ยักษ์เขียวพลิกนรกโค่นอัซซูรี่ จบที่ 3 คว้าตั๋วรอบ 16 ทีมเหลือเชื่อ

ยักษ์เขียวพลิกนรกโค่นอัซซูรี่ จบที่ 3 คว้าตั๋วรอบ 16 ทีมเหลือเชื่อ

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นัดส่งท้ายกลุ่มอี ที่สนามสต๊าด ปิแอร์-โมรัว เมืองลีลล์ "อัซซูรี่"อิตาลี พบกับ "ยักษ์เขียว"ไอร์แลนด์

สำหรับสถานการณ์ของทั้งคู่ อิตาลีเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปแล้ว หลังเก็บชัย 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม จากการชนะเบลเยียม 2-0 และชนะสวีเดน 1-0 ด้านไอร์แลนด์จมบ๊วย เก็บไป 1 แต้ม หลังเสมอสวีเดน 1-1 และแพ้เบลเยียม 0-3 เกมนี้ถ้าชนะจะเข้ารอบแน่นอน แต่ถ้าไม่ชนะก็ตกรอบทันที



เริ่มเกม มา 8 นาที เป็นไอร์แลนด์ที่มีลุ้นก่อน เจฟฟ์ เฮนดริก ลองยิงไกลเฉี่ยวเสานิดเดียว

นาที 21 ไอร์แลนด์สบโอกาสอีกครั้ง ร็อบบี้ เบรดี้ เปิดเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ ดาริล เมอร์ฟี่ กระโดดขึ้นโขกตรงกรอบ ซัลวาตอเร่ ซิริกู ยังโดดปัดทิ้งได้เยี่ยม


นาที 31 ยังเป็นไอร์แลนด์ที่มีลุ้นอีก ร็อบบี้ เบรดี้ เล่นเตะมุมสั้นฝั่งขวากับเพื่อน ก่อนจะรับมาเปิดไปเสาสอง เชน ดัฟฟี่ ได้โขกแต่โดนไม่ดีข้ามคานออกไป

นาที 43 ผู้เล่นไอร์แลนด์สกัดไม่ดีไปเข้าทาง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้ยิงระยะไกล บอลหลุดกรอบแบบมีลุ้น จบครึ่งแรกทั้งคู่ยังเสมอกัน 0-0


ครึ่งหลังนาที 53 อิตาลีมีลุ้นประตู มัตเตีย เด ชิโญ่ เปิดจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ ซิโมเน่ ซาซ่า วอลเลย์จังหวะเดียวข้ามคานหวุดหวิด

จากนั้นรูปเกมยังเนือยๆเอื่อยๆ แทบไม่มีจังหวะล้นประตูให้เห็น กระทั่งนาที 77 กลายเป็นอิตาลีที่น่าได้ประตูสุดๆ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ ลากตัดเข้ากลางแล้วยิงจากหน้าเขตโทษ บอลกระดอนพื้นไปชนเสาเต็มๆ


นาที 84 ไอร์แลนด์ทิ้งโอกาสทองไปแบบเหลือเชื่อ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ เลี้ยงบอลแล้วสะดุดล้มหน้าประตูตัวเอง เวสลีย์ ฮูลาแฮน สบโอกาสฉกหลุดเข้าเขตโทษไปบรรจงยิง แต่กลับไร้ความเฉียบคมเลยถูก ซัลวาตอเร่ ซิริกู ล้มตัวเซฟไว้ได้เหลือเชื่อ

นาที 85 แฟนบอลไอร์แลนด์เฮกันสนามแทบแตก เวสลีย์ ฮูลาแฮน เปิดบอลยาวเข้าเขตโทษให้ ร็อบบี้ เบรดี้ โฉบมาโขกเข้าไป "ยักษ์เขียว" ออกนำ 1-0 พร้อมกับกระชากตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาอยู่ในมือ รวมถึงเป็นประตูแรกที่อิตาลีเสียในทัวร์นาเมนต์หนนี้


จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มอีก จบเกมไอร์แลนด์ชนะไปแบบเหลือเชื่อ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 แต้มจาก 3 นัด พลิกคว้าอันดับ 3 ของกลุ่ม และยังดีพอจะเข้ารอบด้วยโควต้าหนึ่งในอันดับ 3 ที่ดีที่สุดด้วย โดยจะไปเจอเจ้าภาพฝรั่งเศสวันที่ 26 มิ.ย. นับเป็นการเข้ารอบน็อกเอาท์ยูโรหนแรกของประเทศ จากที่เคยผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายก่อนหน้านี้ 2 หน แต่จบแค่รอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด

ส่วนอิตาลีแม้จะแพ้เกมนี้ แต่ยังคงเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม 6 แต้ม จะไปเจอแชมป์เก่าสเปนวันที่ 27 มิ.ย.

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม

อิตาลี (3-5-2) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่(กัปตันทีม), อังเจโล่ อ็อกบอนน่า - เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่(มัตเตโอ ดาร์เมียน น. 60), สเตฟาโน่ สตูราโร่, ติอาโก ม็อตต้า, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มัตเตีย เด ชิโญ่(สเตฟาน เอล ชาราวี่ น. 82) - ซิโมเน่ ซาซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่(ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ น. 74)

ไอร์แลนด์ (4-4-1-1) : ดาร์เรน แรนดอล์ฟ - เซมัส โคลแมน(กัปตันทีม), เชน ดัฟฟี่, ริชาร์ด คีโอห์, สตีเฟ่น วอร์ด - เจฟฟ์ เฮนดริก, เจมส์ แม็กคลีน, เจมส์ แม็กคาร์ธี่(เวสลีย์ ฮูลาแฮน น. 77), ร็อบบี้ เบรดี้ - ดาริล เมอร์ฟี่(เอเดน แม็กเกียดี้ น. 70) - เชน ลอง(สตีเฟ่น ควินน์ น. 90)

 

ขอบคุณ>>khaosod.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์