ผีไล่ตีลียงหืด1-1,ปืน0-0บาร์ซ่าพลิกเฮ!3-2ชปล.

ผีไล่ตีลียงหืด1-1,ปืน0-0บาร์ซ่าพลิกเฮ!3-2ชปล.

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กู้สถานการณ์ในการกลับไปเล่นนัดสองในบ้านตัวให้ง่ายขึ้น เมื่อบุกไปตีเสมอ โอลิมปิก ลียง ได้อย่างหวุดหวิด 1-1 ขณะที่ อาร์เซน่อล กินกันไม่ลงเสมอกับ เอซี มิลาน 0-0 ส่วน บาร์เซโลน่า หวิดเจ๊งเมื่อโดน กลาสโกว์ เซลติก ขึ้นนำถึงสองครั้งก่อน บาร์ซ่า จะพลิกกลับมาเก็บชัยได้เฉียดฉิว 3-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ฤดูกาล 2007/08)


(วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551)



โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 1 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1


สนาม:สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ (ลียง, ฝรั่งเศส)


โอลิมปิก ลียง แชมป์ลีก เอิง 6 ปีซ้อนของฝรั่งเศส เปิดบ้านปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมจากพรีเมียร์ ลีกของอังกฤษ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เกมนี้ อแล็ง แปร์แร็ง เทรเนอร์ลียงส่ง ฟร็องซัวส์ แกลร์ก แบ็กขวามาเล่นมิดฟิลด์ฝั่งขวา ทางซ้ายเป็น ซิดเน่ย์ โกวู และ คาริม เบนเซม่า สวมบทบาทกองหน้าตัวเป้า โดยมี จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ จอมปั่นฟรีคิกชาวบราซิเลียนและกัปตันทีมเป็นตัวหลักแดนกลาง ส่วน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์นำทีม และเป็นการลงเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปนัดที่ 100 ของไรอัน กิ๊กส์ อีกด้วย
ครึ่งแรก เพียงนาทีที่ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทักทายก่อนทันที เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ยิง แต่บอลไปติด ฌอง-อแล็ง บูมซง เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติฝรั่งเศสของลียเตะทิ้งออกไปได้ และนาทีที่ 6 เป็นโอกาสของลียง เมื่อ คาริม เบนเซม่า ทำชิ่งกับ ฟาบิโอ กรอสโซ่ ก่อนเปิดเข้ากลางให้ ซิดเน่ย์ โกวูยิงในกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไป
ทั้งสองทีมต่างมีจังหวะในการเปิดเกมรุก เมื่อ ฟร็องซัวส์ แกลร์ก ผ่านบอลแม่นยำให้ ซิดเน่ย์ โกวู ยิงข้ามคานนาที 19 และอีกสามนาทีต่อมา เฌเรมี่ ตูลาล็อง ยิงบอลเต็มเท้า ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟผีแดงเตะสกัด เกือบพลาดทำเข้าประตูตัวเอง
นาที 23 โอกาสเป็นของแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ได้ยิงเต็มเท้า หลังจากผ่านเซบาสเตียง สกิลลาซี่ มาได้ แต่เกรกอรี่ กูเป้ต์ ผู้รักษาประตูทีมชาาติฝรั่งเศสวิ่งออกจากเส้นประตู ออกมาบล็อกได้ทันเวลา
ลียงเกือบได้ประตูขึ้นนำ นาที 24 ฟร็องซัวส์ แกลร์กทำทางแม่นยำให้ คาริม เบนเซม่า ผู้นำดาวซัลโวลีก เอิงซัดข้ามคานอย่างหวุดหวิด จากนั้นนาที 32 อองโตนี่ เรเวยแยร์ แบ็กขวาลียงโดนใบเหลือง หลังจากทำฟาวล์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้นัดที่ 2 ของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ลียงจะไปเยือนผีแดง ที่โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด เรเวยแยร์ จะติดโทษแบน
ช่วงท้ายเกมครึ่งแรก นาที 39 ลียงได้ฟรีคิกระยะไกล 25 หลานอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย จูนินโญ่ ซัดฟรีคิกข้ามคาน และอีกสามนาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ดมีลุ้นเมื่อ ซิดเน่ย์ โกวู เสียบอลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชิ่งเร็วให้ เวย์น รูนี่ย์ พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงไปติด เฌเรมี่ ตูลาล็อง สกัดออกเส้นหลังได้ทันเวลา จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
มาถึงครึ่งหลัง นาที 53 โอลิมปิก ลียงได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ เฌเรมี่ ตูลาล็อง ได้บอลก่อนจ่ายให้ คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าทีมชาติฝรั่งเศสพลิกบอล บริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนยิงด้วยเท้าซ้าย บอลชนเสาก่อนเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแก้เกม โดยเปลี่ยนตัวสำรอง 2 คนรวด นานี่ ลงมาเล่นแทน ไรอัน กิ๊กส์ และ คาร์ลอส เตเวซ แทน พอล สโคลส์ นาที 64 โดยอีกสองนาทีต่อมา ฟร็องซัวส์ แกลร์กได้ยิงในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ติด เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารผีแดง
นาที 67 โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ทำฟาวล์ คาริม เบนเซม่า ทำให้ ลียง ได้ลูกฟรีคิกระยะไกล 35 หลา ทางฝั่งซ้าย จูนินโญ่ กัปตันทีมรับหน้าที่ยิงฟรีคิก บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย และนาที 70 คาร์ลอส เตเวซ โหม่งชงให้ เวย์น รูนี่ย์ ยิงระยะเผาขนตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสิน หลุยส์ เมดิน่า คานตาเลโฆ่ ชาวสเปน ไม่ให้ได้ประตู โดยเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า
เวลาที่เหลืออยู่ ลียงเปลี่ยนผู้เล่นสำรองเช่นเดียวกัน นาที 73 จูนินโญ่ ถูกเปลี่ยนตัวออก และก็เป็น มาติเยอ บ็อดแมร์ ลงเล่นแทน โดย ซิดเน่ย์ โกวู สวมปลอกแขนกัปตันทีมแทน จูนินโญ่
เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 87 แมนยูฯกมาได้ปรตูตีเสมอ 1-1 จนได้ เมื่อ นานี่ เปิดบอลทางกราบขวาเข้ากลาง เตเวซ เทคตัวขึ้นโขกพลาดก่อนจะเป็น เฟร็ด ดีดบอลกลับมาเข้าทางเตเวซอีกครั้งซ้ำเข้าไปไม่พลาด
จากนั้นไม่สามารถยิงประตูเพิ่มกันได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตีเสมอ โอลิมปิก ลียง ได้อย่างหวุดหวิด 1-1


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โอลิมปิก ลียง : เกรกอรี่ กูเป้ต์ - อองโตนี่ เรเวยแยร์, เซบาสเตียง สกิลลาซี่, ฌอง-อแล็ง บูมซง, ฟาบิโอ กรอสโซ่ - จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ (กัปตันทีม), เฌเรมี่ ตูลาล็อง, คิม คัลล์สตรอม - ฟร็องซัวส์ แกลร์ก, ซิดเน่ย์ โกวู - คาริม เบนเซม่า
สำรอง : เรมี่ แวร์กกู้ทร์ (ผู้รักษาประตู), คริส, มาติเยอ บ็อดแมร์, เฟร็ด, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, เซซ่าร์ เดลกาโด้, อับดุล กาแดร์ เกอิต้า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิซ, ปาทริซ เอวร่า - พอล สโคลส์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, อันแดร์สัน - คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์ (กัปตันทีม) - เวย์น รูนี่ย์
สำรอง : โทมัสซ์ คุสแซ็ค (ผู้รักษาประตู), หลุยส์ ซาฮา, ไมเคิล คาร์ริค, นานี่, จอห์น โอเช, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, คาร์ลอส เตเวซ


อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 0 - เอซี มิลาน (อิตาลี) 0


สนาม:เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (ลอนดอน, อังกฤษ)


อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ ลีก เปิดบ้านปะทะ เอซี มิลาน ทีมดังแห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลีและเป็นแชมป์เก่าในรายการนี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของอาร์เซน่อลส่ง เชยี่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนกองหน้าคู่กับ เอดูอาร์โด้ โดยมี มาติเยอ ฟลามินี่ และ เชสก์ ฟาเบรกาส นำทัพแดนกลาง ส่วนคาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือมิลานส่ง ปาโต้ ดาวรุ่งทำหน้าที่หัวหอกตัวเป้า มีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง กาก้า, คลาเร้นซ์ เซดอร์ฟ
ครึ่งแรก เพียงนาทีที่ 7 โคโล ตูเร่ เซนเตอร์ฮาล์ฟอาร์เซน่อล บาดเจ็บที่หัวเข่า ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม และก็เป็น ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ถูกส่งลงมาเล่นแทน
เกมผ่านมาถึงนาที 20 อาร์เซน่อลได้ลูกเตะมุม เชสก์ ฟาเบรกาส เปิดบอลมาเข้าหัว ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ตัวสำรองโหม่งที่เสาแรกไปติด คาค่า คาลัดเซ่ กองหลังมิลานโขกทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
โอกาสเป็นของมิลาน นาที 27 มัสซิโม อ็อดโด้ ได้บอลก่อนล็อคหลบ เซนเดอรอส และจ่ายให้ กาก้า ยิงข้ามคาน จากนั้น อเลซานเดร ปาโต้ กองหน้ามิลานโดนใบเหลือง หลังจากไปผลัก บาการี่ ซาญ่า ทางด้านหลัง
เจ้าถิ่นมาได้ลูกฟรีคิก นาที 34 เมื่อ เชสก์ ฟาเบรกาสเปิดบอลให้ มาติเยอ ฟลามินี่ โหม่งที่เสาสอง ข้ามคาน โดยเวลาที่เหลืออยู่ เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า แต่ยังไม่สามารถทำประตูได้ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง อาร์เซน่อลน่าได้ประตูนาที 52 เมื่อ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ผ่านบอลเข้ามาในเขตโทษให้ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ยิงถากเสาออกไป และนาที 53 เจ้าถิ่นบุกขึ้นมาอีกครั้ง เอบูเอ้ ยิงไปติดบล็อค ก่อนบอลกระดอนมาเข้าทาง เชสก์ ฟาเบรกาส เปิดต่อให้ เชยี่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยิงที่เสาสองเข้าประตู แต่ผู้ตัดสิน เคล้าส์ โบ ลาร์เซ่น จากเดนมาร์กไม่ให้ได้ประตู โดยเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า
นาที 69 เจนนาโร่ กัตตูโซ่ จ่ายบอลให้ กาก้า เพลย์เมกเกอร์มิลานยิงถากเสาออกไป โดยหลังจากนั้น นาที 70 เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ มาติเยอ ฟลามินี่ ผ่านบอลให้ อเดบายอร์ ชิ่งต่อมาเข้าทาง เอดูอาร์โด้ ซัดข้ามคาน จบเกม อาร์เซน่อล เสมอ เอซี มิลาน 0-0


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : เยนส์ เลห์มันน์ - บาการี่ ซาญ่า, โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส (กัปตันทีม), กาแอล กลิชี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, มาติเยอ ฟลามินี่, เชสก์ ฟาเบรกาส, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ - เชยี่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
สำรอง : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู), ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, เดนิลสัน, กิลแบร์โต้ ซิลวา, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, จัสติน ฮอยต์, ธีโอ วัลค็อตต์
เอซี มิลาน :เซลจ์โก้ คาลัช - มัสซิโม อ็อดโด้, อเลสซานโดร เนสต้า, เปาโล มัลดินี่ (กัปตันทีม), คาค่า คาลัดเซ่ - เจนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเดรีย ปีร์โล่, มัสซิโม อัมโบรซินี่ - กาก้า, คลาเรนซ์ เซอร์ฟ - อเลซานเดร ปาโต้
สำรอง : วาเลริโอ ฟิออรี่ (ผู้รักษาประตู), เอเมอร์สัน, ฟิลิปโป้ อินซากี้, อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่, มาเร็ค แยนคูลอฟสกี้, ดานิเอเล่ โบเนร่า, คริสเตียน บร็อคคี่


กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์) 2 - บาร์เซโลน่า (สเปน) 3


สนาม:เซลติก พาร์ค


ไอ้ม้าลายเขียว-ขาว กลาสโกว์ เซลติก เจ้าถิ่นให้ แยน เฟนเนกูร์ ออฟ เฮสเซลิงค์ กองหน้าชาวดัตซ์ ลงล่าตาข่ายกับ สกอตต์ แม็คโดนัลด์ ส่วนแดนกลางไม่มี สกอตต์ บราวน์ ที่ติดโทษแบน เลยต้องให้ แบร์รี่ ร็อบสัน ดาวเตะตัวใหม่ลงมาเล่นแทน
ทางด้าน เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ไม่มี โบยาน เกร์กิช โดยสามประสานแนวรุกเป็น ลีโอเนล เมสซี่, เธียร์รี่ อองรี และ โรนัลดินโญ่ ส่วนรายของ ซามูแอล เอโต้ มีชื่อแค่สำรองเท่านั้น
เปิดฉากครึ่งแรกได้แค่ 9 นาที เจ้าบ้านทำเสียวก่อน เมื่อ ชุนซุเกะ นากามูระ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่น ได้โอกาสวอลเลย์บอลเหินข้ามคานไป
จากนั้น 4 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง เกร์เลส ปูโยล พาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนไหลคืนให้ โรนัลดินโญ่ ปล่อยให้ อันเดรส อิเนสต้า สอดมาตะบันเต็มเท้า เล่นเอา อาร์เธอร์ โบรุค นายทวารของเซลติก ต้องออกแรงเซฟ
อย่างไรก็ตาม ไอ้ม้าลายเขียว-ขาว มาได้ประตูออกนำจนได้ในนาทีที่ 15 จากจังหวะที่ ไอเดน แม็คเกียดี้ เปิดบอลจากซ้ายเข้ากลางโดนกองหลังบาร์ซ่า สกัดออกมาเข้าทาง ลี เนย์เลอร์ วิงแบ็คดันขึ้นมาเปิดให้กับ แยน เฟนเนกูร์ ออฟ เฮสเซลิงค์ ขึ้นโขกตุงตาข่ายงามหยดช่วยให้เซลติก นำก่อน 1-0
ทว่าแฟนเจ้าบ้านดีใจได้แค่ 2 นาที เมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ พาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนทำชิ่งกับ เดโก้ ซูซ่า ซึ่งไหลบอลคืนให้ แต่ว่ากองหลังเซลติกตามมาเคลียร์ แต่เตะไปโดน ลีโอเนล เมสซี่ ที่วิ่งตามเข้ามาบอลย้อยข้ามตัว อาร์เธอร์ โบรุค นายทวารเซลติกตุงตาข่ายให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 โรนัลดินโญ่ ดาวเตะทีมชาติบราซิลของทีมเยือน ยิงฟรีคิกไซด์โค้งบอลออกข้างไปนิดเดียว
ล่วงเข้าสู่นาทีที่ 35 เอริก อบิดัล แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส จ่ายให้กับ เธียร์รี่ อองรี กองหน้าเพื่อนร่วมชาติกระทุ้งในเขตบอลเฉียดเสาไป
เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 37 จากจังหวะที่ ไอเดน แม็คเกียดี้ เลี้ยงขึ้นมาจากจังหวะโต้กลับ ก่อนตักบอลเข้ากลางให้กับ แบร์รี่ ร็อบสัน กองกลางที่เติมขึ้นมาถอยตัวโหม่งบอลย้อยข้ามหัว บิตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่าเข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ เซลติก นำเป็น 2-1
ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 42 ลีโอเนล เมสซี่ ของบาร์ซ่า เลี้ยงหลุดเข้าไปยิงถากเสาไป หมดครึ่งแรก เซลติก นำ 2-1
เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 6 นาที ยาย่า ตูเร่ กองกลางของบาร์ซ่า ไหลบอลให้กับ ลีโอเนล เมสซี่ ยิงหลุดกรอบออกไป
นาทีต่อมา อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจอมเทคนิคของทีมเยือน พาบอลเข้าไปยิงถากเสาออกไป
อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า มาได้ประตูตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ โรนัลดินโญ่ แย่งบอลได้ในแดนกลาง ก่อนไหลขึ้นหน้าให้กับ เธียร์รี่ อองรี กองหน้าทีมชาติหลุดเข้าไปยิงเสียบใต้คานอย่างเหนือชั้นให้ทีมเยือนจากสเปน ตามมาเป็น 2-2
4 นาทีต่อมา โรนัลดินโญ่ ดาวเตะบาร์ซ่า หลุดเข้าไปยิงผ่านปากประตูออกไป
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 62 โอกาสของทีมเยือน เมื่อ เมสซี่ พลิ้วเข้าไปตะบันด้วยซ้าย เล่นเอา อาร์เธอร์ โบรุค นายทวารเซลติก ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง
สองนาทีต่อมา เจ้าบุญทุ่ม ได้ลุ้นอีกครั้ง อบิดัล เปิดบอลให้กับ เธียร์รี่ อองรี กระทุ้งเฉี่ยวกรอบออกไป
จากนั้นไม่นาน บาร์ซ่า ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 3-2 จนได้ เมื่อกองหลัง เซลติก สกัดบอลพลาดไปเข้าทาง เมสซี่ ก่อนจะคลึงบอลหลอกด้วยเท้าซ้ายแล้วจิ้มเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น
ท้ายเกมทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา บาร์ซ่า เฉือนชนะอย่างสนุก 3-2 ต้องไปวัดกันต่อในนัดสองที่ คัมป์ นู บ้านของบาร์ซ่า บ้าง


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
กลาสโกว์ เซลติก : อาร์เธอร์ โบรุค - พอล แค็ดดิส, แกรี่ คัลด์


ขอขอบคุณเนื้อข่าวจากสยามสปอร์ต


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์