รมควันสิงโต!กระทิงสอนเชิงขวิด2-0

การลองแผนและตัวผู้เล่นของฟาบิโอ คาเปลโล่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติอังกฤษหลังเจอแชมป์ยูโร 2008สเปนอาศัยบอลเชิงเอาชนะไปเบาะๆ 2-0 จากประตูของบีญ่าและญอเรนเต้ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สเปน 2-0 อังกฤษ

ประตู :
1-0 บีญ่า น.36,2-0 ญอเรนเต้ น. 82

ฟาบิโอ คาเปลโล่จัดทัพเน้นฟอร์มผู้เล่นโดยฟิล จาเกียลก้าที่ช่วงนี้สุดยอดได้ลงเล่นเป็นตัวจริงคู่จอห์น เทอร์รี่และจะเจอกับเฟร์นานโด ตอร์เรสที่เคยหยุดชะงักมาแล้วในเกมเอฟเอ คัพส่วนแข้งจากแอสตัน วิลล่าโผล่สามหน่อทั้งแบร์รี่,เฮสกีย์และอักบอนลาฮอร์โดยเดวิด เบ็คแฮมมีชื่อเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น

ด้านสเปนของบิเซนเต้ เดล บอสเก้ใส่เกมรุกลุยแลกกะเอาให้ตายหลังคู่หน้าเป็นเฟร์นานโด ตอร์เรสและดาวิด บีญ่ารวมไปถึงแผงมี

ครึ่งแรก

ช่วงแรกสเปนพยายามใช้เชิงเทคนิคต่อบอลหาช่องแค่อังกฤษยังยืนคุมรัดกุมแล้วคอยดักจังหวะตัดบอลทำเกมสู้ด้วย

แต่แล้วนาที 7 เป็นทีมเยือนที่ได้โอกาสส่องก่อนหลังแอชลีย์ โคลแทงทะลุให้แบร์รี่หลุดขึ้นมาทางกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วตบบอลให้รุ่นน้องวิลล่าอย่างอักบอนลาฮอร์วิ่งมาวอลเลย์บอลโดนไม่เต็มมากแต่ก็กระดอนพื้นเข้ามุมจนคาซิญาสต้องพุ่งสุดปลายมือบอลหลุดเสาออกไปอย่างหวาดเสียว

เล่นไปเล่นมากระทิงชักดุไม่ออกเพราะเจอลูกชวนทะเลาะของอังกฤษบีบตั้งแต่แดนหน้าจนต้องเคลียร์บอลออกมาจนไม่สามารถตั้งเกมบนพื้นได้เลยเพราะบอลล้นเลยไปถึงแนวรับผู้ดีที่ดันเซ็ตบอลได้ดีกว่าเรื่อยๆแล้ว

แถมลูกเตะมุมของดาวนิ่งเป็นเทอร์รี่สอดเข้ามาโหม่งบอลหลุดเสาออกไปแบบวูบวาบและจังหวะต่อมาภาพตัดไปที่เดวิด เบ็คแฮมออกมาวอร์มข้างสนามเจอแฟนบอลยกมือยกมือด่ากันยกใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นพวกบาร์ซ่าหรือเปล่า

ผ่านมา 15 นาทีสเปนยังไม่ได้ส่องแม้แต่ครั้งเดียวไม่ว่าจะยิงแป๊กยิงไกลหรือยิงเต็มๆยังไม่มีใครได้ทำอะไรเลย เรียกว่าอังกฤษเล่นดีกว่าและเจ้าถิ่นเสียเปรียบตรงที่ไม่ใช่ทีมที่เล่นริมเส้นจ๋าและใช้การเจาะตรงกลางทำให้รูปเกมต้องพึ่งพาการต่อบอลอย่างมีประสิทธิภาพมากจนเกินไปแล้ว

จนมาถึงโอกาสแรกของสเปนในนาทีที่ 19 อิเนสต้ามิดฟิลด์หน้าขาวแทงทะลุให้บีญ่าสอดหมุนตัวยิงบอลติดบล็อกก่อนออกหลังเสียเตะมุมแต่ภาพช้าหอกพี่เป้าล้ำหน้านิดนึง

เจ้าถิ่นเริ่มคายพิษสงของแชมป์ยูโรแล้วจากจังหวะยิงไกลของเซนน่าที่เดวิด เจมส์ต้องออกแรงพุ่งรับก่อนที่แอชลีย์ โคลทำฟาว์ลบีญ่าที่หลอกด้วยท่าซีดานเทิร์นตรงระยะ 30 หลา

และแล้วหลังยื้อสู้กันอยู่นานสเปนก็มาขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่อลอนโซ่แทงบอลเลียดกลางสนามมาตรงๆให้บีญ่าตรงหน้ากรอบโทษก่อนล็อกหลอกจาเกียลก้าสองตลบจนแข้งท๊อฟฟี่ฟาบอลไม่เจอและสุดท้ายหลุดไปเลือกมุมยิงยัดเสียบเสาชนิดที่เจมส์ปรี่ออกมาตรงเส้น 6 หลาได้แต่ยืนขาตายไม่ได้พุ่งเซฟอะไรทั้งนั้น นาที 36 สเปนนำแล้ว 1-0

พอได้ประตูขึ้นนำตอนนี้สเปนกลายเป็นบอลเหนือกว่าทันทีเรียกว่าต่อบอลจนแข้งผู้ดีวิ่งเป็นลิงแถมเกมรุกบุกไม่ขึ้นจนแซร์คิโอ รามอสนึกสนึกขึ้นมาส่องยิงตรงกรอบโทษฝั่งขวาบอลพุ่งเป็นท่อสุดแรงเกิดแต่ไปตรงตัวเจมส์ที่ก่อนหน้านี้ซัก 10 นาทีแอบเหวอกระโดดรับบอลง่ายๆซองแตกจนเพื่อนต้องเคลียร์ทิ้งพัลวัน หมดครึ่งแรกสเปนนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

คาเปลโล่เปลี่ยนตัวถึง 5 คนโดยโรเบิร์ต กรีน,อัพสัน,เบ็คแฮม,แลมพาร์ดและปีเตอร์ เคราช์ลงมาแทนเจมส์,จาเกียลก้า,แบร์รี่,ดาวนิ่งและเฮสกีย์ส่วนทางสเปนส่งเอาโฆเซ๋ เรน่าและอาร์เบลัวมาแทนคาซิญาสและคัปเดบีล่า

รูปเกมของสิงโตคำรามยังไม่ดีขึ้นแถมเจอสเปนเน้นเจาะขึ้นทางขวาตรงแอชลีย์ โคล 2-3 ครั้งแล้ว

ส่วนอังกฤษขึ้นเกมกันลำบากมากเพราะสเปนคุมพื้นที่กันดีและเวลานี้แดนกลางเป็นรองสเปนอย่างชัดเจน

เกมแลกหมัดกันจะแจ้งเพราะสเปนปล่อยให้อังกฤษรุกขึ้นมาแล้วอาศัยดักสวนกลับทางริมเส้นและเป็นฝั่งของแอชลีย์ โคลอีกแล้วที่ทิ้งรอยโหว่เอาไว้

แต่ครึ่งหลังหาโอกาสยิงกันน้อยมากเพราะถ้าไม่ใช่จังหวะสวนสเปนก็เล่นติ๊ดชึ่งจ่ายไปมาจนกว่าจะหาช่องทะลุได้จริงๆถึงจ่าย

นาที 71 ไอ้สั้นฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์กระชากหนีรามอสตรงปีกซ้ายก่อนเข้าในหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาแต่บอลบอลก๋องเข้าซองเรน่าที่ล้มตัวรับนิ่ม

เผลอเซฟรูปคู่นี้หน่อยเดียวก็ได้ยินเสียงเฮเพราะสเปนมาได้ลูก 2 ในนาที 82 จากฟรีคิก 27 หลาเป็นชาบี้ปั่นเข้าเขตโทษเป็นโคลกระโดดโหม่งไม่ถึงทำให้ญอเรนเต้ที่ลงมาแทนตอร์เรสโถมโขกตรงระยะ 10 หลาบอลสวนมือเจมส์ที่พุ่งไม่ถึงเข้าไปสุดสวย

ก่อนหมดเวลา 2 นาทีอังกฤษน่าจะตีไข่แตกได้หลังเบ็คแฮมแทงบอลทะลุตัดหลังมาร์เชน่าให้คาร์ลตัน โคลใช้ความเร็ววิ่งไปแตะหนีเรน่าในเขตโทษก่อนหักข้อยิงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งตรงเข้ากรอบกำลังจะข้ามเส้นแต่มาร์เชน่าล้มตัวสไลด์สกัดออกหลังสุดยอด

จากนั้นเวลาที่เหลืออังกฤษโหมบุกหนักจะเอาประตูกู้หน้าโดยเบ็คแฮมวางบอลยาว 2-3 เข้าเขตโทษแต่ไร้ประโยชน์จบเกมสเปนเผาเครื่องนิ่มๆ 2-0

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สเปน :
อิเคร์ คาซิญาส(เรน่า น.46),แซร์คิโอ รามอส,เคราร์ด ปิเก้,อาบิออล(มาร์เชน่า น.75),คัปเดบีล่า(อาร์เบลัว น.46),ชาบี้ อลอนโซ่,มาร์กอส เซนน่า,อิเนสต้า,ชาบี้(กีซ่า น.84),เฟร์นานโด ตอร์เรส(ญอเรนเต้ น.64),ดาวิด บีญ่า(ซิลบา น.56)

อังกฤษ : เดวิด เจมส์(กรีน น.46),เกล็น จอห์นสัน,แอชลีย์ โคล,ฟิล จาเกียลก้า(อัพสัน ย.46),จอห์น เทอร์รี่,ไมเคิ่ล คาร์ริค,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,แกเรธ แบร์รี่(เบ็คแฮม น.46 ),เอมิล เฮสกีย์(เคราช์ น.46),สจ๊วต ดาวนิ่ง(แลมพาร์ด น.46),กาเบรียล อักบอนลาฮอร์(คาร์ลตัน โคล น.76)
















 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์