ปิซาร์โร่ขโมยซีน!ลงจ่าย+ยิงเรือถล่มปอร์โต้ 10 ตัวขาด 4-0


ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย เลกสอง 

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 

สนาม : เอติฮัด สเตเดี๊ยม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 : 0 เอฟซี ปอร์โต้ 
(แมนเชสเตอร์ ซิตี้ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 6-1) 

ประตู : 
1-0 อเกวโร่ น.1, 2-0 เชโก้ น.76, 3-0 ซิลบา น.84, 4-0 ปิซาร์โร่ น.86 

"เรือใบ" แมนเชสเตอร์ ซิตี้พกความมั่นใจลงเต็มเปี่ยมก่อนเกม เนื่องจากในเลกแรก พวกเขาไปเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 2-1 แน่นอนเลยว่าจะเล่นได้ง่ายกว่าปอร์โต้ทีมเยือนเป็นอย่างมาก 

เจ้าบ้านจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงอย่างเต็มสูบ วางซิลบา, นาสรี่และยาย่าคอยปั้นเกมกันตรงกลาง โดยมีอเกวโร่ยืนค้ำด้านหน้า 

ด้านปอร์โต้ไม่มีทางเลือก เกมนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำประตูให้ได้ก่อน เพื่อจะพลิกกลับมามีลุ้นเข้ารอบต่อไปและแน่นอนว่าความหวังของพวกเขาก็อยู่ที่กัปตันทีมฮัลค์นั่นเอง 

ครึ่งแรก 

เร็วเว่อร์!เรือฉวยโอกาสได้กุนยิงเฮ 
เร็วจนไม่รู้จะว่ายังไง เพราะแค่ 20 วินาที แมนฯซิตี้ก็ได้เฮกันลั่นสนาม เพราะกองหลังของปอร์โต้ดันพลาดจ่ายไปติดแบบดื้อๆ จนโดนยาย่าตัดบอลได้ ก่อนที่จะแทงทะลุช่องให้อเกวโร่หลุดพรวดเดียวเข้าไปสังหารผ่านเฉลตันอย่างเยือกเย็น "เรือใบ" นำ 1-0 รวมสองนัด 3-1 สบายใจกันเลยทีเดียว 

เรือถอยรอโต้จัดหนัก 
พอได้ประตูขึ้นนำตอนนี้แมนฯซิตี้เล่นเขี้ยวเลย เพราะพวกเขาไม่ดันขึ้นสูง ซึ่งน่าจะเป็นแผนแต่แรกอยู่แล้ว แต่นี่ยิ่งได้ผลมากขึ้นกับสกอร์ที่เป็นใจอย่างยิ่ง ต้องดูว่าปอร์โต้ที่พยายามจะทวงประตูคืน จะโดนฤทธิ์สวนกลับของทีม "เรือใบ" เข้าหรือไม่ 

ฮัลค์ซีเรียสน่าดู 
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวันนี้ฮัลค์ซีเรียสมากแค่ไหน ด้วยใจและปลอกกัปตันทีมที่อยู่บนแขนของเขา ทำให้เจ้าตัวเอาจริงในทุกจังหวะ ชี้จี้ว่าเพื่อนยิกๆในจังหวะที่ไม่ได้ดั่งใจ 

สวนคนละดอก!มีลุ้นเสียวทั้งคู่ 
นาทีที่ 17 แลกกันคนละหมัดเลยในจังหวะนี้ เริ่มจากแมนฯซิตี้ที่ยาย่าวิ่งหลุดเข้าไปดวลกับผู้รักษาประตูในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟ ก่อนที่ทีมเยือนจะมาต่อบอลกันสวยจนบาเลร่าหลุดเข้าไปได้ซัดเหน่งๆ แต่มุมออกจะแคบไปนิดหนึง เลยติดบล็อกของฮาร์ทที่คุมเอาไว้อยู่หมัด 

เกือบเพอร์เฟ็ค!กุนหลุดชิบติดคาน 
นาทีที่ 29 น่าจะเป็นประตูสุดสวยจริงๆสำหรับอเกวโร่ที่ใช้จังหวะสวนกลับของแมนฯซิตี้ ใช้หัวโหม่งบอลหนีเฮลตันที่พยายามจะออกมาบล็อกไปได้แล้ว เห็นวว่ามีกองหลังพยายามยืนบังวิถีการยิง เลยจัดการชิบโด่งแบบนิ่มๆ แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนคาน ไม่ยอมเข้าไปซะนี่ 

ปอร์โต้ยังทำอะไรไม่ได้มาก 
แม้ว่าพยายามจะเร่งเครื่องหรือใช้ความสามารถเฉพาะตัวของฮัลค์ลุยใส่แนวรับของแมนฯซิตี้เท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าปอร์โต้จะยังทำอะไรเจ้าบ้านไม่ค่อยได้อย่างใจคิดเลย ดูแล้วแบบนี้คงลำบากแน่ เพราะตอนนี้ครึ่งแรกเหลืออยู่แค่ 10 นาทีแล้ว 

กุนจ่ายแรงไปนิดเดียว 
นาทีที่ 41 น่าจะเป็นจังหวะลุ้นประตูที่สองแบบเหน่งๆของแมนฯซิตี้เสียจริง ในจังหวะสวนกลับที่อเกวโร่ได้บอลเยื้องไปทางริมเส้น เห็นยาย่าเติมขึ้นมาว่างอยู่ตรงกลาง เลยจ่ายไปให้ตามระเบียบ แต่ที่ไม่เป็นระเบียบคือน้ำหนักกับทิศทางที่แรงและเผื่อไปนิด ทำให้ยาย่าต้องแต่งก่อน เลยโดนกองหลังเข้ามาแซะทัน พลาดโอกาสไปเลย 

จบ 45 นาทีแรก แฟนแมนฯซิตี้ยิ้มกันหน้าบาน เพราะทีมรักนำอยู่ 1-0 สกอร์รวมห่าง 3-1 แถมเกมก็ยังลุ้นกันไปเรื่อยๆอีกด้วย 

ครึ่งหลัง 

ปอร์โต้ปลุกใจกันมาดี 
ลงมาในครึ่งหลัง ดูเหมือนว่าพักครึ่งจะปลุกใจกันมาดีเสียจริงสำหรับปอร์โต้ เพราะพวกเขาเล่นได้เนียนตาขึ้นกว่าในครึ่งแรกเป็นอย่างมาก ถ่ายบอลกันไปมาทั่วสนามแบบไม่มีติดขัดและขึงเกมเอาไว้ได้ต่อเนื่องเลย 

เฮเก้อ!ฮัลค์ดันล้ำหน้าก่อน 
นาทีที่ 57 เฮเก้อกันไปเลยสำหรับแฟนบอลทีมเยือน เมื่อโรดริเกซตามซ้ำดาบสองส่งบอลเข้าประตูไปได้ แต่ไลน์แมนตีธงล้ำหน้า เพราะจังหวะแรกฮัลค์ที่พยายามจะแหย่เท้าสะกิดบอลที่เพื่อนจ่ายมาจากด้านข้าง ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอยู่แล้ว 

เรือส่งมิลเนอร์แทนแบร์รี่ 
อีกหนึ่งนาทีต่อมา อาจจะเพราะเห็นเงียบๆไปหรือไม่ก็ปรับตามแท็คติกสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ถอดเอาแบร์รี่ออกไปและส่งมิลเนอร์ลงมาเล่นแทน 

เสียว!โอทาเมนดี้ลงไปดิ้นหลังเจอเตะ 
นาทีที่ 62 แอบลุ้นเสียวกันทั่วสนามเลย เมื่อโอทาเมนดี้พยายามจะเข้าโหม่งสกัดบอลหน้าประตู แต่ดันไปโดนสตั๊ดของไมค่อนเพื่อนร่วมทีมที่เตะสูงเข้าจังเบอร์จนลงไปนอนดิ้นกับพื้นและทีมแพทย์ต้องรีบลงไปช่วยทันที 

หลังจากปฐมพยาบาลกันสักพัก เขาก็ลุกขึ้นมาได้ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกไป เพราะมีแผลแตกและเล่นต่อไม่ไหว 

เรือถอดนาสรี่-ให้เชโก้ลง 
นาทีที่ 69 คงเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่มีมาตั้งแต่ต้นเกม ทำให้นาสรี่ดูจะหายๆไป แมนฯซิตี้เลยจัดการเปลี่ยนเอาเชโก้ลงไปเล่นแทน ดูแล้วน่าจะมีการปรับแทคติคเพื่อใช้ความสูงใหญ่ของหัวหอกรายนี้ให้เป็นประโยชน์ด้วย 

ทีมเยือนยังเหมือนเดิม 
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แม้ว่าจะได้ครองบอลเพิ่มขึ้นมาและมีจังหวะทะลุบ้างนิดหน่อย จากฝีเท้าของฮัลค์ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะไหนที่ใกล้เคียงความสำเร็จในการจะทำประตูให้ได้เลย 

งี้ก็จบ!เชโก้ซัดนิ่มไม่มีเหลือ 
นาทีที่ 76 แบบนี้ก็ไม่ต่างจากเกมจบลงเลย เมื่อแมนฯซิตี้มาได้ประตูที่สอง ในจังหวะที่อเกวโร่ได้บอล ลากจี้เข้าหากองหลัง ก่อนที่เชโก้จะวิ่งทำทางให้หัวหอกอาร์เจนไตน์แทงบอลทะลุไปให้ยิงผ่านเฮลตันแบบนิ่มๆ "เรือใบ" ทิ้ง 2-0 สกอร์รวม 4-1 สบายใจ 

โดนไรแว๊!?โรแลนโด้โดนแดง 
จากจังหวะได้ประตูของเชโก้ ไปๆมาๆกลายเป็นว่าโรแลนโด้มาโดนใบเหลืองที่สอง จนทำให้เขาถูกไล่ออกจากสนาม ซึ่งยังไม่แน่ว่าเขาโดนข้อหาอะไร แต่ที่แน่ๆคือเจ้าตัวบ่นไม่หยุดเลยระหว่างทางที่เดินออกจากสนาม 

เละเลยจ้า!เรือใบซ้ำประตูสาม 
นาทีที่ 84 พลาดกันนิดเดียวถึงกับเละเลยสำหรับปอร์โต้ เมื่อไปโดนริชาร์ดส์กดดันแล้วเสียบอล จนปิซาร์โร่ทำชิ่งบอลกับเชโก้ ก่อนที่จะจ่ายถวายพานเข้ากลางให้กับซิลบาได้แปโล่งๆไม่เหลือ แมนฯซิตี้ถล่ม 3-0 

ขโมยซีน!ปิซาร์โร่เปิดซิงจ้า 
อีก 2 นาทีต่อมา มาแบบนี้เรียกว่าขโมยซีนเพื่อนชัดๆเลยสำหรับปิซาร์โร่ที่เพิ่งจะจ่ายให้เพื่อนไป ก็มาทำประตูได้ ในจังหวะเก็บตกบอลที่กระฉอกออกมาเข้าทางเขาแตะเข้าในกรอบเขตโทษแล้วยิงสวนเฮลตันเข้าประตูไปอย่างเฉียบ แมนฯซิตี้ไล่อัดแชมป์เก่าถึง 4-0 เข้าให้แล้ว 

ช่วงท้ายเกมฮาร์ทมีจังหวะได้โชว์เซฟแบบจังๆไม่ยอมเสียคลีนชีทไปหนึ่งดอก ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ถล่มเอาชนะปอร์โต้ไปแบบหล่อสุดๆด้วยสกอร์ 4-0 เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 
โจ ฮาร์ท 6.0, โจเลี่ยน เลสค็อตต์ 6.0, แวนซองต์ กอมปานี 7.0, กาแอล กลิชี่ 5.5, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ 6.0, แกเร็ธ แบร์รี่ 5.5 (มิลเนอร์ น.58 6.0), ไนเจล เดอ ยอง 6.0, ซาเมียร์ นาสรี่ 5.5 (เชโก้ น.69 6.5), ดาวิด ซิลบา 7.0, ยาย่า ตูเร่ 7.0, แซร์คิโอ้ อเกวโร่ 7.5* (ปิซาร์โร่ น.80 7.0) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : คอสเทล ปันติลิมง, ปาโบล ซาบาเลต้า, สเตฟาน ซาวิช, มาริโอ บาโลเตลลี่ 

เอฟซี ปอร์โต้ : เฮลตัน 6.0, นิโกลาส์ โอทาเมนดี้ 4.0 (โรดริเกซ น.63 5.5), ไมค่อน 5.5, โรแลนโด้ 4.0, อเล็กซ์ ซานโดร 5.0, เจา มูตินโญ่ 6.5, ลูโช่ กอนซาเลซ 5.5, เจมส์ โรดริเกซ 5.5 (เดฟูร์ น.81 -), เฟร์นานโด 6.0, บาเรล่า 5.0 (ซาปูนารู น.63 5.0), ฮัลค์ 6.0 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ราฟาเอล บราซาลี่, โทมัส พอดส์ตาวสกี้, แคมโปส อเบล ยาม่า, เคลเบอร์
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์