวิด เจมส์,เกล็น จอห์นสัน,โซล แคมป์เบลล์,ซิลแวง ดิสแต็ง,เฮอร์มาน ไฮร์ดาร์สสัน ,เจอร์เมน เพนแนนท์(เบลฮัดจ์ น.86),อัลเจลอส บาซินาส(มุลลินส์ น.67),ฌอน เดวิส,นิโก้ ครันชาร์,ปีเตอร์ เคราช์,เดวิด นูเจนท์

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น,ฌาเล็ม โลแกน,แวงซองต์ กอมปานี,เนดุม โอนูฮา,เวย์น บริดจ์,พาโบล ซาบาเลต้า(อีแวนส์ น.78),ไนเจล เด ยอง ,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ,เอลาโน่,เคร็ก เบลลามี่ ,โรบินโญ่(ไคเซโด้ น.66)



























 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์