มาร์วิน แฮกเลอร์

ราชันย์โล้นผู้ไร้เทียมทาน

มาร์วิน แฮกเลอร์ ยอดแช้มป์โลกรุ่นมิดเดิ้ลเวทผู้ยิ่งใหญ่ และมีเอกลักษณ์ประจำตัวที่โดดเด่น นั่นคือ การโกนศรีษะโล้นเลี่ยนเป็นมันวับอยู่ตลอดเวลา ตัดกับหนวดเคราที่รกครึ้มดูน่าเกรงขาม ทั้งที่ในยุคแฮกเลอร์กำลังโด่งดังนั้น นักกีฬาผิวสีส่วนใหญ่ยังนิยมไว้ทรงผมแอฟโร่หยิกฟูเต็มหัว เพิ่งจะเปลี่ยนแปลงมาเป็น แฟชั่นโล้น ฮิตระบาดไปทั่วทุกวงการเอาเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง
ถิ่นฐานบ้านเกิดของแฮกเลอร์อยู่เมืองนีวอร์ค นิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่บร็อคตั้น แมสซาชูเส็ตต์ ส่วนวันเกิดตามหลักฐานคือ 23 พ.ค.ปี 1954 แต่มีข้อมูลบางแห่งแจ้งว่าเกิดปี 1952 แฮกเลอร์เริ่มชกมวยสมัครเล่นเมื่ออายุ 15 ปี และคว้าแช้มป์สหรัฐ(AAU.) เมื่อปี 1973 ก่อนจะเบนเข็มเข้าสู่วงการมวยอาชีพในปีเดียวกัน โดยอยู่ภายใต้การสร้างสรรค์ของ 2 พี่น้องกู้ดดี้และแพ็ท เปโตรเนลลี่
เส้นทางการไต่สู่ความสำเร็จของแฮกเลอร์ไม่ได้ราบรื่นเหมือนมวยสร้างสมัยนี้ เพราะทั้งกู๊ดดี้และแพ็ทเป็นแค่นักธุรกิจปลายแถว ปราศจากพาวเว่อร์ในวงการแฮกเลอร์จึงต้องตระเวณชกหาเงินรางวัลเลี้ยงชีพและเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่เกือบ 7 ปี ผ่านการต่อสู้มาถึง 49 ไฟ้ท์(ชนะ 46 แพ้ 2 เสมอ 1) จึงมีโอกาสได้ขึ้นชิงมงกุฎโลกรุ่นมิดเดิลเวทครั้งแรกในชีวิตจาก วิโต้ อันตูเฟอร์โม่ เจ้าของตำแหน่งชาวอิตาเลี่ยนเมื่อ 30 พ.ค.ปี 1979 ที่ลาสเวกัส ผลการชกออกมาเสมอ ทำให้แฮกเลอร์ผิดหวังไม่ใช่น้อย ต้องกลับมาทำฟอร์มใหม่ด้วยการชนะรวดอีก 3 ไฟ้ท์ ก็ประจวบเหมาะกับอันตูเฟอร์โม่ ไปเสียตำแหน่งให้กับ อลัน มินเตอร์ นักมวยชาวอังกฤษส่วนแฮกเลอร์ซึ่งอยู่ในฐานะรองเบอร์ 1 ได้สิทธิ์ชิงไฟ้ท์บังคับ ทำให้แช้มป์คนใหม่แห่งเมืองผู้ดีต้องจ้างแฮกเลอร์ เดินทางไปท้าชิงถึงกรุงลอนดอนถิ่นของตนเอง เมื่อ 27 ก.ย.ปี 1980 และคราวนี้ไม่มีอะไรหยุดยั้งความสำเร็จของจอมโล้นได้อีกแล้วเขายิงกำปั้นถล่มมินเตอร์จนหน้าตาพังยับ พ่าย TKO ไปแค่ยกที่ 3 คว้าเข็มขัดแช้มป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท 160 ปอนด์ มาเป็นกรรมสิทธิ์สมความตั้งใจ
...แฮกเลอร์เป็นมวยมิดเดิลเวทธรรมชาติ สูง 5 ฟุต 9นิ้วครึ่ง เรือนร่างกำยำแน่นปึ้กไปด้วยกล้ามเนื้อ ปกติเขาถนัดขวาเหมือนคนส่วนใหญ่ทั่วไป แต่พอหัดมวยกลับถูกฝึกให้เป็นมวยเซ้าท์ปอว์(มวยซ้าย)ที่เก่งฉกาจเหลือหลาย เพราะแฮกเลอร์ใช้หมัดแย็บขวาได้แม่นและคมแต่ดุดันอย่าบอกใคร เมื่อถึงคราวบุกสามารถตัดสินใจหรือแก้เกมส์การชกได้ด้วยตัวเอง เรี่ยวแรงการยืนระยะคงเส้นคงวา และที่สำคัญมีปลายคางที่แข็งแกร่งราวคอนกรีต ตลอดการชกอาชีพของแฮกเลอร์ เขาเคยถูกต่อยล้มแค่หนเดียว ในยกแรกของการป้องกันตำแหน่งกับ ฮวน โดมิงโก้ โรลดัน เมื่อปี 1984 แต่ก็ลุกขึ้นมาโดยกรรมการไม่ทันได้นับ ก่อนจะตะบันโรลดันหงายท้องไปในยกที่ 10
...7 ปีเต็มที่ครอบครองมงกุฎโลกรุ่นมิดเดิลเวท(ตอนแรกที่ได้ตำแหน่งเมื่อปี 79 วงการมวยโลกมีแค่ 2 สถาบันคือ WBA กับ WBC ซึ่งต่างยอมรับให้แฮกเลอร์เป็นแช้มป์ทั้งคู่ ต่อมาในปี 83 เกิดสถาบันใหม่ IBF ก็พลอยยกย่องให้แฮกเลอร์เป็นแช้มป์ไปด้วย)จอมโล้นผู้มีฉายาที่เรียกขานเป็นภาษาฝรั่งว่าMARVELOUSหรือจอมอภินิหารรายนี้ สามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ถึง 12 ครั้ง ส่วนผู้ท้าชิงดังๆ ที่ตกเป็นเหยื่อกำปั้นของแฮกเลอร์ได้แก่ โธมัส เฮิร์น(โดนน๊อคยก 3),โรเบอร์โต้ ดูรัน(แพ้คะแนน),มุสตาฟา ฮัมโช(โดนน๊อค 2 ไฟ้ท์ ยก 11/ยก 3),ฟลูเกนชิโอ โอเบลเมเฮียส(โดนน๊อค 2 ไฟ้ท์ ยก 8/ยก 5)คู่ปรับเก่าที่เคยเสมอกันมา วิโต้ อันตูเฟอร์โม่(โดนน๊อคยก 5)รวมทั้งไอ้สัตว์ป่าจอห์น มูกาบี้ ก็โดนแฮกเลอร์น๊อคตาตั้งในยกที่ 11
...ไฟ้ท์สุดท้ายในการชกอาชีพของแฮกเลอร์ คือการขึ้นป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 13 กับ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ยอดมวยซุปเปอร์สตาร์คนดัง ที่เพิ่งคัมแบ็คกลับมาเมื่อ 6 เม.ย.ปี 1987 ผลการชกจบลงด้วยความพ่ายแพ้แบบไม่เป็นเอกฉันท์ของแฮกเลอร์ จากนั้นเจ้าตัวก็พยายามติดต่อขอแก้มือ แต่เลียวนาร์ดเลี่ยงฮุ้น ไม่ยอมชกด้วยท่าเดียว ผลที่สุดจอมโล้นเบื่อเหลือทน เลยประกาศแขวนนวมอย่างเด็ดขาด หันไปลงทุนสร้างหนังแล้วนำแสดงเอง ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่หมอก็ใจแข็งไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ด้วยการกลับมาชกอีกเลย...
...ปัจจุบัน มาเวลลัส มาร์วิน แฮกเลอร์ ยังคงแข็งแรงดีและโผล่หน้าตามงานสังคมวงการมวยอยู่บ้างเป็นครั้งคราว ฐานะไม่อู้ฟู่เท่าไหร่ เพราะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูภรรยาที่แยกทางกันไป หลายกระตังค์ไม่ใช่เล่น กระนั้นเขาก็ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนหมัดมวยอยู่เสมอ ในฐานะอดีตยอดมวยรุ่นมิดเดิลเวท ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกตลอดกาลคนหนึ่ง




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์