บุญศักดิ์ร่ำไห้ยกพลลาออกทีมชาติเหตุถูกสมาคมแบดฯบีบเซ็นสัญญาสปอนเซอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 12 นักแบดมินตันทีมชาติไทยนำโดย "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ, สุดเขต ประภากมล, ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ, สลักจิต พลสนะ และกลุ่มสตาฟฟ์โค้ช 4 คน ได้แก่ สมพล คูเกษมกิจ,อุดม เหลืองเพชราภรณ์, ศักดิ์ระพี ทองสาริ และ ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ แถลงประกาศลาออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติและโค้ชทีมชาติ ที่ห้องอโนมา 3 โรงแรมอโนมา เหตุรับไม่ได้ที่สมาคมบีบให้เซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ของสมาคมฯ และกำหนดรายละเอียดกันเองโดยนักกีฬาไม่มีส่วนร่วม


บุญศักดิ์ พลสนะ กล่าวว่า

เสียใจมากที่ต้องมาแถลงข่าว ทั้งที่ตนรับใช้ทีมชาติมากว่า 13 ปี ตั้งแต่สมัยเริ่มเล่นแบดฯทางครอบครัวของตนเป็นผู้สนับสนุนมาโดยตลอด จนอายุ 14 ปีคุณพ่อก็ใช้ทุนส่วนตัวส่งไปฝึกที่ประเทศจีน จนต่อมาคุณพ่อก็มาเสียชีวิตไปทำให้ช่วงนั้นตนรู้สึกสับสนมากแต่ต้องเติมความฝันของท่านให้สำเร็จ เสียสละจนครอบครัวแทบไม่เหลืออะไรเลยแต่ก็ต้องสู้ต่อแม้ว่าจะไม่รู้ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ จนมาติดทีมชาติเมื่ออายุ 16 ปีเข้ามาอยู่ที่สมาคมเตรียมแข่งเอเชียนเกมส์ ที่กรุงเทพฯ มีเงินเดือนจากการเก็บตัวเพียง 6 เดือนจากนั้นก็ต้องดูแลตนเองโดยตลอด พอมีชื่อเสียงขึ้นมาก็ต้องหาสปอนเซอร์เองมาตลอดจนปัจจุบัน

ก่อนที่จะมาเกิดปัญหาสัญญา ทีมคอนแทคส์  ที่นักกีฬาที่ให้ทางสมาคมหาผู้สนับสนุน (รวม)
 
โดยตนได้ตกลงเรื่องสัญญากับ "คัมปู" ก่อนที่ทางสมาคมจะคิดทำเรื่องนี้และยังได้พูดคุยกับนายกสมาคมแบบตัวต่อตัวมาแล้วด้วยไม่ได้เป็นอย่างที่ นายกสมาคมบอกว่าได้บอกให้รู้ก่อนแล้วว่าอย่าเพิ่งเซ็นสัญญากับรายอื่นให้รอก่อนตามที่เป็นข่าว และอีกอย่างที่ตนเสียใจและน้อยใจมากก็คือการออกเดินทางไปแข่งขันซูเปอร์ ซีรีส์ สองรายการแรกของปี ที่เกาหลีและมาเลเซีย ทางสมาคมให้ตนเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดเพียงคนเดียว ทั้งๆ ที่สมาคมยังไม่ได้เซ็นสัญญา ทีมคอนแท็คส์ เลย เพื่อนๆ คนอื่นที่ใช้อุปกรณ์ยี่ห้ออื่นทางสมาคมก็ยังคงออกค่าใช้จ่ายให้อยู่เลย ที่ต้องออกมาพูดในครั้งนี้ต่างมาด้วยความสมัครใจจริงๆ และพร้อมที่จะรับผลกระทบที่ตามมาอาจถึงขั้นที่จะต้องเลิกเล่นเลยตนก็ไม่เสียใจ"ทั้งนี้ระหว่างแถลง บุญศักดิ์ มีน้ำตาคลอเกือบตลอด


ด้านทรงพล อนุกฤตยาวรรณ นักแบดฯทีมชาติ ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับสัญญาทีมคอนแท็คส์ว่า
 
นักกีฬาอยากร่วมงานกับสมาคมอยู่แล้วแต่เกิดความไม่เชื่อมั่นขึ้นมา เพราะเดิมแจ้งว่า จะให้โค้ชและนักกีฬาเข้ารับทราบในตัวสัญญา แต่ในทางปฏิบัติตอนเจรจาสัญญานั้นทั้งทางนักกีฬาและโค้ชไม่มีใครได้รับรู้ข้อมูลอะไรเลย ว่าเป็นอย่างไรตัวเลขเท่าไหร่ มีแค่ทางนายกฯแจ้งตัวเลขมาให้ น้อยกว่าการเซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาอิสระมาก และไม่เคยชี้แจงเหตุผลว่าทำไมได้เท่านี้ แต่กลับออกหนังสือเหมือนกับกดดันนักกีฬาอิสระอย่างชัดเจน"
 

สมพล คูเกษมกิจ หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า

นายกสมาคมยํ้ากับนักกีฬาว่า สัญญาทีมคอนแท็คส์ นักกีฬาจะได้ประโยชน์เต็มที่ไม่น้อยกว่าเดิมแน่ ถึงแม้สมาคมจะเท่าทุนหรือขาดทุนบ้างก็ยังคงต้องเซ็นสัญญาต่อไป  และหากมีการเซ็นสัญญา จะเริ่มต้นในเดือน มี.ค. 53 แต่ทางสมาคมกลับเรียกเก็บค่าใช้จ่ายของนักกีฬาอิสระกับ บุญศักดิ์ ตั้งแต่ธันวาคม ปีกลาย ต้นปีที่ผ่านมาที่เกาหลีกับมาเลเซีย กลับกลายเป็น บุญศักดิ์ คนเดียวที่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด  ปัจจุบันนักกีฬาหลายคนยังคงมีสัญญากับสปอนเซอร์เดิมอยู่ ส่วนใหญ่จะเซ็นสัญญากัน 3ปี แต่ถ้าไปเซ็นสัญญา ทีมคอนแท็คส์กับสมาคมจะเป็นแบบปีต่อปี และดูผลงานทุกๆ 6 เดือนอีกด้วย 


"ปัจจุบันนักกีฬาแบดฯไทยจะมีเบี้ยเลี้ยงแค่ก่อนเข้าแข่งขัน 6 เดือนในกีฬา ซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, โอลิมปิกเกมส์  เท่านั้นไม่เคยได้รับเงินเดือนจากทางสมาคม จะมีก็แค่ช่วงที่เอสซีจีมาสนับสนุนเท่านั้น และแม้สมาคม จะเปิดโอกาสให้นักกีฬาเลือกว่าจะเซ็นสัญญากับสมาคม หรือแยกตัวเป็นอิสระแต่ตามข้อตกลงระหว่างนักกีฬากับสมาคม ข้อ 5 ก็ระบุไว้ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสมาคมอีกครั้งว่าจะให้การรับรองนักกีฬาไปแข่งขันรายการต่างๆ หรือไม่ด้วย ทำให้นักกีฬาอาจถูกบีบได้ว่าต้องเซ็นสัญญากับสมาคมเท่านั้น"
 

 นายอุดม เหลืองเพชราภรณ์ สตาฟฟ์โค้ชกล่าวถึงการที่สมาคมมีหนังสือตำหนิการทำงานของผู้ฝึกสอน โดยระบุว่า

"การที่นายกสมาคมทำหนังสือถึงโค้ชและยังส่งต่อไปยังสปอนเซอร์ ทั้งเรื่องที่บอกว่าไม่มีผลงานแต่เมื่อคุยกับสื่อมวลชนกลับพูดไปอีกอย่าง  ทั้งที่ผลงานก็เห็นกันอยู่ว่าค่อยๆ ดีขึ้น  และนายกฯชอบฟังความข้างเดียวโดยเฉพาะผู้จัดการทีมและเลขาธิการสมาคม ไม่ยอมฟังผู้ฝึกสอนและนักกีฬาแถมพูดตามอารมณ์ตนเองอีกด้วย รวมทั้งเรื่องสนับสนุนนักกีฬาที่พูดไว้มากแต่สมาคมเองกลับทำหนังสือไปขอลดเงินเบี้ยเลี้ยงแข่งขันต่างประเทศที่ทางเอสซีจี สนับสนุน จากที่ในเอเชีย 1,200 บาท ยุโรป 1,600 บาท ลดลงเหลือในเอเชีย 800 บาท ยุโรป 1,200 บาท  ทีมมาเลเซียใช้งบประมาณปีละ 200 ล้านบาท ในซีเกมส์ทำได้ 2 ทอง ส่วนไทย 20 ล้าน ทำได้ 1 ทอง  ลี ชองเหว่ย ใช้โค้ช 5 คน ส่วนไทยโค้ช 1 ต่อนักกีฬา 10 คน อย่างนี้ทางนายกฯยังมีหนังสือมาตำหนิการทำงานของโค้ชอีกหรือ บอกว่ารูปแบบการฝึกซ้อมล้าหลังอยากถามกลับว่าเคยลงมาดูบ้างหรือไม่"
 

ขณะเดียวกัน ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
 
กรณีสปอนเซอร์สมาคมได้เปิดทางเลือกให้กับนักกีฬา ซึ่งหากรายใดได้ผลตอบแทนมากกว่า ที่สมาคมจัดหาให้ก็ไม่ได้ห้าม เพียงแต่ต้องแยกเป็นอิสระ ต้องออกค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายในการแข่งขันเอง เช่นในรายของ บุญศักดิ์ พลสนะ ที่มีผู้สนับสนุนส่วนตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การที่นักกีฬาไม่เข้ามาร่วมกับสปอนเซอร์ที่สมาคมจัดหา ไม่ได้เป็นการปิดกั้นโอกาสไปแข่งขันต่างประเทศ  และตนขอรับปากว่า แม้นักกีฬาจะมีผู้สนับสนุนเฉพาะตัวและเป็นนักกีฬาอิสระ แต่สมาคมมีหน้าที่ส่งแข่งขันเหมือนเดิม จะไม่ทำเหมือนเกาหลีใต้ ที่หากไม่เซ็นสัญญากับสปอบเซอร์สมาคมแล้วจะไม่ส่งแข่ง ขอเพียงให้แจ้งความจำนงให้ชัดเจน ไม่อึมครึม  โดยตนจะให้โอกาสนักกีฬาเข้าฝึกซ้อมในวันที่ 4 ก.พ. ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป และจะให้เวลามารายงานตัวภายใน 3 วัน ซึ่งพร้อมจะส่งแข่งขัน เช่น รายการออลอิงแลนด์ที่ประเทศอังกฤษ ที่ส่งชื่อไปแล้ว แต่หากประกาศลาออกแล้วก็คงส่งไปแข่งไม่ได้ และถ้าจะลาออกก็ต้องแจ้งให้ทราบเป็นทางการไม่ใช่แถลงผ่านสื่อ
 

นายกฯ แบดมินตัน กล่าวต่อไปว่า
 
ในรายของผู้ฝึกสอนตนได้ตั้งทีมชุดใหม่ขึ้นมาแล้ว โดยมี พล.อ.ต.อุทิศ ภาคภูมิ เป็นประธานฝ่ายปฏิบัติการแข่งขันเพื่อความเป็นเลิศ และนายไตรรงค์ ลิ่มสกุล เป็นว่าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ และยังมีทีมงานมาเพิ่มอีกหลายคน สำหรับนักกีฬายืนยันว่ายังให้โอกาส แต่โค้ชได้ฟอร์มทีมใหม่แล้ว ยอมรับว่าเสียดายเด็กที่มีฝีมือ แต่ถ้าเจ้าตัวมีความประสงค์ก็เป็นสิทธิ์ของเขา สมาคมมีหน้าที่สร้างดาวรุ่งดวงใหม่ขึ้นมาทดแทน
 

"นักกีฬาไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง เพราะกรรมการบริหารมาจากสโมสรสมาชิก 100 กว่าแห่งเลือกมา ไม่ใช่นักกีฬา ต้องมีจิตสำนึก มีวุฒิภาวะ ถ้าไม่ชอบคราวหน้าเขาไม่เลือกพวกเราก็จบ เราถูกเลือกมาให้กำกับดูแลนักกีฬา ผมอยู่ในวงการมานานรู้ว่าต้องทำอย่างไร กรณีนี้ถือเป็นบทเรียนวงการกีฬาไทย ที่ปล่อยให้นักกีฬากับโค้ชใกล้ชิดจนจับกลุ่มกัน ถ้าพ้น 3 วันไม่มีการกลับมารายงานตัว ก็ต้องถอนชื่อจากรายการออลล์ อิงแลนด์ รวมทั้งวันที่ 9 ก.พ.ที่ต้องยืนยันชื่อเข้าแข่งโธมัส คัพด้วย แล้วคงต้องฟอร์มทีมกันใหม่ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์