ปีศาจยุคใหม่ ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไร้ โรนัลโด้ !!!!

ปีศาจยุคใหม่ ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไร้ โรนัลโด้ !!!!
 


วันนี้ได้มีโอกาสทำผลการแข่งขันคู่ กวางโจว จากจีนกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงครึ่งแรกครับ..

จริงๆสารภาพว่าพรุ่งนี้จะสอบแล้วแต่ด้วยหน้าที่และใจรักจึงขอหลบหน้าตัวหนังสือซัก 2 ชั่วโมงเพื่อมายลการแข่งขันอุ่นเครื่องทัวร์เอเชียนัดสุดท้าย..

 

มองย้อนกลับไปผลงานใน เอเชีย ทัวร์ ครั้งนี้อยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ.. เกมรุกมีทีเด็ดจากหลายจังหวะเข้าทำกันคมกริบใช้ได้.. แต่ยังมีห่วงที่เกมรับซึ่งเสียประตูกันง่ายไปโดยเฉพาะการป้องกันลูกโยนจากทางด้านข้าง..

ถ้าคิดในแง่ดีก็แฮปปี้ในมุมที่ว่า นี่มันก็แค่เกมอุ่นเครื่อง ถ้าฤดูกาลใหม่เริ่มต้นเปิดฉากหวังว่าเกมรับคงจะปิดช่องโหว่กันรัดกุมขึ้นกว่านี้...

มาเลเซียรอบแรก 3-2 , มาเลเซียรอบสอง 2-0 , เฉือนเอฟซี โซลอีก 3-2 ก่อนไล่ถล่ม กวางโจว ในนัดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา 8-2..

จาก 4 นัด ชนะรวด ยิงได้ 16 เสียไป 6 ประตู !!..

และเห็นกันโต้งๆครับว่า แค่วันนี้วันเดียว.. ยูไนเต็ดซัดไปได้ถึง ครึ่ง ของตลอดการทัวร์ทั้ง 3 ประเทศ..

หากมองแบบไม่เข้าข้างก็คือ กวางโจวแผงหลังอ่อนชั้นมาก ทั้งการคุมพื้นที่ที่หลวมโพรก.. การสกัดบอลที่ไม่เด็ดขาดเอาซะเลย.. และใจที่ฝ่อเร็วเกินไป..

ดูกันง่ายๆก็จะเห็นเลยครับว่า.. เกมมันขาดตั้งแต่วินาทีที่เบอร์บาตอฟยิงเข้าไปเป็น 2-0 แล้ว..

สำหรับกวางโจวเองก็คงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร.. อาจจะมีขายหน้าบ้างเมื่อโดนยิงจนโชกเลือดต่อหน้าประชาชีของตนเอง.. แต่นี่มันก็คือเกมอุ่นเครื่องครับ.. และก็ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ นำสิ่งที่ผิดพลาดไปปรับแก้ให้ดีขึ้น เป้าหมายก็คือ แชมป์ลีกในประเทศ และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก..

สลับฝั่งมาถกกันถึงทีมสีแดงกันบ้างครับ.. ในแผงหลังที่อ่อนยวบยาบของกวางโจว วันนี้เราได้เห็นระบบใหม่ที่เฟอร์กี้พยายามทดลองเพื่อใช้ในฤดูกาลหน้า..

อย่างแรกสุดจะเห็นว่า.. ศูนย์กลางของทีมเปลี่ยนไป ทุกคนจ่ายบอลเทงทะลุ , วิ่งทำทางกันอย่างสนุกสนาน การจากไปของ(คนนั้น..) ช่วยให้แสงสว่างส่องถึงโซรัน โทซิช และหลุยส์ นานี่.. ตอนนี้ต้นกล้าของทั้งคู่เริ่มงอกเงยให้เห็นดอกผลกันบ้างแล้ว..

นานี่.. ที่ถูกสื่อประโคมกดดันอย่างหนัก.. ไม่ลุกลี้ลุกลนเหมือนปีที่ผ่านมา.. เขากระชากบอลไปด้วยความมั่นใจมากขึ้น และฉลาดในการจ่ายบอลมากขึ้น.. เขาเริ่ม.. คล้ายๆ โรนัลโด้ตอนหลุดพ้นจากร่มเงาของรุด ฟาน นิสเตลรอยแล้วครับ.. ผมเชื่อว่านานี่กำลังมา..

 

โยกไปทางด้านซ้าย.. โซรัน โทซิชไม่ทำให้เฟอร์กี้ผิดหวัง.. ปีกซ้ายฝีเท้าดีกำลังเจิดจรัส.. โทซิชอาจเลี้ยงบอลไม่สะเด่าเท่าโรนัลโด้หรือนานี่.. แต่สิ่งที่เขามีอยู่เต็มร้อยคือลูกยิงอันหนักหน่วงและเฉียบคม(แบบที่เห็นกันในวันนี้) และลูกเปิดจากด้านข้างที่แม่นยำ..

ในแดนกลาง.. สโคลส์ทำหน้าที่ได้แค่ ประคอง และน่าจะทำได้แค่นั้นในปีสุดท้ายของชีวิตนักเตะที่กำลังจะคืบคลานเข้ามา.. สำหรับแฟนผี.. 10 เดือนต่อจากนี้พวกเขาคงขอจากสโคลส์ได้เพียงแค่.. ลูกยิงสำคัญๆซัก 3-4 ลูก.. และการคุมจังหวะเกมไม่ให้ช้าหรือเร็วเกินไปเท่านั้นเอง..

ส่วนดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ก็พัฒนาตัวเองมาจนกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้แล้ว.. ตอนนี้ทุกคนเชื่อกันทั่วโลกแล้วว่า ตาของเฟอร์กี้มองไม่ผิดจริงๆ.. เฟล็ตเชอร์มีพรสวรรค์.. และตอนนี้มันได้เวลา โชว์ของ แล้วครับ.. เขามีทั้งจังหวะการวางบอลที่แม่นยำ.. และการตัดเกมที่ทำได้เด่นกว่าเพื่อนคนอื่น.. ไม่แน่ปีหน้าอาจเป็นปีที่ดีที่สุดของ คุณปริ๊นซ์ ในอาชีพค้าแข้งก็ได้..

และที่จะพลาดไม่ได้.. กองหน้านั่นเอง...

กลยุทธ์ใหม่ของเฟอร์กี้นั่นคือการใช้เบอร์บาตอฟเป็นตัวพักบอล.. และหาจังหวะ ชง งามๆให้เพื่อนแบบเหนือชั้น เหมือนที่เขาทำให้โทซิช(ลูกที่สาม) โอเว่น(ลูกที่สี่) และนานี่(ลูกที่ห้า) ในวันนี้.. หากมองลงไปในความรู้สึกจะเห็นว่า เบิร์บ กล้าเล่นและกล้าลองมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว.. ซึ่งก็น่าจับตามองแบบน่ารักน่าลุ้นว่า.. ฤดูกาลหน้า.. เฟอร์กี้จะใช้กลยุทธ์ในเกมรุกแบบนี้จริงหรือไม่..

จริงไม่จริงไม่รู้.. แต่แผนแบบนี้มันเข้าทางไมเคิ่ล โอเว่นครับ.. หมอนี่ชอบการ ถูกชง เป็นชีวิตจิตใจ.. รอหน้าต่ำตัวใหญ่ป้อนบอลมาให้ ก่อนซัดอย่างเลือดเย็นฆ่าคู่ต่อสู้มานักต่อนักแล้ว.. ภาพแบบนี้เราคงเห็นกันชินตาตั้งแต่สมัยเบบี้โกลสวมชุด หงส์แดง ยืนหน้าคู่กับเอมิล เฮสกีย์..

แต่ความจริงอาจไม่สดใสเหมือนในฝัน.. เพราะโอเว่นก็ไม่รู้ว่าจะได้ลงซักกี่นัด.. บางทีอาจเป็นโอกาสของเวย์น รูนี่ย์ หรือเฟเดริโก้ มาเคด้า ที่อาจได้สอดแทรกขึ้นมาด้วย.. แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร.. สิ่งที่เราได้เห็นจากวันนี้ก็คือ เบิร์บ-เว่น เป็นคู่หูดูโอ้ที่เข้าขากันใช่ย่อยทีเดียวครับ !!

กำลังจะเขียนปิดบทความ.. แต่ถ้าหากไม่พูดถึงเฮียคนนี้เขาอาจจะน้อยใจ.. อุตส่าห์ทำแฮตทริกได้จะไม่พูดถึงได้ยังไง..

ก็แหม่.. คุณภาพคับแก้วอยู่แล้วนี่ครับพี่กิ๊กส์.. ทั้งจังหวะสับไกที่ยังคงไม่เปลี่ยน.. ความเยือกเย็นในการทำประตู.. จะให้ชมยังไงอีกเน้อออ...

ยังไงปีหน้า.. ก็ขอยิงแบบนี้อีกเยอะๆนะครับเฮียไรอั้น.. ถือว่าเป็นคำขอร้องจากแฟนผีแล้วกัน...

จบการห้ำหั่นทั้ง 90 นาที.. ในที่สุดเสียงนกหวีดหมดเวลาจากผู้ตัดสินหน้าตี๋ก็ดังขึ้น...

ยูไนเต็ดเสร็จสิ้นภาระกิจในดินแดนตะวันออกแล้ว.. ถึงเวลาที่จะขึ้นเครื่องกลับสู่แมนเชสเตอร์.. มาตุภูมิเดิมเพื่อเตรียมตัวสำหรับเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย.. กับ ไอ้ค้างคาว บาเลนเซีย..

ประมวลภาพทั้ง 360 นาทีในเอเชีย.. แม้จะเจอกับคู่ต่อสู้ที่อ่อนชั้นกว่า.. แต่ก็อดสรุปไม่ได้ครับว่า.. พลังแห่ง ปีศาจแดง ไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่ตัว คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เพียงแค่คนเดียว..

ณ วันนี้ พลังเหล่านั้นได้ถูกกระจายไปยังนักเตะทุกคนอย่างพร้อมเพรียงกัน.. มันเปรียบเสมือนพลัง.. ที่ช่วยให้แข้งยูไนเต็ดทุกคน เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง..

อันแดร์สัน , นานี่ , โทซิช , มาเคด้า ที่กำลังจะขึ้นมาเป็นตัวหลัก.. เบอร์บาตอฟและรูนี่ย์ กับบทบาทในเกมรุกที่มีมากขึ้น.. และโอเว่น.. ตัวแทนเบอร์ 7 ที่ไม่เหมือนเดิม.. แต่ก็เท่ในแบบที่แตกต่าง..

ยังไม่หมด.. ยูไนเต็ดยังมีมิดฟิลด์ชั้นดีอย่างอันโตนิโอ บาเลนเซีย และกาเบรียล โอแบร์ตองอีก..

แถมยังเหลือเงินให้ใช้บานอีกตั้ง 60 ล้านปอนด์..

ตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลองของมันครับ..

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ โบยบินไปหาความฝัน.. ส่วนลูกนกในรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่างก็กำลังสยายปีกและพร้อมจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอันสดใส..

ก็ยังอดขอบคุณนายไม่ได้ กับทุกสิ่งทุกอย่างใน 6 ปีที่นายให้ยูไนเต็ด..

แต่ก็อดกระซิบบอกนายไม่ได้เช่นกันว่า อย่าลืมจับตามองพวกเรานะ.. พวกเรากำลังจะดีขึ้น.. และดีขึ้น !!!


ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์