บทความแปล เมสซี่ นักเตะที่ดีที่สุดในปี 2010

เรื่องแรกและเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแสดงความยินดีกับลิโอเนล เมสซี่ ผู้ได้รับรางวัลฟีฟ่าบัลลงดอร์2010 นักเตะเกมรุกที่เปี่ยมพรสวรรค์มากที่สุดแห่งยุค 


พวกเราทุกคนที่โกลดอทคอมประหลาดใจอย่างมากที่ชื่อของเมสซี่ถูกประกาศที่ซูริค เนื่องจากตามประวัติศาสตร์แล้วในปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก รางวัลมักจะตกอยู่ในมือของผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมแชมป์โลก นับตั้งแต่ปี1978มีแค่สองคนที่เป็นข้อยกเว้นคือ โรมาริโอ (1994) และมาราโดน่า (1986) ทั้งสองพลาดรางวัลเนื่องจากตามกฎก่อนปี1995 รางวัลจะมอบให้แก่ผู้เล่นที่มีสัญชาติยุโรปเท่านั้น ดังนั้นการได้รางวัลในปี2010ของเมสซี่จึงกล่าวได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญของประวัติศาสตร์บัลลงดอร์

หลายเดือนก่อนคืนนี้มีประเด็นให้ถกเถียงมากมายเกี่ยวกับรางวัล หลังจากการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงในเดือนตุลาคม คาร์โล การ์กาเนส เพื่อนร่วมงานของผมกล่าวว่า “ถ้ามิลิโต้ไม่ติด1ใน23 ก็ถือว่าฟุตบอลตายแล้ว” และเมื่อรายชื่อถูกตัดเหลือ 3 คนในเดือนธันวาคม แฟนฟุตบอลทั่วโลกก็พร้อมใจกันตั้งถามว่าทำไมไม่มีชื่อ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์

การตัดชื่อทั้งสองคนออกเป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้ มิลิโต้ยิงสองลูกในนัดชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก และอีกหนึ่งลูกในนัดชิงโคป้าอิตาเลีย แถมยังคว้าทริปเปิลแชมป์ สไนจ์เดอร์ก็ได้ถ้วยเดียวกันนั้นกับอินเตอร์ เป็นผู้เล่นที่ยิงประตูสูงที่สุดในฟุตบอลโลกพร้อมกับฮอลแลนด์ที่คว้ารองแชมป์

ตอนที่ผมกำลังพิมพ์บทความนี้อยู่ หลายคนก็กำลังโศกเศร้าเสียใจที่ห้องเครื่องของทั้งสเปนและบาร์เซโลน่า ชาบีกับอินเนสต้าไม่ได้บัลลงดอร์ แต่ถ้าหากดูจากรายชื่อสามผู้เข้าชิงที่เหลือ มีเมสซี่คนเดียวที่เหมาะสมกับรางวัลนี้ ผู้ลงคะแนนทุกท่านได้ตัดสินอย่างเหมาะสมแล้ว

อันเดรส อิเนสต้าเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้รับการยกย่องมากนักของบาร์เซโลน่า เทคนิคมากมายของเขาไม่มีค่าอะไรเลย แต่ความคงเส้นคงว่าภายใต้ความกดดันทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาจะได้รางวัลนักเตะที่ดีที่สุดในปีนี้ไปครอง สำหรับอิเนสต้า ไฮท์ไลท์ของปี2010คือการทำสิ่งที่นักฟุตบอลทั้งโลกใฝ่ฝัน การยิงประตูชัยในนัดชิงฟุตบอลโลก ในขณะที่ลูกยิงของนักเตะชาวสเปนที่ยิงฮอลแลนด์ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก อาร์เยน รอบเบนกล่าวว่า มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ถ้าอิเนสต้าได้รางวัลเพียงเพราะเขายิงประตูนั้น ถ้าปัจจัยหลักของรางวัลคือการยิงประตูสำคัญในการแข่งขันรายการใหญ่ มิลิโต้ต้องเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า การที่อิเนสต้าไม่ได้บัลลังดอร์เป็นเครื่องเตือนว่าสเปนได้แชมป์โลกเพราะการเล่นเป็นทีม เราสามารถบอกได้ว่า อิเนสต้า, ชาบี, ดาบิด บีย่า, การ์เลส ปูโยล, และอิเกร์ คาซิยาสเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีมกระทิงดุ

ผมพูดเรื่องทีมชาติสเปนเป็นหลักกับอิเนสต้า เพราะในสโมสรเขาได้แค่แชมป์เดียวคือลาลีก้า และนักเตะที่ดีที่สุดของบาร์ซ่าก็คือมนุษย์ต่างดาวเมสซี่ ในความเป็นจริง อินเนสต้าเล่นเต็ม90นาทีในแค่7เกมส์ของการแข่งขันในประเทศในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฟอร์มของเขาก็ไม่ค่อยดีเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขาดูจะโชคดีไปหน่อยที่ติด 1 ใน 3 แทนที่จะเป็น สไนจ์เดอร์

อีกคนคือซาบี บางคนยกย่องให้เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้บัลลังดอร์ปีนี้? สำหรับเขา เหตุผลก็คล้ายๆกับอิเนสต้า คือเขาเป็นนักเตะที่ดีคนหนึ่งในทีมชาติสเปน ส่วนเรื่องความสำเร็จที่เขาได้กับบาร์เซน่า เขาก็ไม่ใช่นักเตะที่ดีที่สุดของบาร์เซโลน่าแน่นอน อีกประการหนึ่ง อย่างที่ผมเขียนไว้ในบทความที่แล้ว เคล็ดลับความสำเร็จของบาร์เซโลน่าคือการมีคู่หูมิดฟิลด์ที่มีความสามารถเท่าเทียมกัน ความจริงก็คือ ทั้งชาบีและอิเนสต้าต่างก็ต้องพึ่งพากันและกัน ถ้ามีรางวัลที่มอบให้นักเตะเป็นคู่ พวกเขาจะได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าหากแยกกันแล้ว พวกเขาก็ยังดีไม่พอ อย่างน้อยก็ในปีนี้

พูดอย่างยุติธรรม ซาบีควรที่จะได้รางวัลในปี2009 ตอนที่เขากำลังอยู่ ณ จุดสูงสุดของการค้าแข้ง เพราะในปี2010เขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักในระดับส่วนตัวและสโมสร(เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) อย่างไรก็ตาม รางวัลนี้ไม่ได้เป็นรางวัลไลฟ์ไทม์อวอร์ด ซึ่งเคยมอบให้เพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์บัลลังดอร์คือสแตนลีย์ แมทธิวส์ในปี 1956 ดังนั้นซาบีจึงไม่มีโอกาสมากนัก 



ดังนั้นจึงเหลือแค่เมสซี่ นักเตะเกมรุกที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในโลก ในปี 2010 เขายิงประตูไปถึง 42 ลูก แอสซิสต์อีก 14 ใน 36 เกมลาลีก้า ไม่สามารถหาคำใดมาอธิบายความสามารถในการพังประตูของนักเตะอาเจนไตน์ผู้นี้ ที่มีอายุเพียง23ปีและมีโอกาสคว้ารางวัลส่วนตัวอีกมากมาย แน่นอนว่าเขาถูกบาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์จับตายในฟุตบอลโลก แต่ในเวลาเดียวกัน เราต้องตระหนักด้วยว่า โค้ชของอาร์เจนติน่าคือมาราโดน่าผู้ไร้ความสามารถอย่างที่สุด และเราก็รู้ว่าอาร์เจนติน่าต้องพบกับจุดจบทันทีที่พวกเขาไปเจอทีมที่เน้นแทคติค

ในระดับสโมสร ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เขาก็เป็นคนแบกบาร์ซ่าที่เปราะบางและเหนื่อยล้าเข้าสู่รอบรองแชมเปี้ยนลีกและแชมป์ลาลีก้า แน่นอนเขามีตัวช่วยมากมาย แต่การเปลี่ยนตำแหน่งจากกองหน้าริมเส้นมาเป็นตัวทำประตูหลักนั้นสุดจะเรียบเนียนจนแทบจะไม่มีใครสังเกตุว่าบาร์ซ่าเล่นโดยไม่มีกองหน้าแท้จริงเกือบทุกนัดในฤดูการที่แล้ว ในสามรายชื่อสุดท้าย เขาเป็นคนเดียวที่พัฒนาความสามารถขึ้นในปีที่แล้ว และถ้าไม่มีเมสซี่เป็นฮีโร่บาร์ซ่าอาจตกอยู่ในความคลุมเครือและไม่แน่นอนซึ่งเป็นลักษณะของทีมในยุคปลายสมัยแฟรงค์ ไรจ์การ์ด

หลายๆคนรวมกระทั่งผมด้วยยังเชื่อว่าบัลลังดอร์ควรเป็นของสไนจ์เดอร์ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว และมีบางอย่างที่เราได้เรียนรู้จากการโหวตปีนี้และจากผู้เข้ารอบสุดท้ายคือ ผู้ลงคะแนนทุกท่านตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะทิ้งประวัติศาสตร์ พวกเขาไม่เลือกเพียงแค่นักเตะที่ดีที่สุดจากทีมแชมป์โลก กลับกัน พวกเขานับถือการเล่นเป็นทีมของทีมชาติสเปน และไม่ได้ยกรางวัลให้กับที่ใครที่ไหนเลย หากแต่ยกให้นักเตะที่ดีที่สุดในโลก

แล้วเราจะยังสงสัยอะไรกันอีก?

Clark Whitney



แปลโดย Pop_Beatles

www.lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์