พิศดาร!ถั่วน้อยยิงอัดปากตัวเองผี 3-1 แชมป์คอมมู

พิศดาร!ถั่วน้อยยิงอัดปากตัวเองผี 3-1 แชมป์คอมมู



ไอ้ถั่วน้อยฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซประเดิมเกมทางการนัดแรกของฤดูกาลอย่างเหนือชั้นหลังเปิดซิงยิงประตูด้วยลูกล้มตัวยิงตวัดใส่ปากตัวเองตุงตาข่ายนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโค่นเชลซี 3-1 คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์เอาฤกษ์เอาชัยตบปากแกรี่ ลินิเกอร์ก่อนเลย

คอมมูนิตี้ ชิลด์

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2553


เชลซี 1 : 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู :
0-1 อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.41,0-2 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.76,1-2 ซาโลมอง กาลู น.83,1-3 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.90+2

ก่อนเกมทางเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคาร์โล อันเชล็อตติกุนซือเชลซีทักทายกับทางจิอันฟรังโก้ โซล่าตำนานของทางเชลซี และเซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตันตำนานแข้งแมนฯยูไนเต็ด ก่อนตำนานทั้งสองจะเดินทักทายผู้เล่นของทั้งสองทีม

สิงห์ไฮโซ เชลซีไม่มีชื่อของปีเตอร์ เช็กที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนดิดิเย่ร์ ดร็อกบาั่งสำรองที่ข้างสนาม นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าฟูลทีมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีจอห์น เทอร์รี่สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงคุมแนวรับคู่กับบรานิลาฟ อิวาโนวิช ในขณะที่แดนหน้ามีนิโกลาส์ อเนลก้ายืนหน้าเดี่ยว ขนาบด้วยซาโลมอง กาลู และฟลอร็องต์ กาลู

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเลือกใช้จอนนี่ อีแวนส์ลงยืนเซ็นเตอร์คู่กับเนมันย่า วิดิช ส่วนแบ็คซ้ายใช้ฟาบิโอ ดา ซิลวา ในขณะที่ไมเคิ่ล คาร์ริคที่มีข่าวว่าเจ็บยาวก่อนหน้านี้ ผ่านเข้าฟิตลงสนามได้ในเกมนี้

ส่วนผู้ตัดสินในเกมนี้ก็คืออังเดร มาริเนอร์

ครึ่งแรก



หมูเจอโห่รับขวัญ
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเวย์น รูนี่ย์ก็ถูกรับขวัญการสัมผัสบอลครั้งแรกด้วยเสียงโห่ของบรรดาแฟนเชลซี ในขณะแฟนบอลของแมนฯยูไนเต็ดตอบโต้ด้วยเสียงปรบมือให้กำลังใจ

AV ได้กระดกบอลลุ้นประตู
จังหวะต่อเนื่องจากที่รูนี่ย์โดนโห่ เจ้าตัวก็ตอบโต้ด้วยการจ่ายยาวไปให้กับอันโตนิโอ วาเลนเซียทะลุพุ่งขึ้นทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะกระดกจังหวะแรกหวังให้ข้ามหัวเอ็นริเก้ ฮิลาร์ริโอ แต่ไม่พ้นถูกรับเอาไว้ได้

หมาหมุ่ยวอลเล่ย์เหินคาน
นาทีที่ 9 กองหลังของเชลซีประกบพลาด ปล่อยให้วาเลนเซียได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา และมีเวลาเพียบในการตัดสินใจว่าจะเล่นจังหวะต่อไปอย่างไร ก่อนจะเปิดบอลให้พอล สโคลส์ที่วิ่งสอดขึ้นมาในกรอบเขตโทษวอิลเล่ย์จังหวะแรกทันที แต่เหมือนจะโดนไม่เต็มทำให้บอลเหินข้ามคานออกไป

สิงห์เอาบ้างเกือบได้เฮ
อีกแค่นาทีต่อมา เชลซีก็ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะซัดนอกกรอบเขตโทษของอเนลก้า บอลพุ่งไปเสาแรกเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์พุ่งเซฟได้แต่บอลกระฉอกออกมา ทำให้กาลูวิ่งไปตามเก็บ แล้วรีบตวัดยิงแต่ไม่ตรงหน้าประตูผ่านออกไป น่าหวาดเสียวดีแท้

น้าซาร์ซูเปอร์เซฟฟฟฟฟ
นาทีที่ 17 แมนฯยูเกือบต้องเสียประตูซะแล้ว จากจังหวะฟรีคิกของฟลอร็องต์ มาลูด้าจากริมเส้นทางขวาเข้าในกรอบเขตโทษ อิวาโนวิชเทคตัวขึ้นได้เปรียบกว่าทางวิดิชเบียดเข้าไปโหม่งบอลพุ่งเข้ากรอบประตู แต่ถูกทางฟาน เดอร์ ซาร์ปัดออกหลังไปได้แบบเฉียดฉิว

หมูหักมากไปนิดเดียว
แลกกันคนละหมัดจริง ๆ จากเกือบเสียประตู แมนฯยูไนเต็ดก็เกือบจะได้ประตูบ้าง จากจังหวะที่สโคลส์ชิพบอลแบบน้ำหนักพอดีเป๊ะให้รูนี่ย์เข้าไปเก็บบอลในเขตดทษและไม่ล้ำหน้า รูนี่ย์พยายามเอี้ยวตัวยิงหักข้อไปที่เสาสอง บอลผ่านฮิลาร์ริโอไปแล้ว แต่หลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

ปาร์คยิงติดบล็อก
จังหวะลุ้นประตูเยอะกันเสียจริง นาทีที่ 20 อันโตนิโอ วาเลนเซียยึกหลอกกองหลังของเชลซี ก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลางให้ปาร์ค จี ซุงทะลุขึ้นมาแปเน้น ๆ แต่บอลไปติดบล็อกของทางอิวาโนวิช แฟนแมนฯยูไนเต็ดร้องจะเอาจุดโทษเพราะเหมือนบอลจะโดนแขน แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร

เกมเริ่มทรงตัว
เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เกมของทั้งสองทีมเริ่มจะค่อย ๆ ต่อบอลกันเป็นจังหวะแบบไม่มีช่วงลุ้นเสียวกันสักเท่าไร ส่วนไมเคิ่ล โอเว่นของแมนฯยูไนเต็ดนั้นแทบจะหายไปจากเกมเลย

ผีกดดันได้ลุ้น
นาทีที่ 39 ไมเคิ่ล โอเว่นที่หายไปจากเกมกลับมามีส่วมร่วมก็ทำให้แฟนเชลซีเสียวเลยทันที หลังจากเขาทะลุหลุดเข้าในกรอบเขตโทษฝั่งขวาได้ แล้วกระดกบอลผ่านมาหน้ากรอบเขตโทษ แม้จะไม่มีใครอยู่ แต่อิวาโนวิชก็เพลย์เซฟพุ่งโขกบอลออกหลังไป

หมูจ่าย-AVซัดหาย
นาทีที่ 41 แมนฯยูไนเต็ดใช้จังหวะเพียงแค่ 3 ครั้งก็ได้ประตูขึ้นนำทันที จากจังหวะที่พอล สโคลส์โยนบอลไปให้กับเวย์น รูนี่ย์ทางริมเส้นฝั่งขวาแบบแม่นเป๊ะ ไอ้หมูเหลือบมองตรงกลางก่อนจะตวัดจังหวะแรกเข้าไปทันที อันโตนิโอ วาเลนเซียวิ่งสอดขึ้นมาแปผ่านตัวของฮิลาร์ริโอเข้าไปตุงตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดออกนำไปก่อนแล้ว 1-0

จบ 45 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกนำเชลซีไปก่อน 1-0 จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมของสโคลส์, รูนี่ย์ และวาเลนเซีย

ครึ่งหลัง

แมนฯยูไนเต็ดมาแปลกตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวพร้อมกันเลย 3 ตัว หลุยส์ นานี่แทนปาร์ค จี ซุง, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟแทนไมเคิ่ล โอเว่น และฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซแทนเวย์น รูนี่ย์

มาลูด้าส่องเสียว
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 5 นาที เชลซีก็ได้ลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่ฟลอร็องต์ มาลูด้าตัดสินใจพลิกตัวยิงเร็วจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเหมือนจะเสียบเสา แต่หลุดออกหลังไปแบบน่าหวาดเสียวสุด ๆ

แมลงสาบมาแ้ว้ววววววว
ครบหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม คาร์โล อันเชล็อตติก็เปลี่ยนเอาดิดิเย่ร์ ดร็อกบาหัวหอกเบอร์หนึงของทีมลงสนามแทนจอห์น โอบี มิเกล และก็ถอดเอานิโกล่าส์ อเนลก้าออก แล้วส่งดาเนียล สเตอร์ริดจ์ลงไปเล่นแทน

หมาหมุ่ยวันนี้จับวาง
การจ่ายบอลยาวของพอล สโคลส์ในวันนี้ถือว่าท็อปฟอร์มเอามาก ๆ เพราะจ่ายได้แม่นยำเกือบจะทุกครั้ง ซึ่งสร้างปัญหาให้กับทางฝั่งเชลซีได้ตลอดทั้งเกม

เอสเซียงปั่นเสียวว้าบ
นาทีที่ 68 มิชาเอล เอสเซียงเติมเกมรุกขึ้นมาลุ้นยิงประตูนอกกรอบเขตโทษ เจ้าตัวบรรจงปั่นไปเสาสอง บอลลอยโค้ง แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น ทำเอาแฟนบอลฮือฮากันทั้งสนาม

โคลคล้ำดีดบอลไม่เต็ม
อีก 2 นาทีต่อมา เชลซีเกือบจะทำประตูได้อีกครั้ง จากจังหวะที่เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา ฟาน เดอร์ ซาร์พุ่งเหยียดปัดโดปลายนิ้ว ก่อนที่กองหลังจะโหม่งสกัดแต่บอลไม่ขาดหล่นใส่แอชลี่ย์ โคลที่ทางบอลมาเข้าเท้าขวา ทำให้จำเป็นต้องดีดด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้ามือของฟาน เดอร์ ซาร์

ผีส่งสมอลลิ่งลง
อีกหนึ่งนาทีต่อมา อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็เปลี่ยนเอาคริส สอมลลิ่งลงสนามแทนฟาบิโอ ดา ซิลวา โดยจะขยับเอาจอนนี่ อีแวนส์ไปยืนทางแบ็คซ้ายแทน คาดว่าจุดนี้น่าจะแพ็คให้แน่น และไม่เติมเกมบุกมากเพื่อกันทางเชลซีเจาะ

ยูนแทนมาลูด้า
นาทีที่ 73 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนตัวโดยแท้ เมื่อเชลซีเปลี่ยนเอายอสซี่ เบนายูนลงสนามแทนฟลอร็องต์ มาลูด้า

ถั่วยน้อยยิงไม่ได้ลุ้น
นาทีเดียวกันนั้น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟได้โอกาสพาบอลขึ้นไปทางฝั่งขวา ก่อนที่จะเลี้ยงเข้าในกรอบเขตโทษ แล้วป้ายบอลกลับมาตรงกลางให้ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซพุ่งเข้ามายิง แต่เนื่องจากเป็นเท้าซ้ายทำให้บอลแ้กลอยหลุดออกไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไร

ถั่วยน้อยเฮง!ยิงบอลอดหน้าตัวเองเข้า
นาทีที่ 76 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซก็มาทำประตูสุดเฮงจากจังหวะที่อันโตนิโอ วาเลนเซียวิ่งหลุดขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวาแบบมีเวลาเหลือเฟือก่อนที่จะเปิดบอลผ่านปาดหน้าประตูไปเสาสอง ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซพุ่งเข้ามาล้มตัวยิงด้วยขวาแบบแป้ก ๆ แต่บอลเป็นใจพุ่งมากระแทกหน้าตัวเองเข้าประตุไปแบบสุดเฮง ปีศาจแดง ออกนำห่าง 2-0 แล้ว

น้าซาร์ซูเปอร์เซฟอีกแล้ว!!
นาทีที่ 83 มิชาเอล เอสเซียงหูตาเป็นเลิศเหลือบเห็นดาเนียล สเตอร์ริดจ์ทะลุขึ้นในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แต่ยิงไปติดเซฟของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่เซฟเอาไว้ได้่อย่างยอดเยี่ยม

ผีโดนจนได้-กาลูซัดหาย
แค่นาทีเดียวเท่านั้น กองหลังของแมนฯยูไนเต็ดเหม่อกันไปหน่อย ถูกเชลซีกดดันอย่างต่อเนื่องได้ส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษ จังหวะแรกฟาน เดอร์ ซาร์ปัดเอาไว้ได้ แต่บอลไปเข้าทางปืนของซาโลมอง กาลูที่วิ่งเข้ามาแปแบบเน้น ๆ ไม่เหลือ เชลซีตีตื้นเป็น 2-1 แล้ว

สิงห์กดดันอย่างหนักหน่วง
ช่วงท้ายของเกม เชลซีทำเกมบุกกดดันใส่แมนฯยูไนเต็ดที่ลงไปรับกันเต็มที่แบบหวาดเสียวสุด ๆ และแทบจะไม่ให้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว

พี่เบิร์บกระดกบอลสวยงาม
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟก็มายิงประตูปิดกล่องแบบสวยงาม จากจังหวะที่นานี่จ่ายบอลทะลุช่องให้กับเบอร์บาตอฟที่สอดขึ้นไปกระดกบอลข้ามหัวฮิลาร์ริโอที่พุ่งออกมาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม นำห่าง 3-1 น่าจะสดใสแล้ว



จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะเชลซีไปได้ 3-1 คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ ลีกได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แอร์ทริซิตี้ :
เอ็นริเก้ ฮิลาร์ริโอ,แอชลี่ย์ โคล(ซีคอร์ฟ น.79),จอห์น เทอร์รี่,เปาโล แฟร์เรร่า(บรูม่า น.79),บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,แฟรงค์ แลมพาร์ด,มิชาเอล เอสเซียง,ฟลอร็องต์ มาลูด้า(เบนายูน น.72),จอห์น โอบี มิเกล(ดร็อกบา น.60),นิโกลาส์ อเนลก้า(สเตอร์ริดจ์ น.60),ซาโลมอง กาลู

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,จอห์น โอเชีย,เนมันย่า วิดิช,จอนนี่ อีแวนส์,ฟาบิโอ ดา ซิลวา(สมอลลิ่ง น.71),ไมเคิ่ล คาร์ริค(กิ๊กส์ น.79),พอล สโคลส์(เฟล็ทเชอร์ น.80),ปาร์ค จี ซุง(นานี่ น.46),อันโตนิโอ วาเลนเซีย,ไมเคิ่ล โอเว่น(เฮอร์นานเดซ น.46),เวย์น รูนี่ย์(เบอร์บาตอฟ น.46)

















































 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์