มาร์โค รอยส์ควงคู่โทนี่ โครสซัดคนละ 2 ประตูพาอินทรีเหล็กเยอรมนีโชว์ฟอร์มสุดแกร่งบุกไปไล่ยำยักษ์เขียวไอร์แลนด์คาบ้าน 6-1 พร้อมคว้า 9 แต้มเต็มรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555 
ไอร์แลนด์ 1-6 เยอรมนี 
สนาม : เอวีว่า สเตเดี้ยม
ประตู : 0-1 มาร์โค รอยส์ น. 32, 0-2 มาร์โค รอยส์ น. 40, 0-3 เมซุต โอซิล น. 54 (จุดโทษ), 0-4 มิโรสลาฟ โคลเซ่ น. 58, 0-5 โทนี่ โครส น. 61, 0-6 โทนี่ โครส น. 84, 1-6 แอนดรูว์ โคอี้ห์ น. 91
ครึ่งแรก
อินทรีส่องก่อนครั้งแรก
เปิดเกมขึ้นมาทั้ง 2 ทีมยังทำอะไรกันไม่ถนัดโดยเยอรมนียังไม่เปิดเกมบุกเต็มตัวคอยดูเชิงเจ้าถิ่นก่อนที่พวกเขาจะมาได้ลุ้นครั้งแรกเมื่อมาร์โค รอยส์ได้จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามากลางประตูให้มุลเลอร์โขกบอลข้ามคานออกไปในนาทีที่ 15
เคดิร่าซัดไกลติดบล็อก
จนผ่านมาถึงนาทีที่ 26 ซามี่ เคดิร่าได้โอกาสส่องประตูครั้งแรกนอกกรอบเขตโทษแต่ยังไปโดนกองหลังเจ้าถิ่นพุ่งบล็อกบอลออกหลังไปได้เป็นลูกเตะมุมของทีมเยือน
อินทรีชวดจุดโทษ
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงเยอรมนีน่าได้จุดโทษเหลือเกินในจังหวะที่จอห์น โอเชียพยายามเล่นบอลในกรอบเขตโทษของตัวเองก่อนที่มาร์โค รอยส์จะเข้ามาแซะบอลไปได้ทำให้ปราการหลังจากซันเดอร์แลนด์ต้องพยายามเบียดเอาไว้ทำให้ดาวรุ่งเยอรมันล้มลงแต่กรรมการกลับวิ่งมาให้ใบเหลืองรอยส์เสียอย่างนั้นข้อหาพุ่งล้มหวังเอาจุดโทษ
ไอร์แลนด์ทำนบแตก
ถัดมาจากนั้นอีก 2 นาทีรอยส์มาแก้ตัวจนได้เมื่อวิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษเก็บตกลูกที่กองหลังเจ้าถิ่นสกัดไม่ดีเอาไว้ได้ก่อนอัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งชนคานด้านล่างเต็มแรงก่อนกระดอนเข้าประตูไปทำให้ทีมเยือนขึ้นนำจนได้
เยอรมนีโต้เร็วรอยส์บวกลูกสอง
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีเยอรมนีได้จังหวะโต้กลับเร็วเมซุต โอซิลได้บอลกลางสนามก่อนผ่านมาให้บัวเต็งที่เติมมาด้านริมเส้นด้านขวาผ่านบอลข้ามฟากเร็วมาให้รอยส์ที่ขยับขึ้นมาได้จังหวะเหมาะเหม็งซัลโวด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลพุ่งผ่านมือเวสต์วู้ดเข้าไปกองก้นตาข่ายเสาไกลเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัว
ครึ่งหลัง
ไอริชได้ลุ้นก่อน
เริ่มเกมขึ้นมาเพียงแค่ 3 นาทีไอร์แลนด์ได้ลุ้นประตูเสมอจากจังหวะที่ไซม่อน ค็อกซ์ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบทันทีแต่ยังไปติดนอยเออร์ที่ยืนปิดเสาแรกไว้หมดแล้ว
โอซิลส่องโทษ
เยอรมนีมาได้จุดโทษจนได้ในจังหวะที่มุลเลอร์ได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนผ่านบอลมาให้มิโลสลาฟ โคลเซ่พักบอลในกรอบเขตโทษแค่ดาร์เรน โอเดียสกัดบอลโฉ่งฉ่างไปเข้าด้านหลังดาวยิงลาซิโอล้มลงกรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันที
เมซุต โอซิลรับหน้าที่ยิงลูกนิ่งระยะ 12 หลาตามใบสั่งแม้รอยส์จะมีโอกาสทำแฮตทริกก็ตามก่อนที่สตาร์จากเรอัล มาดริดจะขยับหลอกจนเวสต์วู้ดลงทางแล้วแปด้วยซ้ายไปด้านขวาของตัวเองบอลเข้าก้นตาข่ายนิ่มๆ
โคลเซ่เอาบ้าง
มิโรสลาฟ โคลเซ่ยิงประตูที่ 65 ของตัวเองในนามทีมชาติได้สำเร็จจากจังหวะที่ชไวน์สไตเกอร์จ่ายบอลทะลุช่องอย่างงามจากกลางสนามไปให้เขาได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนซัดมุมแคบด้วยขวาบอลผ่านเวสต์วู้ดที่ออกมาปิดมุมค่อยๆกลิ้งเข้าประตูไปทางเสาไกลนาทีที่ 58
โครสบวกอีก
เยอรมนียังดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและเป็นจังหวะที่จอห์น โอเชียโหม่งสกัดบอลออกมาจากเขตอันตรายไม่ดีโทนี่ โครสวิ่งเข้ามาเก็บตกหน้ากรอบเขตโทษก่อนส่องด้วยซ้ายบอลพุ่งกระดอนพื้นเข้าประตูไปสุดปัญญาของเวสต์วู้ดที่จะป้องกัน
เยอรมนีผ่อนเกม
หลังจากได้ประตูที่ 5 โยอัคคิม เลิฟเริ่มส่งนักเตะสำรองลงมายืดเส้นยืดสายบ้างทำให้เกมของอินทรีเหล็กดูเนือยลงขณะที่ไอร์แลนด์ก็แทบจะหมดกำลังใจสู้ต่อแล้ว
เลิฟเก็บตัวรอดวลสวีเดน
เยอรมนียังผ่านบอลกันแบบไม่เร่งร้อนมากนักเพราะต้องการถนอมตัวเอาไว้เจอกับสวีเดนในเกมวันอังคารนี้แต่ก็ได้จังหวะลุ้นอยู่บ้างเมื่อบัวเต็งเติมขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปเข้าซองเวสต์วู้ด
โครสอย่างแม่น
โทนี่ โครสได้บอลกลางสนามไม่รู้จะทำอะไรตัดสินใจลากจี้เข้าหากองหลังบริเวณนอกกรอบเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาอย่างแรงระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดเข้าไปเสียบเสาแรกเป็นประตูครึ่งโหลของทีมเยือน
โคอี้ห์ตีไข่แตก
ก่อนจบเกมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไอร์แลนด์มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะเตะมุมเมื่อแอนดรูว์ โคอี้ห์ได้โหม่งโล่งๆบอลเข้าประตูไปก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 6-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ไอร์แลนด์ : เคียเรน เวสต์วู้ด, ซีมุส โคลแมน, สตีเฟ่น วอร์ด, จอห์น โอเชีย, ดาร์เรน โอเดีย 
, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, ไอเดน แม็คเกดี้ (แอนดรูว์ โคอี้ห์ 
น. 69), คีธ แอนดรูว์ส, คีธ ฟาเฮย์ (เชน ลอง น. 52), ไซม่อน ค็อกซ์, โจนาธาน วอลเตอร์ส
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ดาวิด ฟอร์เด้, ดาร์เรน แรนดอล์ฟ, พอล แม็คเชน, สตีเฟ่น เคลลี่, มาณ์ค วิลสัน, เคียแรน คล๊าร์ก, ดาวิด เมย์เลอร์, คอเนอร์ คลิฟฟอร์ด, ร็อบบี้ เบรดี้
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, มาร์เซล ชเมลเซอร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, เจโรม บัวเต็ง, ซามี่ เคดิร่า (โทนี่ โครส น. 46), บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, เมซุต โอซิล , โธมัส มุลเลอร์, มาร์โค รอยส์ (ลูคัส โพดอลสกี้ น. 66), มิโรสลาฟ โคลเซ่ (อันเดร ชูร์เล่ น. 72)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, มาร์ค-อันเดร เทอร์ สเตเก้น, เบเนดิค โฮว์เดส, ไฮโก้ เวสเตอร์มันน์ 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
