บีญ่าซัดโทน!กระทิงเบียดฝอยทองลิ่ว 8 ทีม

ดาวิด บีญ่ายังคงรักษาฟอร์มการยิงประตูที่ร้อนแรงไว้ได้อย่างต่อเนื่อง หลังยิงประตูชัยให้สเปนเอาชนะโปรตุเกสไปได้อย่างเฉียดฉิว 1-0 ผ่านเข้าไปพบกับปารากวัยในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2553


สเปน 1 - 0 โปรตุเกส

ประตู :
1-0 ดาวิด บีญ่า น.63

'กระทิงดุ' สเปนมาด้วยขุมกำลังเต็มสูบ ใช้แผน 4-3-3 ตอร์เรสยืนหน้าเป้าโดยมีบีญ่าคอยสลับเข้าโจมตีจากด้านข้าง แดนกลางมากันครบไม่ว่าจะเป็นอลอนโซ่, ชาบี้, บุสเกตส์ และอิเนสต้า

ขณะที่ทางด้าน 'ฝอยทอง' โปรตุเกสมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้กัปตันทีมนำทัพ ใช้หน้าเป้าเป็นอัลเมด้า ในขณะที่ปีกอีกข้างเป็นซิเมา ซาโบรซ่าคอยป่วนแนวรับของฝ่ายตรงข้าม

พบกัน 32 ครั้งหลังสุด โปรตุเกสเอาชนะสเปนไปได้แค่ 5 ครั้งเท่านั้น

ครึ่งแรก

ตอร์เรสได้ลองส่อง
เริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว เฟร์นานโด ตอร์เรสก็ได้ลุ้นประตูก่อนใครเพื่อน จากจังหวะที่ลากบอลหนีกองหลังโปรตุเกสทางด้านซ้าย ก่อนที่จะปั่นด้วยขวาบอลพุ่งโค้งไปเสาสอง แต่เอดูอาร์โด้พุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทัน

เอดูอาร์โด้งานเข้าต่อเนื่อง
นาทีที่ 7 เอดูอาร์โด้ผู้รักษาประตูของโปรตุเกสต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง จากจังหวะที่ดาวิด บีญ่าเลี้ยงจี้ใส่กองหลังโปรตุเกส ก่อนที่จะกระชากซัดที่เสาแรก แต่ติดเซฟของทางเอดูอาร์โด้

ราชันอัดกันเอง
3 นาทีต่อมา เป็นไปตามการให้ข่าวของแซร์คิโอ รามอสจริง ๆ ที่ว่าไม่มีคำว่าเพื่อนในสนามแข่ง เพราะเจ้าตัวโดนเปเป้สอยร่วงจากจังหวะที่สเปนกำลังจะโต้กลับใส่โปรตุเกส

ตอร์เรสตวัดลูกสูตร
นาทีที่ 12 เฟร์นานโด ตอร์เรสได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ชาบี้ เฮร์นานเดซเปิดเตะมุมสั้นให้ตอร์เรสวิ่งมาตวัดยิงในกรอบเขตโทษ บอลลอยโค้งผ่านออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

เอดูอาร์โด้ฉุนกึกบ่นเพื่อนไม่หยุดปาก เพราะยังไม่ผ่าน 15 นาทีแรก แต่โดนส่องแบบเสียวไปหลายครั้งแล้ว

ทิอาโก้ซัดไกล-คาซิญาสเซฟสวย
นาทีที่ 20 โปรตุเกสได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ทิอาโก้ได้โอกาสยืนกางมุ้งส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แม้บอลจะไม่หนีตัวคาซิญาส แต่ก็พุ่งแรง ทำให้ต้องปัดเอาไว้ในจังหวะแรก แต่บอลไม่พ้นหน้าปากประตู และเหมือนจะโค้งเข้าประตูอีกด้วย คาซิญารีบวิ่งไปปัดเอาไว้ได้ก่อนแค่อึดใจเดียว ก่อนที่อัลเมด้าจะพุ่งเข้าไปตามซ้ำดาบสอง หวาดเสียวดีแท้

ฟรีคิกโด้จิ๋วเกือบทำพิษ
นาทีที่ 28 ลูกยิงฟรีคิกระยะไกลโฮกของคริสเตียโน่ โรนัลโด้เกือบจะทำพิษใส่เพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริดอย่างอีเคร์ คาซิญาสแล้ว จากจังหวะที่เขาส่องฟรีคิกไกล บอลพุ่งส่ายอย่างเร็ว ทำให้คาซิญาสไม่สามารถรับไว้ได้ และต้องกระแทกบอลออกมา ยังดีที่บอลไม่ไปเข้าทางผู้เล่นโปรตุเกสที่วิ่งตามจะเข้ามาซ้ำ

กระทิงเจาะยังไงก็ไม่เข้า
เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 35 สเปนที่เกมนี้ได้ครองบอลมากกว่าโปรตุเกสค่อนข้างมาก แต่ก็ยังหาวิธีเจาะเข้าไปลุ้นประตูแบบจะแจ้งไม่ได้เสียที จนต้องมีลองส่องไกลดูบ้าง แต่ก็ยังคงไม่ได้ผลเหมือนเดิม

อัลเมด้าโหม่งโดนบางเกิน
4 นาทีต่อมา โปรตุเกสน่าจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่เมเลเรสเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ อัลเมด้าได้เืทคตัวขึ้นโขกบอลเหน่ง ๆ แต่เหมือนจะโดนบางไปนิด ทำให้ทิศทางไม่พุ่งไปที่ประตู แต่ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ซิเมาเกือบได้เดี่ยว
นาทีที่ 42 เกมสวนกลับของโปรตุเกสเกือบจะเล่นงานสเปนซะแล้ว จากจังหวะที่ซิเมาวิ่งฉีกกับดักล้ำหน้าไปรับบอลในจังหวะที่กองหลังของสเปนลงกันไม่ทัน แต่ยังดีที่คาซิญาสอ่านขาด พุ่งออกไปเตะทิ้งทัน

จบ 45 นาทีแรก สเปนยังคงไม่สามารถหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูของโปรตุเกสได้ ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

กระทิงบุกเพลินเกือบโดน
นาทีที่ 53 สเปนที่ครองเกมบุกอย่างเมามันในช่วงครึ่งหลัง เกือบจะโดนสวนแล้วเศร้า จากจังหวะที่อัลเมด้าวิ่งหลุดขึ้นไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะล็อกบอลให้เข้าขวา แล้วเปิดเข้ากลาง แต่บอลไปโดนขาของปูโยล เกือบจะเข้าประตู แต่หลุดออกหลุดไปนิดเดียวเท่าั้นั้น

เปลี่ยนตัวทั้งสองทีม
นาทีที่ 58 สเปนเปลี่ยนเอาเฟร์นานโด ตอร์เรสที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออก ออกจากสนามไป โดยเอาเฟร์นานโด ญอเรนเต้ลงสนามแทน ส่วนทางโปรตุเกสเปลี่ยนเอาราอูล อัลเมด้าออกแล้วส่งตัวจี๊ดอย่างแดนนี่ลงไปเล่นแทน

เอดูอาร์โด้ซูเปอร์เซฟ
3 นาทีต่อมา ญอเรนเต้ที่เพิ่งจะลงไปได้ไม่กี่นาที ก็เกือบจะพังประตูเบิกร่องได้ จากจังหวะเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาของรามอส ให้กับญอเรนเต้ได้พุ่งโหม่งจ่อ ๆ แต่เอดูอาร์โด้ยังเซฟเอาไว้ได้แบบเฉียดฉิว

ก่อนที่บีญ่าจะได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากการเลี้ยงตัดจากฝั่งซ้ายไปปั่นบอลโค้งไปเสาสอง ผ่านมือเอดูอาร์โด้ไปแล้ว แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

บีญ่าเอาจนได้!!!
นาทีที่ 63 หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดดาวิด บีญ่าก็มาทำประตูขึ้นนำให้แก่สเปนจนได้ จากจังหวะที่สเปนต่อบอลหาช่องกัน เริ่มจากอิเนสต้าจ่ายให้ชาบี้ในเขตโทษ ก่อนที่ชาบี้จะตอกส้นจังหวะแรกไหลให้บีญ่าวิ่งมาซัดติดเซฟของเอดูอาร์โด้ แต่บีญ่ายังลุกเร็วตามไปซ้ำดาบสองบอลพุ่งกระทบคานบอลเข้าไปตุงตาข่าย สเปนออกนำไปแล้ว 1-0

รามอสเกือบบวกเม็ดสอง
นาทีที่ 70 สเปนสวนกลับได้อย่างสวยงาม ก่อนที่อิเนสต้าจะไหลบอลไปให้กับรามอสที่เติมขึ้นมา ล็อกหลบกองหลังของโปรตุเกสในจังหวะแรกในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายทันที แต่เอดูอาร์โด้พุ่งตัวปัดออกหลังไปได้ทัน

ฝอยทองเปลี่ยน 2 ตัว
2 นาทีต่อมา โปรตุเกสไม่มีทางเลือกต้องปรับแทคติกด้วยการส่งเลียดสันลงมาเล่นแทนซิเมา และเปโดร เมนเดสลงเล่นแทนเปเป้ ใช้โควต้าตัวสำรองครบ 3 คนแล้ว

ชาบี้โดนใบเหลืองแรก
นาทีที่ 74 ชาบี้ อลอนโ่ซ่โดนใบเหลืองหลังจากไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นโปรตุเกส แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือ นี่เป็นใบเหลืองแรกของนักเตะสเปน นับตั้งแต่ลงเล่นฟุตบอลโลก 2010 มา

กระทิงเน้นครองบอล
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปนเน้นการต่อบอล และครองบอลกันให้ชัวร์ เพื่อดึงและล่อให้โปรตุเกสวิ่งเข้าไล่แย่งบอล ยิ่งเวลาเหลือน้อยเท่าไร แข้งโปรตุเกสก็ยิ่งกดดันมากขึ้นเท่านั้น

จบข่าว!ฝอยทองโดนแดง
นาทีที่ 89 โปรตุเกสน่าจะต้องแพ็คกระเป๋ากลับบ้านแล้ว เพราะริคาร์โด้ คอสต้าไปโดนใบแดงไล่ออก จากจังหวะที่มือเขาไปปัดโดนหน้าของคัปเดบีล่า แม้จะดูไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ผู้ตัดสินก็ควักใบแดงไล่คอสต้าออกจากสนามไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สเปน :
อีเคร์ คาซิญาส,คาร์เลส ปูโยล,เคราร์ด ปิเก้,โจน คัปเดบีล่า,แซร์คิโอ รามอส,เซอร์จิโอ้ บุสเกตส์,ชาบี้ อลอนโซ่,ชาบี้,ดาวิด บีญ่า,เฟร์นานโด ตอร์เรส,อังเดรส อิเนสต้า

โปรตุเกส : เอดูอาร์โด้,บรูโน่ อัลเวส,ริคาร์โด อัลเวส,ฟาบิโอ โคเอนเตรา,ริคาร์โด้ คอสต้า,เปเป้,ราอูล เมเรเลส,ทิอาโก้,ซิเมา,ฮูโก้ อัลเมด้า,คริสเตียโน่ โรนัลโด้

































































_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์