ฆวนเด้ รามอสบอกตอนฉันนั่งหัวโด่ไม่เห็นฮึดสู้แบบนี้หลังเห็นท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์จากที่กำลังจะแพ้เละเทะให้อาร์เซนอลเนื่องจากเจอยิงแซงพรุน 4-2 ในครึ่งหลังแต่เจอทีเด็ดเด็กแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ยิงสองลูกท้ายเกมนาที 89 และ 94 ตีเสมอแบ่งแต้มหน้าตาเฉย
บรรยายเกมโดยนาฬิกาทราย
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ
วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2551
อาร์เซนอล 4-4 สเปอร์ส
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดียม
ประตู : 0-1 เดวิด เบนท์ลีย์ น.13,1-1 มิกาเอล ซิลแวสตร์ น.37,2-1 วิลเลียม กัลลาส น.47,3-1 เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ น.64,3-2 ดาร์เรน เบนท์ น.67,4-2 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.68,4-3 เจอร์เมน จีนาส น.89,4-4 แอร่อน เลนน่อน น.90+4
ผู้ชม : 60,043 คน
ปืนโตนัดนี้วาง 4 กองหลังเป็นผู้เล่นฝรั่งเศสทั้งหมด ในขณะที่แนวรุกเป็นหน้าที่ของคู่กองหน้าโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และเอ็มมานูเอล อาเดบายอร์
ขณะที่สเปอร์สซึ่งปลดล็อกได้แล้ว เรดแนปป์วางพาฟลูเชนโก้เป็นกองหน้าคนเดียว ในขณะที่เดวิด เบนท์ลีย์จะกลับมาเยือนทีมเก่า ในฐานะผู้เล่นทีมคู่อริเป็นครั้งแรก
โอกาสหวาดเสียวครั้งแรกของเกมเป็นของสเปอร์สก่อน เมื่อแกเร็ธ เบล หลุดมาทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนลักไก่ยิงเสาแรกทันที ทว่าลูกไปชนโคนเสาเด้งออกหลังไป 
อาร์เซนอลมามีโอกาสบ้าง ในนาทีที่ 10 เมื่อธีโอ วัลคอตต์ พลิกบอลได้ในเขตโทษ ก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายทันทีลูกถากเสาสองแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
เกมแลกกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ต้นเกม สมเป็นเกมลอนดอนดาร์บี้ และนาทีที่ 13 สเปอร์สก็ออกนำ 1-0 แบบสุดช็อกแฟนเจ้าถิ่นเมื่อจังหวะที่นักเตะทั้งสองทีมชิงจังหวะโหม่งบอลไปมาจนสุดท้ายเข้าทางจีนาสที่พักอกก่อนที่เดวิด เบนท์ลีย์อดีตเด็กเก่าเดาะบอลด้วยน่องก่อนหวดคล้ายๆจุดพลุแต่บอลพุ่งหุบเร็วราวสายฟ้าฟาดย้อยข้ามหัวอัลมูเนียที่ออกมาจากเส้น 6 หลาปัดโดนแต่ไม่เต็มมือบอลเสียบหน้าต่างเข้าไปและจะต้องเป็นประตูที่สวยที่สุดในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน
พอเสียประตูไปอาร์เซนอลเปิดหน้าบุกแบบบ้าคลั่ง และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ก็มีโอกาสสองครั้งซ้อนๆ เริ่มจากฟรีคิกนาทีที่ 18 แต่โกเมสเซฟได้ ในขณะที่จังหวะยิงไกลอีกครั้งก็ถากเสาไป
ตอนนี้รูปเกมเป็นแบบวันเวย์คืออาร์เซนอลไล่ยำอยู่ข้างเดียวนาทีที่ 36 เชสก์เลี้ยงจี้ไปในเขตโทษก่อนปั่นโค้งกะให้เสียบเสา แต่โกเมสปัดออกหลังได้ปลายมือ
อย่างไรก็ตามจากจังหวะคอร์เนอร์ลูกนั้นก็ส่งให้สกอร์ขยับเป็น 1-1 เมื่อฟาน เพอร์ซี่เปิดเข้ามาที่เสาแรก และเป็นซิลแวสตร์ที่ทะยานโฉบโหม่งเน้นๆ ตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย และนั่นก็เป็นสกอร์สุดท้ายในครึ่งแรกด้วย
เปิดฉากครึ่งหลังได้แค่อึดใจเดียว เจ้าถิ่นก็ทะยานนำเป็น 2-1 จากลูกนิ่งอีกแล้ว โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปิดฟรีคิกเข้าไป และเป็นกัลลาสที่กระโดดได้สูงกว่าใครสะบัดโหม่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม
ถึงจะตามหลังแล้ว แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าสเปอร์สจะกลับมาสู่เกมได้เลย ยังเป็นปืนโตที่ไล่ถลุงข้างเดียว นาทีที่ 60 อาเดบายอร์พลิกบอลได้ก่อนตะบันจากเขตโทษ แต่บอลถากเสาไปเสี้ยวเดียวจริงๆ
นาทีที่ 64 ไก่ก็โดนอีกจนได้ เมื่อฟาน เพอร์ซี่ แทงคิลเลอร์พาส ให้นาสรี่หลุดไปดวลตัวต่อตัวกับโกเมส นาสรี่กระดกข้ามหัวง่ายๆ ก่อนที่จะเป็นอาเดบายอร์วิ่งมาชาร์จตามสูตร ปืนนำอีกไปเป็น 3-1
ตอนนี้เกมรุกบุกกันแบบสุดมันส์แล้ว นาทีที่ 67 ไก่ไล่มาเป็น 3-2 เมื่อฮัดเดิลสตันยิงนอกเขตโทษเต็มแรง ซึ่งมันแรงจัดจนอัลมูเนียรับไม่อยู่ จนโดนดาร์เรน เบนท์ซ้ำจ่อๆเข้าไป
แต่อีกนาทีถัดจากนั้นอาร์เซนอลพลิกเป็น 4-2 ได้อีก เมื่ออาเดบายอร์แหวกไปกลางประตู ก่อนสายตาดีจ่ายให้ฟาน เพอร์ซี่ที่ยืนโล่งๆ อัดเปรี้ยงด้วยเท้าขวาไม่ถนัด ผ่านมือโกเมสที่หมดสิทธิป้องกันไปอย่างเด็ดขาด
พอได้ลูกที่ 4 ก็ดูเหมือนอาร์เซนอลจะเล่นอย่างสบายใจมากขึ้น ในขณะที่สเปอร์สก็พยายามบุกต่อไปเรื่อยๆ และช่วงนาทีที่ 89 กลิชี่เคลียร์ไม่ขาด บอลไปตกที่เท้าจีนาสปั่นโค้งผ่านมืออัลมูเนียเข้าไปสวยงาม ตอนนี้สเปอร์สไล่มาเป็น 4-3 แล้ว
และปาฏิหาริย์ในสนามเอมิเรตส์ก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 ลูก้า โมดริชฮาล์ฟวอลเลย์เปรี้ยง 25 หลา บอลพุ่งวาบชนเสาเต็มๆ แต่แอร่อน เลนน่อน ก็ไวพอปรี่เข้ามาซ้ำตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสุดยอด ทำให้สกอร์เสมอกันที่ 4-4 อย่างไม่มีใครเชื่อ
และนั่นก็เป็นสกอร์สุดท้ายในเกมไปเลย บอลจบด้วยผลเสมอ 4-4 แบบที่ต้องชมใจสู้ของไก่เดือยทองล้วนๆ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 6,บาคารี่ ซานญ่า 6,มิกาเอล ซิลแวสตร์ 6,วิลเลียม กัลลาส 6,กาเอล กลิชี่ 6,ธีโอ วัลคอตต์ 7(เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ น.75,6),เชสก์ ฟาเบรกัส 7,เดนิลสัน 7,ซาเมียร์ นาสรี่ 7(อเล็กซ์ ซง น.88),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 8(อาบู ดิอาบี้ น.81),เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ 7
สำรองไม่ได้ลงสนาม : ฟาเบียงสกี้,ตูเร่,เบล่า,เบนด์เนอร์
ใบเหลือง : ดิอาบี้
สเปอร์ส : ฮูเรลโญ่ โกเมส 6,อลัน ฮัตตัน 6(คริส กันเตอร์ น.79),เวดราน ชอร์ลูก้า 6,โจนาธาน วู้ดเกต 6,เบนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ 6,แกเร็ธ เบล 6(แอร่อน เลนน่อน น.55,7),เดวิด เบนท์ลีย์ 8*,ลูก้า โมดริช 7,เจอร์เมน จีนาส 7,ทอม ฮัดเดิลสตัน 7,โรมัน พาฟลูเชนโก้ 7(ดาร์เรน เบนท์ น.65,7)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : เซซาร์,โซโกร่า,แคมป์เบลล์,โอฮาร่า
ใบเหลือง : เอก็อตโต้,เบนท์ลีย์,จีนาส,ฮัดเดิลสตัน
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
