ยูฟ่า เผยศึก "ยูโร 2008" ทำกำไรสุทธิได้ถึง 13,250 ล้านบาท และยังมีผลการจัดการที่ยอดเยี่ยมแทบทั้งสิ้น ก่อนเผยปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นมีแค่เรื่องตั๋วถูกปล่อยเข้าตลาดมืด
สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เผยว่า
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" ที่ประเทศออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วม ระหว่างวันที่ 7-29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำกำไรให้กับองค์กรลูกหนังยักษ์ใหญ่ของยุโรปถึง 250 ล้านยูโร (ประมาณ 13,250 ล้านบาท) โดยจะนำเงินทั้งหมดไปใช้เป็นงบประมาณสำหรับจัดการแข่งขันลูกหนังระดับเยาวชน, ฟุตบอลหญิง, โปรแกรมอบรมผู้ตัดสิน และโค้ช รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารองค์กรต่อไป
มาร์ติน คัลเลน ประธานฝ่ายปฏิบัติการของหน่วยงานผู้จัดการแข่งขัน เผยเพิ่มเติมว่า
จากการเปรียบเทียบระหว่าง "ยูโร 2004" ที่ประเทศโปรตุเกส กับ "ยูโร 2008" ได้พบว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้นในแทบทุกด้าน ซึ่งประกอบไปด้วย จำนวนผู้ชมทางโทรทัศน์ที่น่าพึงพอใจ, การใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด และไม่มีปัญหาสถานการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดการแข่งขัน ยอมรับว่า
สภาพอากาศเลวร้ายในช่วงเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ และการนำตั๋วมาขายใหม่ในตลาดมืด นับเป็นปัญหาที่ไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในกรณีที่สอง เมื่อพิจารณาจากการที่ตั๋วจำนวนมากกว่า 1.7 ล้านใบถูกยกเลิกไปก่อนหน้าศึกฟาดแข้งจะเริ่มต้นขึ้น โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดมืด นอกจากนี้ ยังมีตั๋วอีกประมาณ 1,300 ใบที่ถูกยกเลิก หรือโดนยึดระหว่างที่การแข่งขันกำลังดำเนินไปด้วยเช่นกัน
"มันเป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องตลาดมืดยังคงเป็นปัญหาสำคัญ มีตั๋วจำนวนมากที่เข้าไปอยู่ในวงจรตลาดมืด แม้ว่าจะพยายามสะกัดกั้นทุกวิถีทางแล้วก็ตาม เราควรจะต้องพิจารณากันต่อไปว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับเรื่องนั้นในอนาคตข้างหน้า ถึงแม้ว่าเราจะทราบดีว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม" คัลเลน กล่าว
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" ที่ประเทศออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วม ระหว่างวันที่ 7-29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำกำไรให้กับองค์กรลูกหนังยักษ์ใหญ่ของยุโรปถึง 250 ล้านยูโร (ประมาณ 13,250 ล้านบาท) โดยจะนำเงินทั้งหมดไปใช้เป็นงบประมาณสำหรับจัดการแข่งขันลูกหนังระดับเยาวชน, ฟุตบอลหญิง, โปรแกรมอบรมผู้ตัดสิน และโค้ช รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารองค์กรต่อไป
มาร์ติน คัลเลน ประธานฝ่ายปฏิบัติการของหน่วยงานผู้จัดการแข่งขัน เผยเพิ่มเติมว่า
จากการเปรียบเทียบระหว่าง "ยูโร 2004" ที่ประเทศโปรตุเกส กับ "ยูโร 2008" ได้พบว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้นในแทบทุกด้าน ซึ่งประกอบไปด้วย จำนวนผู้ชมทางโทรทัศน์ที่น่าพึงพอใจ, การใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด และไม่มีปัญหาสถานการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดการแข่งขัน ยอมรับว่า
สภาพอากาศเลวร้ายในช่วงเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ และการนำตั๋วมาขายใหม่ในตลาดมืด นับเป็นปัญหาที่ไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในกรณีที่สอง เมื่อพิจารณาจากการที่ตั๋วจำนวนมากกว่า 1.7 ล้านใบถูกยกเลิกไปก่อนหน้าศึกฟาดแข้งจะเริ่มต้นขึ้น โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดมืด นอกจากนี้ ยังมีตั๋วอีกประมาณ 1,300 ใบที่ถูกยกเลิก หรือโดนยึดระหว่างที่การแข่งขันกำลังดำเนินไปด้วยเช่นกัน
"มันเป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องตลาดมืดยังคงเป็นปัญหาสำคัญ มีตั๋วจำนวนมากที่เข้าไปอยู่ในวงจรตลาดมืด แม้ว่าจะพยายามสะกัดกั้นทุกวิถีทางแล้วก็ตาม เราควรจะต้องพิจารณากันต่อไปว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับเรื่องนั้นในอนาคตข้างหน้า ถึงแม้ว่าเราจะทราบดีว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม" คัลเลน กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
