ผู้เชี่ยวชาญแนะ “แข้งพรีเมียร์ลีก” รู้ติด HIV ควรรีบรักษา

ผู้เชี่ยวชาญแนะ “แข้งพรีเมียร์ลีก” รู้ติด HIV ควรรีบรักษา

ขอบคุณเนื้อหาข่าวดี ๆ








 ผู้เชี่ยวชาญชี้บรรดา 6 นักเตะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นโรคเอดส์จากการร่วมหลับนอนกับหญิงสาว ซึ่งอ้างว่าติดเชื้อ HIV มีโอกาสใช้ชีวิตได้ถึงอายุ 60-70 ปี แต่ต้องรีบมาทำการรักษาตัว














สาวนิรนามส่อแพร่เชื้อให้ 6 แข้งพรีเมียร์ฯ
       หลังมีกระแสช็อกวงการกีฬาโลก หญิงนิรนามรายหนึ่งออกมาให้ข่าวกับ “เดอะซัน” สื่อเมืองผู้ดี ว่า เธอมีเพศสัมพันธ์กับนักฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกถึง 6 ราย โดยที่เธอไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองติดเชื้อ HIV (Human immunodeficiency virus) ซึ่งนี่ไม่ใช่กรณีแรก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 1991 แมจิก จอห์นสัน อดีตนักบาส ซูเปอร์สตาร์ NBA ยอมรับว่า ติดโรคร้ายจากพฤติกรรมรักสนุก (ทางเพศ)
       
        อย่างไรก็ตาม แมจิก จอห์นสัน วัย 49 ปี ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เมื่อทีมข่าว MGR Sport โทร.สอบถามไปยัง Call Center ของคลินิกนิรนาม ก็ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ HIV “ผู้ที่ติดเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตยืนยาวได้ถึงอายุ 60-70 ปี ไม่ว่ากรณีของ แมจิก จอห์นสัน ที่เป็นนักกีฬาอาชีพมีรายได้มหาศาล หรือสามัญชนทั่วไป ส่วนสาเหตุที่ แมจิก จอห์นสัน ไม่มีลักษณะอาการเหมือนคนเป็นโรคเอดส์ น่าจะเป็นเพราะเขารู้ตัวว่าติดเชื้อ HIV ตั้งแต่ต้น (แมจิก ประกาศเป็นเอดส์ก่อนอำลาวงการ NBA ทันทีในวันที่ 7 พ.ย.1991) จึงเข้ารับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด”
       
        “สำหรับโรคเอดส์ คนที่รู้ตัวว่าติด HIV ตั้งแต่แรกถือว่าโชคดี เนื่องจากสามารถเข้ารับยาต้านเชื้อไวรัสเอดส์ รักษากันตั้งแต่ช่วงที่ภูมิคุ้มกันยังไม่น้อยเกินไป เพราะถ้ามารู้ตัวว่าเป็นตอนอาการออกแล้วสัก 3-5 ปี กระบวนการดูแลรักษาจะยากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ผู้ติดเชื้อต้องทำใจยอมรับกับมัน และต้องมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคเอดส์ จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ร้ายแรงเท่ามะเร็ง ถ้ากินยาและดูแลร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงออกกำลังกายอยู่เป็นประจำก็ยังสามารถดำเนินชีวิตได้ต่อไป”














แมจิก รู้เร็วว่าตัวเองเป็นเอดส์
       เมื่อทีมข่าว MGR Sport มีคำถามว่า นักกีฬาอาชีพที่มีรายได้สูงมีโอกาสได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ ที่มีคุณภาพ (ด้านราคา) มากกว่าสามัญชนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “ยาต้านไวรัสเอดส์ หลักๆ มีด้วยการสามชุด ปกติที่ผู้ติดเชื้อของไทยจะกินยาตกประมาณชุดละ 1,200-2,000 บาท ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนอยู่ ถ้าผู้ติดเชื้อกินแล้วมีผลข้างเคียงแพทย์ก็ต้องเปลี่ยนยาชุดใหม่ให้ตามความเหมาะสม ไม่ว่ายาชุดนั้นตกเดือนละ 6 พันหรือหลักหมื่น ส่วนกรณีของ แมจิก จอห์นสัน ก็ต้องได้รับยาที่เหมาะสมเช่นกัน คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาต้องดูว่ายาชุดนั้นมีผลข้างเคียงหรือไม่มากกว่า”
       
        “โดยยาต้านไวรัสเอดส์ ปกติแล้วผู้ป่วยจะกินวันละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่ก็เช้า-เย็น ยาเม็ดหนึ่งจะมีฤทธิ์เข้าไปอยู่ในกระแสเลือดนาน 12 ชั่วโมง กินสองครั้งก็หมุนเวียนอยู่ในเลือดตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ตรงนี้ผู้ติดเชื้อต้องมีวินัยในการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากขาดยาไปจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันลดลง มีโอกาสเจอโรคอื่นแทรกซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคเอดส์จะเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนในภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง”
       
        สุดท้าย เจ้าหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนักเตะพรีเมียร์ลีก 6 รายติดเชื้อ HIV “อย่างที่บอกไปว่าถ้ารู้ตัวว่าติดเชื้อต้องทำใจยอมรับให้ได้ เพื่อรีบเข้ารับการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ จริงๆ แล้วนักกีฬาอาชีพมีโอกาสใช้ชีวิตได้นานกว่าคนธรรมดาที่ติดเชื้อ HIV เนื่องจากพวกนี้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายคือสิ่งสำคัญสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อร้ายได้ นอกจากกินยาตามปกติแล้ว แต่ถ้ามารู้ภายหลังว่าเป็นเอดส์และยังมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศก็มีโอกาสแพร่เชื้อมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าเป็นห่วงเนื่องจากปัจจุบันผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่น อายุเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้น”

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์