มารู้จัก โอลิเวอร์ คาห์น และ มาริโอ โกเมซ

แม้ว่าจะแขวนถุงมือไปแล้ว แต่ชื่อของ โอลิเวอร์ คาห์น แห่งบาเยิร์น มิวนิค ก็คงจะถูกจดจำในฐานะหนึ่งในสุดยอดผู้รักษาประตูแถวหน้าของโลกในช่วงหนึ่ง ทศวรรษที่ผ่านมาอย่างไม่ต้องสงสัย


คา ห์น เริ่มต้นการค้าแข้งอาชีพกับคาร์ลสรูห์ ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิดเมื่อปี 1987 ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีม เสือใต้ เมื่อปี 1994 และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของวงการฟุตบอลเยอรมัน เมื่อคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ถึง 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย, ยูฟ่า คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และอินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ อย่างละสมัย นอกจากนั้น ยังคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยุโรป 4 ปีติดต่อกันด้วย

หลังจากที่ใช้เวลาในการเป็นตัวสำรองอยู่ 3 ปีที่คาร์ลสรูห์ คาห์น ก็ได้รับโอกาสให้ลงเป็น 11 คนแรกเมื่อปี 1990 ภายใต้การคุมทีมของ วิลเฟรด เชเฟอร์ และเขาก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวังเมื่อเป็นกำลังสำคัญให้ทีมมาตลอดซึ่งรวม ถึงการพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1993-94

ผลงานการป้องกันประตูที่เหนียวหนึบของเขา ทำให้บาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจทุ่มเงิน 2.5 ล้านยูโร (ราว 125 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดของผู้รักษาประตูในเวลานั้น เพื่อดึงตัวมาเฝ้าเสาให้ในฤดูกาล 1994-95 และเป็นนายด่านเบอร์ 1 ของทีม เสือใต้ มาอย่างโดยตลอด

ในปี 1999 คิง คาห์น ก็ต้องพบกับความชอกช้ำอย่างหนักเมื่อบาเยิร์น พลาดท่าพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามคัมป์ นู เมื่อเขาเสีย 2 ประตูในนาทีสุดท้ายและช่วงทดเวลา ทำให้ ปีศาจแดง แซงชนะไปอย่างเจ็บแสบ 2-1 จนกลายเป็นที่ขนานนามกันว่า โศกนาฎกรรมแห่งคัมป์ นู

อย่างไรก็ตาม ในอีก 2 ปีต่อมา คาห์น ก็แก้ตัวได้สำเร็จเมื่อถูกเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อพาบาเยิร์น คว้าเหรียญชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ด้วยการเฉือนชนะ บาเลนเซีย ในการดวลจุดโทษ และเป็นการพา เสือใต้ เป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 4 ด้วย

คาห์น สร้างชื่อให้ตัวเองอีกครั้งในปี 2007 เมื่อกลายเป็นผู้รักษาประตูที่ทำสถิติคลีนชีตมากที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเด สลีก้าเมื่อทำได้ 190 นัด และเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2007 เขาก็ลงเฝ้าเสาในลีกเป็นเกมที่ 535 ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดานายทวารทั้งหมด

หลังจากที่ลงเล่นอาชีพมานานกว่า 2 ทศวรรษ คาห์น ก็ประกาศว่าเขาจะไม่ต่อสัญญากับบาเยิร์นอีกเมื่อจบฤดูกาลนี้ และเขาก็ได้ทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถปิดฉากด้วยการคว้าดับเบิลแชมป์ เมื่อพลาดท่าพ่ายเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย แบบเละเทะ 0-4 ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่า คัพ

ทว่า อย่างน้อย คิง คาห์น ก็ยังช่วยให้ เสือใต้ กลับมาคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้อีกครั้ง ด้วยการถล่ม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-1 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และนั่นก็ทำให้นายทวารจอมเก๋าลงเฝ้าเสาให้บาเยิร์นไปทั้งหมด 428 นัด จนถูกยกให้เป็นตำนานผู้รักษาประตูของยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นบาวาเรียเช่นเดียว กับ เซปป์ ไมเออร์

ด้าน ผลงานในทีมชาติ คาห์น ได้ลงเฝ้าเสาให้ทีมอินทรีเหล็กเป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 1995 และก็เป็นหนึ่งในทีมเยอรมันชุดคว้าแชมป์ยูโร 2006 แต่เขาก็ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนม้านั่งสำรอง จนกระทั่ง อันเดรียส ค็อปเค่ ประกาศอำลาแขวนถุงมือหลังจบศึกฟุตบอลโลก 1998

กระนั้นก็ตาม คาห์น ที่ได้สวมเสื้อหมายเลข 1 ให้กับทีมอินทรีเหล็ก กับต้องพบกับความผิดหวังอย่างหนักศึกยูโร 2000 เมื่อเยอรมัน แชมป์เก่า ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับโรมาเนีย, อังกฤษ และโปรตุเกส ต้องกระเด็นตกรอบแรกแบบพลิกความคาดหมาย โดยหลังจากนั้น คาห์น ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติต่อจาก โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์

ในศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพร่วม คาห์น ได้รับเลือกให้เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ เลฟ ยาชิน อวอร์ด หลังจากเสียไปแค่ 3 ประตู ก่อนพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายให้กับ บราซิล ไปอย่างหวุดหวิด และฟอร์มอันสุดยอดเยี่ยมของเขาก็ทำให้กลายเป็นนายทวารคนแรกที่ได้รับรางวัล โกลเดน บอล อวอร์ด ในศึกฟุตบอลโลก

อีก 2 ปีต่อมา เยอรมัน ก็ต้องจอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่มอีกครั้งในศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คาห์น ก็เสียตำแหน่งนายทวารเบอร์ 1 ของทีมชาติ เมื่อ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ กุนซือทีมอินทรีเหล็ก ให้โอกาส เยนส์ เลห์มันน์ ของอาร์เซน่อล ได้ลงสนามมากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจประกาศให้ เลห์มันน์ เป็นตัวจริงในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน เป็นเจ้าภาพ ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับ คาห์น

อย่างไรก็ตาม คาห์น ก็ยังยอมลงเล่นเป็นตัวสำรองให้กับทีม และเมื่อ เยอรมัน แพ้ในรอบรองชนะเลิศ คลิ้นส์มันน์ ก็ให้โอกาสเขาลงเฝ้าเสาในเกมชิงอันดับที่ 3 พร้อมกับให้เป็นกัปตันทีมแทนที่ มิชาเอล บัลลัค ที่ไม่ได้ลงเล่น และนายด่านบาเยิร์น ก็ไม่ทำให้โค้ชต้องผิดหวังเมื่อโชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ได้หลายครั้งและช่วยให้ทีมเอาชนะโปรตุเกส 3-1 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2006 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายในการเล่นทีมชาติของเขาด้วย

สำหรับชีวิตส่วนตัวนั้น คาห์น ได้แยกทางกับ ซิโมเน่ ภรรยาคนแรก ที่มีลูกด้วยกัน 2 คนเมื่อปี 2003 โดยการหย่ามีขึ้นหลังจากที่สื่อในเมืองเบียร์ตีพิมพ์ภาพสวีตหวานระหว่าง คาห์น กับ เวเรน่า เคิร์ธ อดีตบาร์เกิร์ล ในระหว่างที่เขาทิ้งภรรยาที่กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ได้ 8 เดือน ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของคนในสังคม แต่ คาห์น ก็ยังคบหากับ เคิร์ธ มาจนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : โอลิเวอร์ โรล์ฟ คาห์น
วันเกิด : 15 มิถุนายน 1969
เกิดที่ : คาร์ลสรูห์, เยอรมัน
ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู
ส่วนสูง : 188 ซม.
ฉายา : คิง คาห์น หรือ เดอะ ไททัน
สโมสรปัจจุบัน : บาเยิร์น มิวนิค (แขวนสตั๊ด)
หมายเลขเสื้อ : 1

สโมสรอาชีพ

ปี


สโมสร


ลงเล่น


ประตู
1987 - 1994 คาร์ลสรูห์ 128 0
1994 - 2008 บาเยิร์น มิวนิค 429 0
(นับถึงวันที่ 15 พ.ค. 2551)
ทีมชาติ
1994 - 2006 เยอรมัน 86 0
(นับถึงวันที่ 15 พ.ค. 2551)

เกียรติประวัติ
กับบาเยิร์น มิวนิค
แชมป์บุนเดสลีก้า : 1997, 1999, 2000, 2001, 2003, 2005, 2006, 2008 (กับบาเยิร์น มิวนิค)
แชมป์เดเอฟเบ โพคาล : 1998, 2000, 2003, 2005, 2006, 2008
แชมป์ลีกา โพคาล : 1997, 1998, 1999, 2000, 2004, 2007
แชมป์ยูฟ่า คัพ : 1996
แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2001
แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ : 2001

กับทีมชาติเยอรมัน
แชมป์ยูโร : 1996
รองแชมป์ฟุตบอลโลก : 2002
อันดับ 3 ฟุตบอลโลก : 2006
เหรียญทองแดงฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ : 2005

ความสำเร็จส่วนตัว
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2001
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของ IFFHS :1999, 2001, 2002
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยุโรป : 1999, 2000, 2001, 2002
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของสโมสรยุโรป : 1999, 2000, 2001, 2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของเยอรมัน : 2000, 2001
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมอันดับ 2 ของฟีฟ่า : 2002
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของบุนเดสลีก้า : 1994, 1997, 1998, 1999, 2000, 2001, 2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของศึกฟุตบอลโลก : 2002
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของศึกฟุตบอลโลก : 2002
ทีมยอดเยี่ยมของฟีฟ่า (ออล-สตาร์) : 2002
ยูฟ่า แฟร์ เพลย์ : 2001
สปอร์ต-บิลด์ อวอร์ด : 2006
<><>

ทีมชาติเยอรมันมักจะมีกองหน้าดีๆ ไม่ขาดสาย
หมดเจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ ยังมีโอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์
หมดเบียร์โฮฟฟ์ ก็ยังมี มิโรสลาฟ โคลเซ่
และต่อจากโคลเซ่ อาจจะเป็นทีของ มาริโอ โกเมซ
โกเมซ มีพ่อเป็นชาวสเปน เกิดในรีดลิงเก้น ใกล้กับสตุ๊ต การ์ต และความฝันของเขาก็คือ ได้มีโอกาสกลับไปเล่นในสเปนให้กับบาร์เซโลน่า สโมสรที่เขาโปรดปรานมาตั้งแต่วัยเด็ก
ส่วนทีมชาติที่เขาโปรด ปรานมากที่สุดก็คือทีมอินทรีเหล็กเยอรมัน
ตอนที่อายุ 16ปีเขาได้มีโอกาสเป็น บอลบอย คือเป็นเด็กเก็บบอลข้างสนามในเกมที่เยอรมัน พ่าย อาร์เจนตินา 0-1 ในสตุ๊ตการ์ต
นักเตะชุดนั้นคือ เยนส์ เลห์มันน์, ทอร์สเท่น ฟริงส์, มิชาเอล บัลลัก และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นตัวหลัก
โกเมซ เป็นเด็กฝีกของทีม อูล์ม ก่อนจะถูกม้าขาวสตุ๊ดการ์ตดึงเข้าทีมในฤดูการ 2001 โกเมซได้ลงเล่นในทีม สตุ๊ดการ์ดสมัครเล่น ในฤดูการ 2003-2005โดยที่เค้ายิงไป 21ประตู จากการลงสนาม43นัด
ในฤดูการ 2006เค้าลงสนามให้กับทีมม้าขาวไป38นัดและสามารถทําได้เพียงแค่8ประตู ก่อนจะมีส่วนสําคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ในฤดูการ2007โดยที่เค้าลงสนามไป 30นัดและสามารถยิงได้16ประตู
ฤดูกาลที่แล้วดาวยิงวัย 23 ยิงไปทั้งหมด 18 ประตู ในบุนเดสลีกากับการลงเล่นเพียง 24 นัด เป็นรองแค่ ลูก้า โทนี่ ของบาเยิร์น มิวนิก เพียงคนเดียวเท่านั้น
แล้วฤดูการนี้มาโกเมซ ยิงให้ทีมทุกถ้วยไป 25ประตูแล้วโดยที่เขาลงสนามเพียง 34นัดเท่านั้น
โกเมซ ลงสนามให้ทีมม้าขาวไปแล้ว 111 นัด ยิงไปแล้ว 77ประตู
แถมโกเมซ ยังได้รับเลือกเป็นนักเตะแห่งปีของเยอรมันในปี 2007 โดยเฉพาะ โกเมซ ยังทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัล และเป็นผลผลิตจากถิ่นกอตต์ลีบ เดมเลอร์ คนที่ 2 ต่อจาก ฉลามขาว เจอร์เก้น คลินส์มันน์
ที่สำคัญยังมีอายุแค่ 23 ยังมีอนาคตอีกยาวไกลนัก
ประวัติ มาริโอ โกเมซ
ชื่อเต็ม มาริโอ โกเมซ กาเซีย
วัน/เดือน/ปีเกิด 1985-7-10
เมืองที่เกิด รีดลิงเก้น
ส่วนสูง 189 m
นํ้าหนัก 84 กิโลกรัม
ตําแหน่ง กองหน้า
รับใช้ทีม สตุ๊ดการ์ต
หมายเลข 33
เข้าร่วมทีม 2001
ต้นสังกัดแรก อูล์ม
<><>

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์