โรบินโญ่ สวมบทยอดตัวสำรองเปลี่ยนลงมากดคนเดียวสองตุงช่วยปีศาจแดงดำเปิดบ้านถล่มปาร์ม่ายับ 4-0 เก็บสามแต้มรั้งจ่าฝูงต่อมี 52 คะแนน ห่างนาโปลีที่บุกต้อน หมาป่า โรม่า 0-2 สามแต้มเท่าเดิม
ฟุตบอลกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี
วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554
เอซี มิลาน 4 - 0 ปาร์ม่า
สนาม : สตาดิโอ ซาน ซิโร่
เอซี มิลาน เปิด สตาดิโอ ซาน ซิโร่ รอรับ ปาร์ม่า โดยเจ้าบ้านได้ อเลสซานโดร เนสต้า หายเจ็บกลับมาแล้ว พร้อมส่ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงล่าตาข่ายกับ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ส่วนผู้มาเยือนต้องขาด สเตฟาโน่ มอร์โรเน่ ที่ถูกพักแข้ง แต่ก็ได้ อันโตนิโอ คันเดรว่า พ้นแบน ตัวทีเด็ดอยู่ที่ เอร์นัน เครสโป และ อเมารี คาร์วัลโญ่
ผ่านมาเพียงไม่กี่วินาที คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ มีโอกาสซัดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ แต่ อันโตนิโอ มิรันเต้ ยังปัดออกหลังทัน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 8 ปีศาจแดง-ดำ มาได้ประตูไปก่อน เมื่อ อิบราฮิโมวิช ทำชิ่งจังหวะเดียวให้ เซดอร์ฟ หลุดเข้าไปแตะหลบ มิรันเต้ ก่อนจิ้มตุงตาข่าย ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 17 เจ้าถิ่นมาบวกเพิ่มได้อีกเม็ด คราวนี้เป็น เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ที่ทำชิ่งให้ คาสซาโน่ แปสวนตัว มิรันเต้ เสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม หนีห่างเป็น 2-0
มิลาน ยังครองเกมไว้ได้หมด มัสซิโม่ อ็อดโด้ วางยาวขึ้นหน้า อิบราฮิโมวิช โหม่งตั้งกลับหลังให้ คาสซาโน่ เติมเข้ามาวอลเลย์แบบไม่ต้องจับ แต่ มิรันเต้ ปัดข้ามคานออกหลังทัน
จากนั้น คาสซาโน่ เปิดข้ามแนวรับคู่แข่งให้ อิบรา พักอกเอาบอลลง ก่อนยิงไปติดเซฟ มิรันเต้ อีก จบ 45 นาทีแรก มิลาน ออกนำไปก่อน 2-0
ครึ่งหลัง จัลโล่บลู ตอบโต้เหมือนกัน เบลริม เซมายลี่ กระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ทำเอา คริสเตียน อับเบียติ ต้องเหินซูเปอร์เซฟปัดออกหลัง
อย่างไรก็ตาม พลพรรค รอสโซเนรี่ มาหนีห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 61 จากจังหวะที่ คาสซาโน่ จ่ายเข้ากลางให้ โรบินโญ่ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง แปเรียดในกรอบเขตโทษไม่เหลือ
4 นาทีต่อมา สกอร์ไหลเป็น 4-0 เมื่อ คาสซาโน่ อีกแล้ว ที่ถวายพานให้ โรบินโญ่ ซัดผ่านมือ มิรันเต้ ไม่พลาด พร้อมกับเป็นประตูที่ 2 ในเกมนี้ของเจ้าตัวด้วย
ผู้มาเยือนยังไม่ถอดใจ เซมายลี่ ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลยังไม่ผ่านมือ อับเบียติ เช่นเคย
ช่วงท้าย คาสซาโน่ จ่ายให้ อเล็กซานเดร ปาโต้ ตัวสำรอง ซัดเหินข้ามคานออกหลังไปอีก จบเกม มิลาน ถล่มเอาชนะ ปาร์ม่า 4-0 รั้งจ่าฝูงต่อไปแบบไม่มีปัญหา
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ; มัสซิโม่ อ็อดโด้, อเลสซานโดร เนสต้า, ติอาโก้ ซิลวา, ลูก้า อันโตนินี่; เจนนาโร่ กัตตูโซ่ (มาติเยอ ฟลามินี่ น.63), มาร์ค ฟาน บอมเมล, อเล็กซานเดอร์ แมร์เคิ่ล; คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ (โรบินโญ่ น.58); ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (อเล็กซานเดร ปาโต้ น.68), อันโตนิโอ คาสซาโน่
ปาร์ม่า : อันโตนิโอ มิรันเต้; คริสเตียน ซัคคาร์โด้, มัสซิโม่ ปาชี่, อเลสซานโดร ลูคาเรลลี่, มัสซิโม่ ก็อบบี้; ฟรานเชสโก้ วาเลียนี่, เบลริม เซมายลี่ (ดานิเอเล่ กัลล็อปป้า น.85), อันโตนิโอ คันเดรว่า; เซบาสเตียน โจวินโก้ (อันเจโล่ น.69); เอร์นัน เครสโป (วาเลรี่ โบยินอฟ น.69), อเมารี คาร์วัลโญ่
โรม่า 0 - 2 นาโปลี
สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก
โรม่า ทำศึกบิ๊กแมตช์ด้วยการเปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก รอรับ นาโปลี โดยเจ้าถิ่นต้องไร้ ฟิลิปป์ เม็กแซส และ นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ ที่ถูกพักแข้ง แต่ยังมี มาร์โก บอร์ริเอลโล่ กับ มีร์โก วูชินิช ลงล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือนได้ มิเคเล่ ปาซิเอนซ่า พ้นแบน พร้อมยังฝากความหวังไว้กับสามประสานแนวรุก มาเร็ค ฮัมซิค, เอเซเกล ลาเวซซี่ และ เอดิสัน คาวานี่
เริ่มเกมมา หมาป่าเหลือง-แดง มีโอกาสก่อน เมื่อ ฟาบิโอ ซิมปลิซิโอ จ่ายให้ วูชินิช หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ มอร์แกน เด ซานช์ติส ยังป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม
ผู้มาเยือนตอบโต้ได้น่ากลัว อูโก้ คัมปันญาโร่ เติมขึ้นมาทางขวา ก่อนปาดเรียดไปหน้าประตู กระนั้นกลับไม่มีใครเข้าชาร์จโดน
นาทีที่ 27 จากลูกเตะมุม ลาเวซซี่ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู ชูลิโอ แซร์โจ้ พุ่งปัดด้วยปลายมือ ก่อนจะไม่มีใครชาร์จโดน เจ้าบ้านรอดพ้นอันตรายไปหวุดหวิด
ถัดมาไม่นาน อัซซูร่า มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ วอลเตอร์ การ์กาโน่ รับหน้าที่สังหาร ยังเป็น แซร์โจ้ ที่ทุบทิ้งทัน
ท้ายครึ่งแรก ลาเวซซี่ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ ฮวน สกัดมาเข้าทาง อันเดรีย ดอสเซน่า ที่วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลโด่งข้ามคานไปอีก จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อนแบบไร้สกอร์
ครึ่งหลัง เคลาดิโอ รานิเอรี่ แก้เกมด้วยการถอด โรดริโก้ ตัดเด ออก พร้อมกับส่ง เฌเรมี่ เมเนซ ลงแทน
อย่างไรก็ตาม ผ่านมา 4 นาทีเท่านั้น นาโปลี มาได้จุดโทษ หลัง ฮัมซิค ไปถูก ฮวน สะกิดล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ทันที และเป็น คาวานี่ รับหน้าที่สังหารยิงชนเสาซ้ายมือกระเด้งไปชนเสาขวาโดยที่บอลผ่านข้ามเส้นไปแล้ว ก่อนเจ้าตัวจะตามซ้ำตุงตาข่าย ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเจ้าถิ่น แต่เชิ้ตดำไม่ว่าอะไร ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0
ลูกทีมของ วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ เกือบบวกเพิ่มได้อีกเม็ด เมื่อ ฮวน ซูนิก้า ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ปาดเข้ากลางให้ มาร์โก คาสเซ็ตติ สกัดเข้าประตูตัวเอง กระนั้นผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าแล้ว
พลพรรค จัลโล่รอสซี่ พยายามเปิดเกมบุกหวังจะทวงคืนให้ได้ นาทีที่ 75 เมเนซ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ เด ซานช์ติส แบบได้เสียว
จากนั้น ซัลวาตอเร่ อาโรนิก้า วางยาวให้ ลาเวซซี่ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปจะแตะหลบ แซร์โจ้ แต่นายทวารชาวบราซิเลียนยังใช้ขาช่วยสกัดได้ฉิวเฉียด คาวานี่ ตามซ้ำก็ข้ามคานไปไกล
ก่อนจบเกม 7 นาที ทีมเยือนมาได้ประตูตอกย้ำชัย จากจังหวะที่ เปาโล คันนาวาโร่ โยนจากฝั่งขวาให้ คาวานี่ ใช้เข่ากระแทกจ่อๆ ไม่เหลือ พร้อมกับเป็นประตูที่สองในแมตช์นี้ของเจ้าตัวด้วย จบเกม นาโปลี บุกมาชนะ โรม่า 2-0 รั้งอันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง เอซี มิลาน ทีมจ่าฝูง 3 แต้มเหมือนเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
โรม่า : ชูลิโอ แซร์โจ้; อเลอันโดร โรซี่, มาร์โก คาสเซ็ตติ, ฮวน, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่; โรดริโก้ ตัดเด (เฌเรมี่ เมเนซ น.46), ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า; ฟาบิโอ ซิมปลิซิโอ (เลอันโดร เกรโก้ น.77); มาร์โก บอร์ริเอลโล่, มีร์โก วูชินิช (ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ น.77)
นาโปลี : มอร์แกน เด ซานช์ติส; อูโก้ คัมปันญาโร่, เปาโล คันนาวาโร่, ซัลวาตอเร่ อาโรนิก้า; คริสเตียน มาจโจ้, มิเคเล่ ปาซิเอนซ่า, วอลเตอร์ การ์กาโน่, อันเดรีย ดอสเซน่า (ฮวน ซูนิก้า น.59); มาเร็ค ฮัมซิค (ฮัสซัน เย็บด้า น.74), เอเซเกล ลาเวซซี่; เอดิสัน คาวานี่ (จูเซ็ปเป้ มาสคาร่า น.85)
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
