ยิงได้ยิงไป!โด้บวกอีกเม็ดราชันบุกซิว3-1

เมซุต โอซิล


ลา ลีกา

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2553



เรอัล ซาราโกซ่า 1 - 3 เรอัล มาดริด

ประตู :
0-1 เมซุต โอซิล น.15, 0-2 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.44, 0-3 อังเคล ดิมาเรีย น.47, 1-3 กาบี้(จุดโทษ) น.54

เรอัล มาดริดออกมาเยือนเจ้าถิ่น เรอัล ซาราโกซ่า ที่อยู่อันดับ 20 โดย โชเซ่ มูรินโญ่ ตัดสินใจส่ง คาริม เบนเซม่า ที่เพิ่งกดแฮททริคมาจากเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกลงเป็นตัวจริงในเกมนี้ด้วย

ครึ่งแรก

เจ้าถิ่นเสียวก่อน
 
เปิดฉากมาแค่ 4 นาทีบอลจากกาบี้ที่เปิดบอลมาจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษเบร์โตโล่แตะบอลให้ลาฟิต้าวิ่งเข้ามาแปแต่บอลผ่านหน้าประตูออกไปนิดเดียว ถัดมา 2 นาทีลาสลองยิงแถวสองแต่บอลข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น 

โอซิลเปิดซิงเม็ดแรก

หลังจากที่ให้เจ้าถิ่นครองเกมได้แค่ช่วง 10 นาทีแรก ราชันก็ลุยแหลก และก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 15 จากจังหวะดีดส้นสวยจากโรนัลโด้ไปให้มาร์เซโล่แทงบอลทะลุช่องให้โอซิลหลุดเข้าไปแปสวนตัวฟรังโก้เข้าไปให้ราชันที่วันนี้ไม่ได้สวมชุดขาวขึ้นนำอย่างรวดเร็ว

เบนซ์,ลาส ดาหน้าขอลูกสอง

ถัดมา 4 นาทีบอลยาวมาจากดิมาเรียให้เบนเซม่าควบมาเอาบอลแต่มียาโรซิคกับลานซาโร่มาประคองทำให้ยิงไม่ถนัดบอลไปติดฟรังโก้ชวดโอกาสทิ้งสกอร์ห่าง ถัดมาอีก 6 นาที ลาสได้โอกาสซัดที่กรอบเขตโทษอีกครั้งคราวนี้ได้เสียวกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ

ราชันต่อเกมเพลิน

มาดริดยังต่อเกมกันอย่างเนียนตาทำเอากองหลังซาราโกซ่าถึงกับงานชุก แต่เจ้าถิ่นก็มีโอกาสสวนกลับนาที 39 ลาฟิต้าได้โอกาสหมุนตัวซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษแต่กาซิยาสไม่เหม่อล้มตัวปัดออกไปได้

โด้กับฟรีคิกมันของคู่กัน

นาที 44 เรอัลมาดริดมาได้ฟรีคิกระยะอันตรายโรนัลโด้รับหน้าที่ซัดบอลพุ่งฮุกมุดเสียบคานทำเอาฟรังโก้ได้แต่ยืนมองผลงานของโรนัลโด้อย่างเดียว จบครึ่งแรกราชันนำเจ้าถิ่นอยู่ 2-0 และน่าจะเจอกับงานที่ไม่ยากแล้วในครึ่งหลัง

ครึ่งหลัง

ฟรังโก้ออกช้า ดิมาเรียสำเร็จโทษ

แค่สองนาทีในครึ่งหลังราชันชุดขาวก็ดูจะปิดเกมได้แล้วหลังจากที่ซาบี้ อลองโซ่วางบอลยาวข้ามแนวรับไปให้ดิมาเรียหลุดทะลุไปประกอบกับฟรังโก้ออกมาตัดบอลช้าทำให้ดิมาเรียตัดสินใจกระดกบอลข้ามหัวเข้าไปสบาย ๆ ราชันหนีห่าง 3-0 แล้ว 

โด้กะเบิ้ลฟรีคิก

นาที 51 โรนัลโด้ได้ทดสอบฟรีคิกอีกครั้งแต่บอลไปติดกำแพงโดยจังหวะนี้โรนัลโด้พยายามจะฟ้องว่าเป็นแฮนด์บอลจากกำแพงแต่ผู้ตัดสินคงยังสงสารเจ้าบ้านไม่อยากให้โดนหนักไปกว่านี้เลยไม่เป่าให้

จุดโทษ!คาร์วัลโญ่เข้าพรวด

นาที 53 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษจากจังหวะที่เบร์โตโล่ลุยเข้าไปแล้วคาร์วัลโญ่เสียท่าเข้าบอลผิดจังหวะทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันทีและกาบี้ก็รับหน้าที่สังหารไม่พลาดโดยกาซิยาสพุ่งไปคนละทางทำให้ซาราโกซ่าไล่มา 1-3

เบนซ์ยังไม่ท้อแต่มูเริ่มเซ็ง

นาที 64 มาดริดชวดได้ประตูที่ 4 โดยเบนเซม่าที่วันนี้ดูมุ่งมั่นมากได้บอลจากโรนัลโด้ในกรอบเขตโทษแต่บอลย้อนหลังทำให้เบนเซม่ายิงไม่ถนัดบอลเบาเข้ามือฟรังโก้สบาย ถัดมานาที 76 เบนเซม่าก็มาได้โอกาสอีกจากที่มาดริดหลุดโต้กลับขึ้นมาเป็นแผงจังหวะสุดท้ายแต่เบนเซม่าดันตัดสินใจจ่ายบอลเลยไปติดขาฟรังโก้ไปซะอีกเล่นเอามูรินโญ่ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

ดาวรุ่งราชันเกือบแจ้งเกิด

นาทีสุดท้ายโมราต้าดาวรุ่งวัย 18 ที่เพิ่งลงสนามไปเกือบแจ้งเกิดเมื่อได้บอลหลุดทะลุช่องเข้าแต่ฟรังโก้ออกมาเร็วเคลียร์บอลทิ้งออกไปได้หวุดหวิด จบเกมเรอัลมาดริดบุกมาเก็บสามแต้มจากซาราโกซ่าด้วยสกอร์ 3-1 พร้อมกับโรนัลโด้ฉีกหนีดาวซัลโวออกไปอีกหนึ่งลูก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เรอัล ซาราโกซ่า :
เลโอ ฟรังโก้ 6, คาร์ลอส ดิโอโก้ 5, เมาริซิโอ ลานซาโร่ 6 , ยีรี่ ยาโรซิค 5, เปราเดส 6(ปินเตร์ น.85), กาบี้ 6 , เอ็ดมิลสัน 5(ฟอนซิโอ น.53, 6), ลาฟิต้า 6, อันแดร์ 6, นิโกล่าส์ เบร์โตโล่ 6 , ฟลอร็องต์ ซินาม่า-ปงโกลล์ 5(เปเรซ น.53, 6)

เรอัล มาดริด : อิเคร์ กาซิยาส 6, มาร์เซโล่ 7.5 , อัลบาโร่ อาเบลัว 6 , เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 6.5, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 7 , ซาบี้ อลองโซ่ 7 , เมซุส โอซิล 7(ดิยาร์ร่า น.85), อังเคล ดิมาเรีย 7(โมราต้า น.89), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8**, คาริม เบนเซม่า 6(กราเนโร่ น.78)





 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์