ปวีณาร้องไห้ อำลาทีมชาติ

หลังจากที่ “น้องไก่” ร้อยโทหญิงปวีณา ทองสุก นักยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย

ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรีซ ตกเป็นข่าวอำลาทีมชาติอย่างต่อเนื่อง และเจ้าตัวยังให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างคลุมเครือมาตลอด ล่าสุด เมื่อ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศ ไทย ได้จัดให้มีการแถลงข่าว “เปิดใจ ร้อยโทหญิงปวีณา ทองสุก” ซึ่งจอมพลังสาวปรากฏตัวด้วยสภาพร่างกายที่เล็กลงไปอย่างเห็นได้ชัด 

โดยปวีณากล่าวทั้งน้ำตานองหน้าตลอดการแถลง ข่าวว่า
 
ก่อนหน้านี้ตนพยายามปฏิเสธจะให้ข่าวเรื่องนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังตัดสินใจ เพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าขวา ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่กาตาร์นั้น ไม่ได้ทุเลาลงเลย จึงปรึกษากับทางสมาคมฯ เห็นว่าควรจะไปเรียนปริญญาโทต่อ และถือโอกาสพักฟื้นไปด้วยในตัว ซึ่งระหว่างที่ว่างจากการเรียนจบก็ฝึกซ้อมตลอด แต่ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น ซ้ำเมื่อพยายามเลี่ยงด้วยการถ่ายน้ำหนักไปขาซ้าย ก็ทำให้เจ็บเข่าทั้ง 2 ข้าง ประกอบกับสถิติไม่ดีขึ้นด้วย จึงปรึกษากับนางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมฯ และ พล.ต. อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษาสมาคมฯ เห็นว่าเหลือเวลาอีกแค่ 100 กว่าวันก่อนจะส่งรายชื่อเพื่อไปโอลิมปิกเท่านั้น เราคงจะกลับมาไม่ทันแล้ว ถามว่าอยากไปโอลิมปิกเกมส์เป็นสมัยที่ 2 หรือไม่ อยากไปแน่นอน แต่เมื่อร่างกายไม่พร้อมก็ควรจะเปิดทางให้รุ่นน้องได้ทำหน้าที่แทน 


ส่วนข้อถามว่า ตัดสินใจนานหรือไม่ก่อนที่จะเลิกเล่น ปวีณากล่าวว่า
 
นอกจากปรึกษากับสมาคมฯ แล้วก็ปรึกษากับแม่ตลอด ซึ่งใจจริงแม่อยากให้เลิกตั้งแต่จบโอลิมปิกเกมส์ 2004 แล้ว ซึ่งเราทำใจลำบากมาก เพราะรู้สึกผูกพันกับกีฬาชนิดนี้มานานถึง 13-14 ปี และยอมรับว่าวันนี้มาถึงเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายเลย สำหรับเป้าหมายต่อจากนี้ก็คงอยู่ในวงการต่อไป โดยขั้นต้นจะอยู่ช่วยรุ่นน้องในฐานะโค้ช และอีกงานที่สนใจคือ การเป็นผู้ตัดสินยกน้ำหนักนานาชาติ เนื่องจากเมืองไทยมีน้อย และเชื่อว่าตัวเองทำได้ ส่วนธุรกิจส่วนตัวยังไม่ได้มองไว้ เช่นเดียวกับยังไม่มีแผนสละโสด 

ขณะที่นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทยกล่าวเสริมว่า

เหตุผลที่พึ่งจะมีการแถลงข่าวการเลิกทีมชาติของปวีณา เนื่องจากเราต้องแน่ใจก่อนว่ามีนักกีฬาก้าวขึ้นมาแทน และในเวลานี้เราก็มีนักกีฬาที่พร้อมแล้ว ซึ่งนอกจากปวีณาจะเข้ามาเป็นโค้ชในอนาคต เป็นผู้ตัดสินแล้ว ตนยังอยากให้เขาเป็นกรรมการบริหารสมาคมฯ และมีตำแหน่งในสหพันธ์ นานาชาติ และเป็นทูตกีฬาของประเทศไทยด้วย ส่วนความหวังในโอลิมปิก แม้จะไม่มีปวีณา แต่ก็อย่าได้เป็นห่วง เรายังมีนักกีฬารุ่นใหม่ๆที่มีความพร้อม แต่หากจะให้บอกว่าทำได้กี่เหรียญทองคงบอกไม่ได้ แต่ยืนยันได้ ว่ามีเหรียญแน่นอน 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์