มาต้าซัดโทน!สิงห์บุกพิฆาตนกขมิ้นไล่จ่าฝูง 11 แต้ม

เชลซียังรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้ต่อไปเมื่อบุกพิฆาตนอริช ซิตี้ 1-0 จากประตูตัดสินเกมของฆวน มาต้าที่ส่องไกลคมกริบให้สิงห์บลูส์เก็บชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันนับแต่พลาดแชมป์สโมสรโลก รั้งอยู่ที่ 3 ของตารางตามหลังจ่าฝูงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ 11 คะแนน

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2555


นอริช ซิตี้ 0 : 1 เชลซี

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด

ประตู : 0-1 ฆวน มาต้า น.39
นอริชได้รับข่าวดีเมื่อแกรนท์ โฮลท์หัวหอกกัปตันทีมสลัดอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาลงสนามได้ แต่สตีเว่น วิตเทเกอร์ปวดต้นขาเลยเป็นโอกาสให้รัสเซลล์ มาร์ตินเสียบเล่นแบ็คขวา ส่วนมาร์ค บันน์ยังเฝ้าเสาแทนจอห์น รัดดี้ที่เจ็บยาวต่อไป

ที่น่าสนใจคือนกขมิ้นเหลืองอ่อนไม่แพ้ใครเลยสิบนัดในพรีเมียรืลีกก่อนมาสะดุดในเกมล่าสุดที่โดนเวสต์บรอมวิชทิ่มไป 2-1 ขณะที่โฮลท์ยิงไป 7 ประตูจาก 11 เกมที่พบกับทีมบิ๊กโฟร์

เชลซีปรับทัพสองตำแหน่งจากเกมถล่มแอสตัน วิลล่า 8-0 โดยที่จอห์น โอบี มิเกลกับออสการ์ได้เล่นแทนแฟรงค์ แลมพาร์ดกับเอด็อง อาซาร์ ขณะที่เฟร์นานโด ตอร์เรสซึ่งกดไป 7 ประตูจาก 6 เกมหลังสุดของตัวเองให้กับทีมในทุกรายการก็ลงค้ำหน้าตามปรกติ

ที่น่าสนใจคือแม้แมทช์ที่สิงห์บลูส์ยำวิลล่าจะเป็นเพียงชัยชนะนัดที่สองใน 9 เกมลีกหลังสุด แต่พวกเขามีสถิติที่ดียามเจอนอริชเมื่อชนะถึง 6 นัดและไม่แพ้เลยตลอด 8 เกมหลังสุดที่เจอกัน

ครึ่งแรก

นอริชสบโอกาสทักทายก่อน
เกมผ่านไปสิบนาทีเป็นทางนอริชที่ได้จบสกอร์ก่อนในจังหวะที่สน็อดกราสส์เติมเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแล้วเคฮิลล์ปรี่มาบล็อกไว้ได้แล้วบอลกระดอนไปเข้าทางเท็ตเตย์ส่องไกลได้น่าผิดหวัง

นกขมิ้นยังดูดีกว่า
นาที 16 การ์ริโด้โยนบอลเข้ากรอบเขตโทษแล้วเคฮิลลืโหม่งเคลียร์ออกมาที่หัวกระโหลกโดนมาร์ตินปรี่เข้าส่องแต่มิเกลบล็อกไว้ทัน สี่นาทีถัดมาลูอิซได้จังหวะตะบัน 30 หลาแต่เหินข้ามคานไปไกล
ลูอิซบ้ายิงไกลไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นนาที 23 เชลซีได้โอกาสบุกเป็นรูปเป็นร่างหนแรกเมื่อโคลพาบอลลุยขึ้นไปทางกราบซ้ายก่อนเปิดเลียดเข้ากลางไปให้ลูอิซพยายามยิงไกลให้เบี่ยงหลบเทอร์เนอร์แต่หลุดกรอบไปอีก

ถึงทีมาต้าตะบันไกล
สองนาทีให้หลังมาต้ารับบอลทางด้านขวามาจากอัซปิลิกวยต้าแล้วแต่งจนได้จังหวะลองตะบันที่หน้ากรอบเขตโทษทว่าบาสซงอ่านเกมขาดทะยานเข้าไปบล็อกได้ทันเลยยังไม่เป็นอันตราย

น่าเสียดาย!มาต้าหลุดไปยิงหลุดเสา
ผ่านมาครึ่งชั่วโมงลูอิซตัดบอลได้ที่กลางสนามก่อนพาลุยเข้ากรอบเขตโทษแล้วจ่ายทะลุช่องออกด้านขวาให้มาต้าจับบอลด้วยเท้าขวาแล้วดีดด้วยเท้าซ้ายหนีมือบันน์เข้าตาข่ายข้าง

มิเกลกดเต็มข้อข้ามคาน
นาที 34 มาต้าเปิดบอลจากขวามาซ้ายให้โมเซสได้ซัดในเขตโทษติดบล็อกไปเข้าทางลูอิซที่บริเวณหัวกระโหลกไหลบอลตั้งให้มิเกลวิ่งมาหวดจากแถวสองโด่งไปไกลต้องให้สองแถวไปเก็บ

จนได้!มาต้าส่องไกลสิงห์ขึ้นนำ
ความพยายามของเชลซีมาประสบผลในนาที 39 เมื่อโมเซสสับขาหลอกมาจ่ายบอลให้ออสการ์ส่งต่อไปยังมาต้าแต่งแล้วยิงไกลด้วยอีซ้ายเข้าเสียบเสาขวาอย่างงามให้ทีมนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก



ครึ่งหลัง

บันน์โชว์เซฟต้นครึ่งหลัง
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังสิงห์บลูส์เกือบทิ้งห่างสองเม็ดเมื่อออสการ์เปิดลูกเตะมุมด้านขวามาที่เสาแรกให้โมเซสสะกิดผ่านเท้าของโฮลท์เกือบเบียดเสาแต่บันน์ล้มตัวปัดออกไปได้หวุดหวิด
โฮลท์หลุดเดี่ยวกดหลุดเสา
แต่นาที 54 ฮูลาแฮนก็ลากบอลจากกลางสนามมาจ่ายทะลุช่องให้โฮลท์หลุดเดี่ยวเข้าไปทางด้านซ้ายของเขตโทษก่อนซัดผ่านเช็กออกเสาไกลไปแต่ช็อตนี้ก็โดนจับล้ำหน้าไปแล้ว

มาต้าลักไก่ยิงฟรีคิกเกือบเป็นผล
นาทีถัดมาโมเซสเรียกฟาวล์ได้จากจอห์นสันแล้วในจังหวะที่นอริชกำลังตั้งกำแพงฝั่งเชลซีก็ได้ลูอิซตั้งบอลให้มาต้าลักไก่ปั่นโค้งที่เสาซ้ายโชคดีที่บันน์สมาธิเยี่ยมรีบวิ่งไปป้องกันเอาไว้ทัน

โมเซสเกือบยิงท่าสวย
นาที 69 เชลซีเกือบทำประตูเพิ่มเมื่ออัซปิลิกวยต้าโยนบอลจากริมเส้นด้านขวาข้ามฟากมาถึงเสาสองให้โมเซสเอาบอลลงก่อนดีดด้วยเท้าขวาพุ่งหนีบันน์ถากเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

สิงห์ปรับทัพส่งแลมพ์แทนมิเกล
ถึงนาที 74 เป็นฝั่งเชลซีที่ขยับเปลี่ยนตัวก่อนเมื่อแลมพาร์ดซึ่งเพิ่งส่องไกลสุดงามเมื่อเกมก่อนลงมาคุมแดนกลางแทนโอบี มิเกล เห็นแบบนี้อาจมีประตูประตูเพิ่มเพราะเขาเป็นสไตล์บุกน่ะครับ แหม๋

มาต้าทะยานโหม่งหลุดเสา
เข้าสู่ช่วงสิบนาทีสุดท้ายออสการ์ไหลบอลออกด้านขวาให้อัซปิลิกวยต้าที่เติมขึ้นมาเปิดบอลเข้าไปยังเสาไกลที่มีมาต้ารออยู่แต่มิดฟิลด์สแปนิชโหม่งสะบัดหลุดเสาออกไป

ท้ายเกมผลัดกันยิง
ก่อนหมดเวลาไม่กี่นาทีอาซาร์ได้หลุดเข้าไปทางด้านซ้ายแต่บันน์ทะยานออกมาปิดมุมเร็วเลยเซฟไว้ได้ ขณะที่ช่วงทดเจ็บบาสซงเติมไปโหม่งเตะมุมก็ข้ามคานทำให้ จบเกมเชลซีบุกมาพิฆาตนอริช ซิตี้ 1-0 จากประตูโทนของมาต้า ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 35 คะแนนจาก 18 นัดรั้งอยู่ที่ 3 ตามหลังจ่าฝูงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 11 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

นอริช ซิตี้ :
มาร์ค บันน์, รัสเซลล์ มาร์ติน, เซบาสเตียน บาสซง, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ฆาเบียร์ การ์ริโด้, แบรดลี่ย์ จอห์นสัน (โจนาธาน ฮาวสัน น.82), โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, แอนโธนี่ พิลคิงตัน (สตีฟ มอร์ริสัน น.79), อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์, เวสลี่ย์ ฮูลาแฮน (เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ น.89), แกรนท์ โฮลท์

สำรองไม่ได้ใช้ : เดคลาน รัดด์, ลีออน บาร์เน็ตต์, ซิโมน แจ็คสัน, ไรอัน เบนเน็ตต์

เทรนเนอร์ : คริส ฮิวจ์ตัน

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลูอิซ, จอห์น โอบี มิเกล (แฟรงค์ แลมพาร์ด น.74), ออสการ์ , วิคเตอร์ โมเซส (เอด็อง อาซาร์ น.79), ฆวน มาต้า (นาธาน เอเก้ น.90), เฟร์นานโด ตอร์เรส

สำรองไม่ได้ใช้ : รอสส์ เทิร์นบูลล์, เปาโล เฟอร์เรร่า, มาร์โก มาริน, ลูคัส เปียซอน

เทรนเนอร์ : ราฟาเอล เบนิเตซ


















        แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์