ฟุตบอลโลก 2010 : อุรุกวัย -vs- เยอรมัน

ฟุตบอลโลก 2010 รอบชิงอันดับ 3
อุรุกวัย (อเมริกาใต้) -vs-  เยอรมัน (ยุโรป) ... (01.30 น.)
สนาม : เนลสัน แมนเดล่า เบย์, พอร์ท เอลิซาเบธ
ราคาบอล : เยอรมัน ต่อ 0.75-5

เยอรมัน
04-03-2010 แพ้ อาร์เจนตินา 0-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
13-05-2010 ชนะ มอลตา  3-0 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
30-05-2010 ชนะ ฮังการี  3-0 (เยือน) อุ่นเครื่อง
04-06-2010 ชนะ บอสเนียฯ 3-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
14-06-2010 ชนะ ออสเตรเลีย 4-0 (กลาง) ฟุตบอลโลก 2010
18-06-2010 แพ้ เซอร์เบีย  0-1 (กลาง) ฟุตบอลโลก 2010
24-06-2010 ชนะ กานา  1-0 (กลาง) ฟุตบอลโลก 2010
27-06-2010 ชนะ อังกฤษ  4-1 (กลาง) ฟุตบอลโลก 2010
03-07-2010 ชนะ อาร์เจนตินา 4-0 (กลาง) ฟุตบอลโลก 2010
08-07-2010 แพ้ สเปน  0-1 (กลาง) ฟุตบอลโลก 2010
 
ผลงานในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 10 นัดหลังสุด
อุรุกวัย
เวิลด์ คัพ 1986
04-06-1986  เสมอ เยอรมันตะวันตก 1-1
08-06-1986  แพ้ เดนมาร์ก  1-6
13-06-1986  เสมอ สก๊อตแลนด์  0-0
16-06-1986  แพ้ อาร์เจนตินา  0-1

เวิลด์ คัพ 1990
13-06-1990 เสมอ สเปน  0-0
17-06-1990 แพ้ เบลเยียม  1-3
21-06-1990 ชนะ เกาหลีใต้ 1-0
25-06-1990 แพ้ อิตาลี  0-2

เวิลด์ คัพ 2002
01-06-2002 แพ้ เดนมาร์ก 1-2
06-06-2002 เสมอ ฝรั่งเศส 0-0
11-06-2002 เสมอ เซเนกัล 3-3

เยอรมัน
เวิลด์ คัพ 2002
05-06-2002 เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1
11-06-2002 ชนะ แคเมอรูน 2-0
15-06-2002 ชนะ ปารากวัย 1-0
21-06-2002 ชนะ สหรัฐฯ  1-0
25-06-2002 ชนะ เกาหลีใต้ 1-0
30-06-2002 แพ้ บราซิล  0-2

เวิลด์ คัพ 2006
09-06-2006 ชนะ คอสตาริก้า 4-2
15-06-2006 ชนะ โปแลนด์  1-0
20-06-2006 ชนะ เอกวาดอร์ 3-0
24-06-2006 ชนะ สวีเดน  2-0
30-06-2006 เสมอ อาร์เจนตินา 1-1 เยอรมัน ชนะจุดโทษ
05-07-2006 แพ้ อิตาลี  0-2 ต่อเวลาพิเศษ
09-07-2006 ชนะ โปรตุเกส 3-1
 
เปิดม่านก่อนเกม

              ย้อนอดีตไปในเกมชิงอันดับ 3 ครั้งที่ผ่าน ๆ มา ในปี 2006 เยอรมัน ในฐานะเจ้าภาพคว้าที่ 3 ปลอบใจ จากชัยชนะเหนือ โปรตุเกส 3-1 ที่ สตุ๊ตการ์ต เช่นเดียวกับในปี 1990 ที่เจ้าภาพ อิตาลี ลบล้างความผิดหวังจากการแพ้ อาร์เจนตินา ด้วยการคว้าอันดับ 3 ปลอบใจกองเชียร์แดนมะกะโรนีด้วยการคว่ำ อังกฤษ 2-1

              อย่างไรก็ตามทีมที่เป็นต่อก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะบรรดาทีมม้ามืดที่ได้ขึ้นโพเดียมรับรางวัลที่ 3 ก็มี อาทิ สวีเดน ในปี 1994 ที่ สหรัฐฯ, โครเอเชีย ในปี 1998 ที่ ฝรั่งเศส และ ตุรกี ในปี 2002 ที่ เกาหลี/ญี่ปุ่น

              ดาวเด่นของทั้งสองชาติเป็นหัวหอกมากประสบการณ์ที่ยังมีลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ทั้งคู่ ภายหลังยิงไปแล้วคนละ 4 ประตู ซึ่งตำแหน่ง โกลเด้นบู๊ท น่าจะเป็นรางวัลปลอบใจชั้นดีสำหรับมือสังหาร อุรุกวัยและ เยอรมัน ที่ไปไม่ถึงฝันหลังความพ่ายแพ้ในรอบตัดเชือก แต่ปัญหาคือ โคลเซ่และ ฟอร์ลัน ต่างเดี้ยงมาจากรอบก่อนทั้งคู่ ทำให้อาจบู๊ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนักในวันเสาร์นี้

สถิติ

              10 - สัญญาณที่ส่อว่าเกมรอบชิงอันดับ 3 ไม่น่าจะต้องลุ้นถึงช่วงต่อเวลาพิเศษก็คือ ตลอดการลงสนาม 10 เกมหลังสุดของ เยอรมัน รวมถึงเกมอุ่นเครื่อง ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอแม้แต่ครั้งเดียว

วาทะก่อนเกม

              เราจะต้องก้าวข้ามความผิดหวัง พร้อมทั้งกระตุ้นสปิริตของนักเตะและเตรียมการให้พร้อมสำหรับเกมนี้ เราตั้งเป้าปิดฉากทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ คัพ ให้ดี เพราะแม้เราจะแพ้ในรอบรองฯ แต่ในภาพรวมเราก็มีผลงานที่ดีและผมภาคภูมิใจในทีมชุดนี้มาก โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ เยอรมัน

              นี่คงจะเป็นอีกเกมที่ยาก แต่เราก็จะลงเล่นด้วยทัศนคติและความรับผิดชอบเหมือนดังที่แสดงให้เห็นในเกมกับ ฮอลแลนด์ เราจะเตรียมการทุกวิถีทางเพื่อพา อุรุกวัย คว้าอันดับ 3 ให้ได้ อย่างไรก็ตามผมรู้ดีว่าการเผชิญหน้ากับ เยอรมัน จะเป็นงานสุดหินสำหรับเรา ดังนั้นเราจะต้องสู้เพื่อลมหายใจสุดท้ายหากเราต้องการเป็นผู้ชนะในเกมนี้ ออสการ์ ตาบาเรซ เฮ้ดโค้ช อุรุกวัย
 
เสียงจากแฟนบอล

               เยอรมัน เป็นทีมที่คงเส้นคงวากว่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเหนือกว่าเรา เพราะแม้นักเตะ เยอรมัน จะได้เปรียบรูปร่าง แต่อุรุกวัยมีสปิริตที่ดีกว่า ทำให้ผมคาดว่าเราจะได้เห็นเกมที่สู้กันสนุกสูสีในวันนี้ เบิร์นเบเน่ (อุรุกวัย)
 
สภาพความพร้อมล่าสุด
 
               ออสการ์ ตาบาเรซ ผู้จัดการทีมชาติอุรุกวัย จะได้สองแข้งหลักทั้ง หลุยส์ ซัวเรซและ ฮอร์เก้ ฟูซิเล่ กลับมาจากโทษแบนและคาดว่าจะถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงทันที ขณะที่ปราการหลังกัปตันทีม ดีเอโก้ ลูกาโน่ ก็น่าจะสลัดคราบเดี้ยงที่หัวเข่ากลับมาคุมแนวรับได้เช่นกัน แต่เบื้องต้นอาจได้เป็นเพียงตัวสำรอง ส่วนตำแหน่งที่เหลือไม่มีปัญหาคาดว่าจะเป็นแกนหลักจากรอบตัดเชือก โดยแนวรุกในระบบ 4-1-2-1-2 วาง ดีเอโก้ ฟอร์ลัน บงการเกมรุกหลังคู่หน้า เอดิสัน คาวานี่กับ หลุยส์ ซัวเรซ
 
               ด้าน เยอรมัน ภายใต้การนำทัพของเทรนเนอร์ โยอาคิม เลิฟ ต้องรอทดสอบความฟิตของสองแดนกลาง เมซุต โอซิลและ ซามี เคดิร่า ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่ที่แน่ๆ แนวรุกจะได้ โธมัส มุลเลอร์ เจ้าหนูมหัศจรรย์จากค่าย บาเยิร์น กลับมาช่วยทีมอีกครั้งหลังจากพ้นโทษแบน

               จากความไม่สมบูรณ์ของตัวหลักทำให้แข้งสำรองอย่าง แซร์ดาร์ ทาสซี, เดนนิส อาโอโก้และ สเตฟาน คิสลิงก์ มีลุ้นสอดแทรกเป็นตัวจริง แต่เบื้องต้นแนวรุกจะยังเป็นชุดใหญ่ มี โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิลและ ลูคัส โพดอลสกี้ สนับสนุนตัวเป้าจอมเก๋า มิโรสลาฟ โคลเซ่ ที่กำลังลุ้นสร้างสถิติใหม่ทาบดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของรอบสุดท้ายอย่าง โรนัลโด้ ของ บราซิล (15 ประตู) เพราะตามอยู่เพียงประตูเดียว
 
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
               อุรุกวัย (4-1-2-1-2) : เฟร์นันโด มุสเลรา - มาร์ติน กาเซเรส, ดีเอโก้ ลูกาโน่, ดีเอโก้ โกดิน, ฮอร์เก้ ฟูซิเล่ - มักซี่ เปไรร่า - ดีเอโก้ เปเรซ, อัลบาโร่ เปไรร่า - ดีเอโก้ ฟอร์ลัน - เอดิสัน คาวานี่, หลุยส์ ซัวเรซ
               เยอรมัน (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, อาร์เน่ ฟรีดริช, มาร์เซล แยนเซ่น - ซามี เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ - มิโรสลาฟ โคลเซ่
 
ซอคเกอรูส์ ชี้ช่องรวย

                เยอรมัน เสียท่า สเปน ในรอบรองฯ มาแบบสู้ไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแชมป์ยุโรปมีแผงมิดฟิลด์อันแข็งแกร่งที่ไล่เพรสซิ่งจนแดนกลาง อินทรีเหล็ก ไม่สามารถต่อบอลได้ตามถนัด แต่ปัญหาเหล่านั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นกับทีมของ เลิฟ ในวันนี้ เนื่องจาก อุรุกวัย เป็นบอลเชิงรับที่อาศัยจังหวะฉาบฉวยดังที่เห็นกันในรอบที่ผ่านมา เช่นนั้นแล้วคาดการณ์ได้ว่าแผงกลางของ เยอรมัน จะกลับมาครองบอลได้ตามถนัด ซึ่งการกลับมาของ มุลเลอร์ คงยกระดับเกมบุกของทีมจากเมืองเบียร์ให้ไหลลื่นและเด็ดขาดกว่าเดิม ดูแล้วนัดนี้ เยอรมัน มีภาษีอันดีที่จะเก็บชัยชนะมากกว่า โดยคู่นี้น่าจะเปิดฉากแลกกันยิงสนุกตามแบบฉบับบอลชิงที่ 3 และเป็นฝั่ง เยอรมัน ได้เฮในบั้นปลาย

http://www.lomtoe.com/forum.php?qid=83245