มาริโอ บาโลเตลลี่ (Mario Balotelli)


มาริโอ บาโลเตลลี่ (Mario Balotelli)




 มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าดาวรุ่ง อินเตอร์ มิลาน กองหน้าดาวรุ่งที่มีฝีเท้าขั้นสุดยอดคนหนึ่งของยุคแต่ด้วยลักษณะนิสัยส่วน ตัว บ่อยครั้งที่มักสร้างปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นทั้งในและนอกสนาม 


มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าดาวรุ่ง อินเตอร์ มิลาน



      ข้อมูลส่วนตัว
      ชื่อ : มาริโอ บาโลเตลลี่
      วันเกิด : 12 สิงหาคม 1990(อายุ 19 ปี)
      เกิดที่ : ปาแลร์โม่, อิตาลี
      ตำแหน่ง: กองหน้า
      ส่วนสูง : 190 อินเตอร์ มิลาน
      หมายเลขเสื้อ : 45

      สโมสรอาชีพ
      2005 - 2007 : ลูเมซซาเน่ ลงเล่น 2 นัด
      2007 - ปัจจุบัน : อินเตอร์ มิลาน ลงเล่น 57 นัดทำได้ 19 ประตู

      ทีมชาติ
      2008 - ปัจจุบัน : อิตาลี ชุดยู-21 ลงเล่น 16 นัดทำได้ 6 ประตู


     บาโลเตลลี่ ถือเป็นกองหน้าดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนนึงของวงการฟุตบอลอิตาลี ด้วยพรสวรรค์ที่มีอย่างล้นหลามบวกกับ ความเร็วรวมถึงเทคนิคที่จัดจ้าน สามารถเล่นได้แทบทุกตำแหน่งในแดนหน้า แถมมีลูกตั้งเตะเป็นจุดแข็งอีกอย่าง ทำให้เขาเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องมากคนนึง

      บาโลเตลลี่ มีเชื้อสาย กาน่า ย้อนหลังไปเมื่อ 19 ปีก่อน 18 ปีก่อน โธมัส และ โรส บาร์วูอาห์ พ่อและแม่ ของ บาโลเตลลี่ อพยพมายัง อิตาลี ทว่าต้องพ่ายแพ้ต่อความยากจนแสนสาหัส ทั้งคู่เลยตัดสินใจทอดทิ้งลูกชายไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่แรกคลอด เดชะบุญ เด็กชายคนดังกล่าวได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากครอบครัว บาโลเตลลี่ ชาวอิตาเลียนแท้ๆ จนเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นยอดนักเตะดาวรุ่งของ อินเตอร์ มิลาน นามว่า มาริโอ บาโลเตลลี่ ในปัจจุบัน

      ศูนย์หน้าดาวรุ่งวัย 19 กล่าวถึงพ่อแม่บังเกิดเกล้าว่า เป็นแค่คนแปลกหน้า ที่พยายามเข้ามาสร้างสัมพันธ์ด้วย เพราะเห็นตนเป็นนักฟุตบอลชื่อดังที่มีเงินมีทอง หลังทอดทิ้งไปก่อนหน้านี้ซึ่งเจ้าตัวเคยออกมาให้สัมภาษณ์ โธมัส และ โรส บาร์วูอาห์ แก้ตัวว่าพวกเขายากจนมากเลยจำเป็นต้องทิ้งลูกน้อยไปให้คนอื่นเลี้ยง แต่นั่นไม่ใช่ความจริง ไม่มีใครไปบังคับให้พวกเขาทิ้งผมไว้ในโรงพยาบาลและไม่ติดต่อกลับมาอีกเลยจน กระทั่งวันนี้ที่ผมได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ

      โชคดีที่ครอบครัว บาโลเตลลี เลี้ยงดูผมเป็นอย่างดีมาตลอด พวกเขาต้องลำบากพาผมไปขึ้นศาลเพื่อขอคำสั่งอนุญาตให้เลี้ยงดูทุกๆ 2 ปี แล้วพวกบาร์วูอาห์หละ! ตลอดเวลาที่ผ่านมาปีหายไปไหน ไม่เคยคิดจะเอาผมกลับไปเลี้ยง วันเกิดก็ไม่เคยโทรมาหาทำเป็นเอารูปถ่ายของผมโชว์ให้นักข่าวดูแล้วทำหน้า เสียใจรอให้ช่างกล้องชักภาพขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ผมนามสกุลบาโลเตลลี ส่วนสองสามีภรรยาคู่นั้น ในสายตาของผมก็เป็นแค่คนแปลกหน้า ส่วนหนึ่งของคำสมัภาษณ์ที่ บาโลเตลลี่ กล่าวผ่านสื่อเมื่อปี 2008

      ซูเปอร์มาริโอ ได้เริ่มต้นชีวิตบนเส้นทางลูกหนังในแดนมักกะโรนีกับทีม ลูเมซซาเน่ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในลีก C1 บาโลเตลลี่ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่อายุแค่ 15 หนึ่งปีปีต่อมา อินเตอร์ มิลาน ก็เข้ามาพร้อมกับข้อเสนอขอยืมตัวโดย มีสิทธิ์ซื้อขาดได้ด้วย เมื่อมาอยู่กับทีม เนรัซซูรี่ บาโลเตลลี่ ก็กลายเป็นคีย์แมนของทีมชุดอายุต่ำกว่า 17 ปีทันที ด้วยการยิงประตูอย่างต่อเนื่อง รวมถึงก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนอีกครั้งในทีมชุดอายุต่ำกว่า 20 ปี ของทีมงูใหญ่เขาโชว์ฟอร์มได้สุดยอดจนได้รับคำชมจาก แฟนบอล อินเตอร์ มิลาน มากมายรวมถึงคำชมจาก มัสซิโม่ โมรัตติ ประธานสโมสร

      บาโลเตลลี่ ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ อินเตอร์ มิลาน ได้สำเร็จในฤดูกาล 2007-2008 และ ประเดิมการลงสนามนัดแรกอย่างเป็นทางการในแมตช์ที่ อินเตอร์ ชนะ กายารี่ 2:0 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน ซัวโซ่ ในครึ่งหลัง และแมตช์ที่ทีม งูใหญ่ ต้องฟาดแข้งกับทีมแกร่งร่วมลีกอย่าง ยูเวนตุส ในศึกโคปาอิตาเลีย บาโลเตลลี่ กระทุ้งประตูไป 2 ลูก ทำให้ถูกจับตามองทันที นับเป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของ บาโลเตลลี่ ในเส้นทางลูกหนังระดับอาชีพ

      แต่เนื่องจากความที่มีฝีเท้าที่เก่งกาจ และ ยังคงอายุไม่มากทำให้ บาโลเตลลี่ มีปัญหาในเรื่องของความหลงตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองเก่งแล้วจึงไม่ทุ่มเทเวลาทีมฝึกซ้อมจนผู้จัดการทีม โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องออกมาตักเตือนว่า ตราบใดที่เขายังเป็นผู้จัดการทีมอยู่ ดาวรุ่งอย่าง บาโลเตลลี่ ต้องฝึกซ้อมให้หนักยิ่งกว่านักเตะจอมเก๋าอย่าง ซาเน็ตติ, คอร์โดบา แม้กระทั่ง หลุยส์ ฟิโก้ ซึ่งปัจจุบันเลิกเล่นไปแล้ว บ่อยครั้งที่จะเห็น บาโลเตลลี่ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังเช่นล่าสุดในเกม ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เจ้าตัวโดน มาร์โก มาเตรัซซี่ กองหลังรุ่นพี่รวมทั้งแฟนบอล เอาเรื่องหลังเขวี้ยงเสื้อทีมทิ้งลงพื้นภายหลังจบเกม แถมยังมีปากเสียงกับ โชเซ่ มูรินโญ่

      ด้านทีมชาติเนื่องมาจากปัญหาของเรื่องการได้รับอนุญาต ให้ลงเล่นทำให้เขาพลาดโอกาสติดทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 15 และ 17 ปีของ อิตาลี จนเขากลับมาสนใจติดธงทีมชาติ กาน่า ในปี 2007 ผู้จัดการทีม กาน่า ได้เรียกตัวเขามาติดทีมชาติด้วยแต่ บาโลเตลลี่ กลับแสดงเจตน์จำนงชัดเจนว่าจะรอจนกว่าได้รับอนุญาตให้ลงเล่นในทีมชาติ อิตาลีจนในที่สุด ปิแอร์ลุยจิ คาซิรากี้ ก็เรียกเขามาติดทีมชาติ อิตาลี ชุดยู-21ในปี 2008



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์