ชาวโลกผิดหวังหลังยืมมือเรอัล มาดริดปราบเหล่าพลพรรคบาร์เซโลน่าไม่สำเร็จพ่ายคาบ้านหนแรกในฤดูกาล 2-0 จากประตูของลีโอเนล เมสซี่และเปโดรขึ้นนำเป็นจ่าฝูงเดี่ยวโดยเหลือโปรแกรมอีก 7 นัดสุดท้ายเท่านั้น
ลา ลีกา
วันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
เรอัล มาดริด 0 - 2 บาร์เซโลน่า
ประตู : 0-1 ลีโอเนล เมสซี่ น.33,0-2 เปโดร น.56
บาร์ซ่าไร้อิบรา,อิเนียสต้าสำรอง-ราชันใส่เต็มสูบ
บาร์เซโลน่าไม่เสี่ยงส่งอิเนียสต้าที่ไม่ฟิตสมบูรณ์ดีลงเล่น 11 ตัวจริง โดยให้นั่งสำรองข้างสนามเท่านั้น ส่วนในแดนหน้าก็ไม่มีสลาตัน อิบราฮิโมวิชตามคาด แต่ก็ยังมีมนุษย์ต่างดาวอย่างลีโอเนล เมสซี่อยู่ ส่วนทางเรอัล มาดริดขาดแค่กาก้า ส่วนที่เหลือฟิตพร้อมลงสนามเหมือนในเกมที่ผ่านมา
ครึ่งแรก
ปิเก้เกือบโดนเหลืองฟรี
นาทีที่ 8 เคราร์ด ปิเก้ก็ต้องมาเสียใบเหลืองไปแบบฟรี ๆ ในจังหวะที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ทำชิ่งกับกอนซาโล่ อิกวาอิน ก่อนที่กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์จะตักบอลหวังส่งให้คืนโด้จิ๋ว แต่บอลไปโดนมือปิเก้ที่กางออกชัดเจน กรรมการเป่าให้เป็นฟรีคิก และให้ใบเหลืองทันที แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
ทำให้จังหวะนี้ ผู้ตัดสินย้อนกลับมาให้เป็นฟรีคิกเพราะล้ำหน้า ทำให้ปิเก้รอดตัวไป 
ซี๊ดดดดด!เมสซี่ล้มในเขตโทษแต่เปาเฉย
นาทีที่ บาร์เซโลน่าได้ลุ้จุดโทษจากจังหวะที่เมสซี่เลี้ยงจี้เข้าในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะลากไปถึงสุดเส้นแล้วล็อคกลับหนึ่งจังหวะ ทำให้อัลบิโอลสไลด์แล้วใช้ขากัน ทำให้เมสซี่ล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
หัตถ์เมสซี่พาเหลือง
นาทีที่ 20 อยู่ดี ๆ บาร์เซโลน่าก็มาเสียใบเหลืองแรกจนได้ จากจังหวะที่เมสซี่พยายามจะรับบอลที่เพื่อนจ่ายมาให้เกิน เลยเอามือไปพักซะอย่างทำ จังหวะนี้ไม่รอดสายตาผู้ตัดสิน ที่เป่าให้เป็นฟรีคิกของทางเจ้าบ้าน ก่อนจะแจกใบเหลืองให้แก่ดาวเตะมนุษย์ต่างดาวไปตามระเบียบ
สูสีเว่อร์-โอกาสยิงแทบไม่มี
ผ่านมาจนถึงนาทีที่ 25 ในครึ่งแรก ทั้งคู่แทบจะไม่มีโอกาสยิงประตูเหน่ง ๆ ให้ได้ลุ้นสกอร์กันเลย เพราะเกมส่วนใหญ่จะอยู่ตรงกลางสนาม และพลัดกันรุกรับได้อย่างดี
ราชันเสียว!โด้จิ๋วเหมือนจะเจ็บ
นาทีที่ 29 แฟน ๆ เรอัล มาดริดได้หวาดเสียวกันพอสมควร หลังจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ดาวเตะตัวเก่งของทีมเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บที่เท้า หลังจากโดนปะทะเล็กน้อยในจังหวะที่ชิงแย่งบอลกับกองหลังของบาร์ซ่า ทำให้เกิดนกระเผลกอยู่พักหนึง
ชาบี้โอเหลืองอีกคน
ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นทางบาร์ซ่าที่โดนใบเหลืองกันแบบไม่น่าโดน โดยเป็นทางชาบี้ที่เป็นรายล่าสุด หลังไปประท้วงผู้ตัดสินในจังหวะที่เขายิงฟรีคิกไปติดแขนของอลอนโซ่ แต่ผู้ตัดสินทำเฉย
เมสซี่แผลงฤทธิ์-ซัดประตูขึ้นนำ!!!
นาทีที่ 33 มนุษย์ต่างดาวล๊โอเนล เมสซี่ก็แผลงฤทธิ์จนได่ หลังจากเขาทำชิ่งกับชาบี้ ก่อนที่มิดฟิลด์ตัวทำเกมของสเปนจะยกบอลข้ามกองหลังไปให้กับเมสซี่ หลุดไปล็อคหลบกองหลังของเรอัล มาดริดก่อนที่จะยิงสวนคาซิยาส แม้บอลจะโดนไม่เต็มเท้า แต่ก็เด้งเข้าประตูไป ทำให้บาร์ซ่าออกนำไปก่อนแล้ว 1-0
คุณชายโหม่งข้ามคาน
นาทีที่ 38 เรอัล มาดริดได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่เปิดเตะมุมเข้ามา ก่อนที่จะมีการแย่งโหม่งกันตรงกลางกรอบเขตโทษ บอลล้นมาทางอิกวาอินที่โหม่งที่เสาแรก บอลไม่ตรงกรอบ และเลยไปทางเสาสองที่มีอลอนโซ่ยืนอยู่คนเดียว แต่เจ้าตัวกลับพุ่งโหม่งข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
ปิเ้ก้พลาด-อิกวาอินได้ซัด
นาีทีที่ 41 เรอัล มาดริดได้โอกาสจากจังหวะที่เล่นฟรีคิกเร็ว เปิดยาวให้กับอิกวาอินในกรอบเขตโทษ ในจังหวะแรกปิเก้คุมอยู่ แต่กลับโดนอิกวาอินเบียดชิงจังหวะได้ ก่อนจะได้หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้าย แต่ซัดข้ามคานออกไปไกล
ราชันหมูหกกันเอง
นาทีที่ 43 เรอัล มาดริดขว้างโอกาสในการสวนกลับไปแบบง่าย ๆ หลังจากอิกวาอินได้ลากบอลผ่านครึ่งสนามมา โดยมีกองหลังบาร์ซ่าแค่ 2 8น ในขณะที่มีโรนัลโด้อยู่ทางซ้าย และมาร์เซโล่เติมมาทางขวา ก่อนจะจ่ายให้กับมาร์เซโล่แต่แบ็คชาวบราซิเลี่ยนกลับล็อคบอลแล้วเลือกเปิดให้กับโรนัลโด้แบบฝืน ๆ แทนที่จะแตะเพื่อลุยขึ้นหน้าต่อ ทำให้บอลออกข้างไป เพราะบอลย้อนหลังโด้จิ๋วไปไกล
ช่วงท้ายบาร์ซ๋าได้บุกขึ้นไปลุ้นทำประตูแต่ก็ไม่มีอะไร ทำให้จบครึ่งแรกบาร์เซโลน่าบุกมายิงขึ้นนำเรอัล มาดริดไปก่อน 1-0 จากฝีเท้าของลีโอเนล เมสซี่
ครึ่งหลัง
มาร์เซโล่ได้ซัดนอกกรอบ
นาทีที่ 51 เรอัล มาดริดก็เป็นฝ่ายได้ลุ้นประตูก่อนในครึ่งหลัง จากจังหวะที่จ่ายทำชิ่งกันได้สวยหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนบอลจะไปอยู่ที่มาร์เซโล่ที่ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษหวังให้เสียบเสาสอง แต่บัลเดสก็พุ่งไปรับไว้ได้ไม่มีพลาด 
ราชันช็อก!บาร์ซ่าสวนตูมเดียวเฮเม็ดสอง
นาทีที่ 56 เรอัล มาดริดก็ต้องช็อกตาตั้ง หลังจากในช่วงต้นครึ่งหลังได้บุกทำเกมรุกใส่บาร์เซโล่าน่าดี ๆ กลับโดนทางทีมเยือนทำเกมสวนกลับแค่ครั้งเดียวก็ได้ประตูนำห่าง จากจังหวะที่เปโดรได้บอลทะลุหลุดแผงหลังของเรอัลขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษ จากการจ่ายอันสุดยอดของชาบี้ ก่อนที่จะแปบอลโค้งสวนคาซิยาสที่ออกมาดักเข้าเสาไกลอย่างสวยงาม บาร์ซ่าออกนำห่าง 2-0 แล้ว
จังหวะนี้ทำเอากูตีที่กำลังจะถุูกเปลี่ยนตัวลงมาถึงกับทำหน้าเบื่อโลก เพราะยังไม่ทันได้ช่วยเพื่อนร่วมทีม ก็ดันมาโดนเม็ดสอง ก่อนที่เขาจะถูกเปลี่ยนลงมาเล่นแทนมาร์เซโล่
ฟาร์ทดวลเดี่ยวพลาด!
นาทีที่ 59 เรอัล มาดริดใกล้เคียงการได้ประตูตีตื้นอย่างแรง หลังฟาน เดอร์ ฟาร์ทได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้าของบาร์ซ่าไปแล้ว จากการจ่ายของกูตี แต่เจ้าที่หลุดไปดวลเดี่ยวกับบัลเดสกลับซัดไปติดเซฟง่าย ๆ ทำให้ทิ้งโอกาสสุดงามที่จะตีตื้นได้ไปโดยปริยาย
อิเนียสต้าลงสนาม
นาีทีที่ 64 บาร์ซ่าก็โชว์ความแน่นอนด้วยการส่งเอาอังเดรส อิเนียสต้ามิดฟิลด์จอมเทคนิคลงสนาม โดยเปลี่ยนลงไปแทนแม็กซ์เวล แล้วขยับเอาอัลเวสลงไปเล่นแบ็คขวาแทน
รามอสอัดเมสซี่ดื้อ ๆ
นาีทีที่ 68 เหมือนแซร์จิโอ้ รามอสจะอารมณ์ค้างจากหลาย ๆ จังหวะ ทำให้ไปหวดเอาลีโอเนล เมสซี่ที่บังบอลอยู่ตรงเส้นหลังประตูฝั่งซ้ายแบบเต็ม ๆ แต่ผู้ตัดสินยังใจดีไม่แจกใบเหลืองให้
ราอูลลงแทนฟาร์ท
ถัดมาแค่นาีทีเดียวเปเญกรินี่ก็ทนไม่ไหวจนต้องส่งราอูล กอนซาเลซลงมาเล่นแทนราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ทที่วันนี้โชว์ฟอร์มไ่ม่ออกสักเท่าไร
เมสซี่ซัดติดเซฟ
นาทีที่ 72 เมสซี่ได้ลุ้นโอกาสทำประตูอีกครั้งหนึง จากจังหวะที่เขาหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดแถว ๆ บริเวณเขตโทษ แต่ติดเซฟของคาซิยาสที่ล้มตัวปัดบอลออกหลังไปได้ทัน
เมสซี่ยิงจ่อ ๆ ติดเซฟอีกแล้ว
นาทีที่ 78 บาร์ซ่าน่าได้ประตูที่ 3 เป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่เมสซี่วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าไปรับลูกจ่ายของชาบี้ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะพักแค่จังหวะเดียว แล้วยิงก่อนบอลเตะถึงพื้น แต่คาซิยาสยังสุดยอด เซฟจังหวะนี้เอาไว้ได้
บาร์ซ่าครองบอลเพลิน
เข้าสู่ช่วง 10 oาทีสุดท้าย เหมือนทางเรอัล มาดริดจะกึ่ง ๆ ยอมรับสภาพแล้ว เพราะโดยทางบาร์เซโลน่าครองบอลดึงจังหวะเล่นกันตามถนัด ส่วนเจ้าบ้านทำได้แต่เพียงบุกขึ้นไปเป็นบางจังหวะเท่านั้น
ราอูลยิงเข้า แต่ไม่ได้
นาีทีที่ 86 เรอัล มาดริดอุตส่าได้ลุ้นประตูตีตื้นจากราอูล กอนซาเลซที่ซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว แต่กรรมการเป่าให้เป็นจังหวะแฮนด์บอลของทางเบนเซม่า ก่อนที่ราอูลจะได้ยิงในจังหวะีนี้
จบ 90 นาทีบาร์เซโลน่าสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการบุกมาเอาชนะเรอัล มาดริดได้ถึงซานติเอโก้ เบอร์นาวบิวปี 2 ติดเป็นครั้งแรก ด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้พวกเขามี 80 คะแนนแซงหน้าเรอัล มาดริดขึ้นไปเป็นจ่าฝูงลา ลีกาอย่างเต็มตัว ทิ้ง'ราชันชุดขาว'อยู่ 3 แต้ม
เรอัล มาดริด : อีเคร์ คาซิยาส,อีเซเกล การาย 
,ราอูล อัลบิโอล ,อัลวาโร่ อเบลัวร์,แซร์จิโอ้ รามอส,เฟอร์นานโด กาโก้,ชาบี้ อลอนโซ่ ,กอนซาโล่ อิกวาอิน(เบนเซม่า น.80),ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท(ราอูล น.69),มาร์เซโล่(กูตี น.56),คริสเตียโน่ โรนัลโด้
บาร์เซโลน่า : วิคตอร์ บัลเดส,กาเบรียล มิลิโต้(มาเกซ น.79),เคราร์ด ปิเก้,แม็กซ์เวล (อิเนียสต้า น.63),คาร์เลส ปูโยล,เซอร์กี้ บุสเกตส์,เซย์ดู เกอิต้า,ชาบี้ ,เปโดร,ลีโอเนล เมสซี่ ,ดาเนียล อัลเวส 
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
