บอลซีเกมส์ปรับทัพ ส่งอานนท์แทนธีรศิลป์บู๊กัมพูชา

บอลไทยปรับทัพ เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา แผลเก่ากำเริบ รอเช็คอาการ อาจส่ง เจ้ายัน อานนท์ สังสระน้อย แทน ไข่มุกดำ ทองสุข สัมปหังสิต กุนซือใหญ่ หวังลูกทีมไม่เสียขวัญ หลังเจอเสียงวิจารณ์ฟอร์มอย่างหนัก ขณะที่ เสธ.โต พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมย์ ออกโรงข่มบอลไทย หากเล่นได้แค่นี้เลิกหวังแชมป์

ความเคลื่อนไหวของขุนพลนักเตะทีมชาติไทยที่ประเดิมสนามฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 แบบไม่น่าประทับใจเฉือนชนะ หม่อง พม่า แค่ 3-2 โดยทีมชาติไทยมีโปรแกรมลงเตะนัดที่สอง พบ เขมร กัมพูชา ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้เวลา 18.30 น. สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 รับหน้าที่ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมาทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมเฉพาะช่วงเย็น โดยตอนแรกฝ่ายจัดการแข่งขันได้จัดโปรแกรมให้ทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมในเวลา 13.00 - 15.00 น. แต่สต๊าฟโค้ชไม่ยอมฝึกซ้อมตามกำหนดการเดิมเนื่องจากนักเตะยังพักร่างกายไม่ถึง 24 ชั่วโมงและสภาพอากาศค่อนข้างร้อน อีกทั้งทีมชาติไทยมีคิวลงแข่งขันจริงเวลา 18.30 น. ทีมจึงตัดสินใจเปลี่ยนเวลามาฝึกซ้อมเวลา 16.30 น. ที่สนาม 2 ภายในสนามเฉลิมพระเกียรติฯ

ไข่มุกดำ ทองสุข สัมปหังสิต กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมนี้คงมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดแรกเล็กน้อย สาเหตุที่ไม่อยากเปลี่ยนตัวมากเนื่องจากมีเวลาซ้อมร่วมกันน้อย ความสัมพันธ์ในทีมจึงยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยผู้เล่นที่น่าจะเปลี่ยนแน่นอนคือ ผู้รักษาประตู จะให้โอกาส ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แทนวีระ เกิดพุดซา, กองกลาง อภิภู สุนทรพนาเวศ แทนอิทธิพล พูลทรัพย์ และรอเช็คอาการเจ็บรองช้ำเท้าซ้ายของ ธีรศิลป์ แดงดา หากไม่ดี จะให้อานนท์ สังสระน้อย ลงแทน รวมไปถึงวิศรุต พันนาสี อาจต้องให้แทนที่ ณัฐพงษ์ สมณะ เพื่อเติมเกมรุกริมเส้นเต็มตัว

สำหรับผลงานนัดแรกที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น หวังว่านักเตะจะไม่เสียขวัญ ขณะเดียวกันน่าจะเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำไป ที่เราได้เห็นข้อบกพร่องในทีมเพื่อนำไปแก้ไข ซึ่งในรอบรองชนะเลิศ ตอนนี้แนวโน้มอาจได้พบเวียดนาม ที่แพ้สิงคโปร์ 1-3 แต่อย่างไรก็ตามเราไม่มีสิทธิเลือกจะเจอใคร เพราะเล่นรอบแรกจบก่อนอีกสาย ซึ่งถึงตรงนั้นเจอใครก็ได้

ทั้งนี้ผู้เล่น 11 คนแรกของไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน,แบ็คขวา จีระ เจริญสุข, คู่เซ็นเตอร์ ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ กับเกียรติประวุฒิ สายแวว, แบ็คซ้าย วิศรุต พันนาสี, กองกลาง อภิภู สุนทรพนาเวศ, อดุล หละโส, อาทิตย์ สุนทรพิธ, วุฒิชัย ทาทอง และกองหน้า ธีรเทพ วิโนทัย กับอานนท์ สังสระน้อย

ขณะที่ เสธ.โต พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมย์ ประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาฯ กล่าวถึงผลงานของทีมฟุตบอลชายไทยว่า ทีมชาติไทยยังไม่มีความเป็นอาชีพเพราะสกอร์นำห่างถึง 3-0 แต่กลับถูกพม่าไล่ยิงคืน 2 ลูก หากเล่นต่ออีก 10 นาทีอาจจะแพ้ได้เลย การออกมาวิจารณ์แบบนี้ไม่ได้ดูถูกทีมไทยแต่ได้ติดตามดูการเตรียมทีมของไทยมาตลอด หากยังเล่นได้แค่นี้คงอยากจะที่คว้าแชมป์ แต่ก็หวังว่าทีมไทยจะฮึดและเร่งฟอร์มเพิ่งเพื่อซิวแชมป์ให้ได้

ด้าน สกอตต์ โอโดแนล โค้ชชาวออสเตรเลียของกัมพูชาเปิดเผยว่า ดูฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทยแล้วถือว่าสมกับเป็นการเต็งแชมป์ การเสีย 2 ประตูของไทยเป็นเพราะการเสียสมาธิเหมือนกับกัมพูชาที่พอตีเสมออินโดนีเชียได้แล้วดันเสียสมาธิเลยต้องแพ้ไป 1-3 เกมกับไทยถือเป็นงานหนักและจะต้องพยายามเต็มที่โดยกำชับทุกคนว่าต้องมีสมาธิกับเกม เป้าหมายคือขอแบ่งแต้มเพื่อไม่เป็นบ๊วยของกลุ่ม

ส่วนความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลหญิงไทยที่ประเดิมสนามด้วยการถล่ม มาเลเชีย 6-0 และมีโปรแกรมลงสนามนัดที่ 2 พบ พม่า ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมทีมลงฝึกซ้อมช่วงเย็นที่สนามโรงเรียนอัสสัมชัญ นครราชสีมา โดย ชนะ ยอดปรางค์ กุนซือทีมสาวไทยกล่าวว่า ในวันที่ 4 ธันวาคม จะไปดูเกมระหว่างพม่ากับมาเลเชียเพื่อศึกษาเกมไว้เจอกับพม่าในรอบแรกนัดสุดท้าย เพราะทีมไทยต้องแย่งอันดับ 1 ของกลุ่มกับพม่า

หากเราเป็นที่ 1 ของกลุ่มก็น่าจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้แน่นอน เพราะอีกกลุ่มมีเวียดนามที่แข็งแกร่งแค่ทีเดียว ดังนั้นในรอบรองชนะเลิศทีมไทยจะเจอทีมที่ไม่แข็งนัก ซึ่งเกมกับพม่าจะต้องมีการปรับระบบการเล่นใหม่เพราะพม่ามีศักยภาพและเล่นในสไตล์ที่แตกต่างกับมาเลเชีย ส่วนผู้เล่น 11 คนแรกน่าจะมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่งโดยเฉพาะกองหลังที่ ปานประดับ ชินวงษ์ มีอาการเจ็บอาจต้องเอา สุกัญญา เพ็งเต็ม ลงแทน ชนะ กล่าวปิดท้าย