ตลาดโค้งสุดท้ายบิ๊กโฟว์สุมหัวทิ้งทวน

ตลาดโค้งสุดท้ายบิ๊กโฟว์สุมหัวทิ้งทวน



ตลาดซื้อขายช่วงนี้น่าจับตามองมากกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมาครับเพราะการเจรจาระดับบิ๊กๆยังคาราคาซังอยู่หลายคนและยิ่งเข้าสู่การเคาท์ดาว์นอีก 7 วันหรือหนึ่งสัปดาห์จนถึงเดดไลน์วันจันทร์หน้าสปีดในการเจรจายิ่งทวีคูณหนักเข้าไปอีก

ผมว่าฤดูกาลนี้เป็นบุญของทางสโมสรในอังกฤษเพราะถ้าพวกเรายังจำกันได้ปกติโปรแกรมคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ลีกรอบสามเลกสองกับโปรแกรมพรีเมียร์ลีกจะนัดกันเตะกลางสัปดาห์เช่นนี้มาหลายปีแล้ว ดังจะเห็นได้จากทีมขาประจำคัดเลือกอย่างอาร์เซนอลหรือลิเวอร์พูลต้องเตะน้อยกว่าชาวบ้านประจำ

แต่บังเอิญฤดูกาลนี้พรีเมียร์นัดที่ 3 ไม่มีแมทช์มิดวีคทำให้ผู้จัดการทีมหลายคนไม่ต้องมาวุ่นกับการเตรียมทีมหรือเดินทางเพื่อจะได้มีเวลาอยู่ใกล้โทรศัพท์กับเครื่องแฟ็กซ์อย่างเต็มที่จะมีเพียงแค่ราฟาเอล เบนิเตซกับอาร์แซน เวนเกอร์เท่านั้นครับที่ต้องพะว้าพะวงกับตั๋วไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มที่จะมีพิธีการจับฉลากในวันพฤหัสที่ 28 นี้

เท่าที่ผมเช็กจากเวบยูฟ่าการจับฉลากแบ่งสายเค้าลงเวลา CET หรือยุโรป Central European Time ไว้ที่ 18.00 น. ซึ่งต้อง + 5 ชั่วโมงตรงกับบ้านเราก็ประมาณ 23.00 น. ทาง ESPN ถ่ายทอดสดเหมอนเคย

จากนั้นอีกหนึ่งวันต่อมาหรือวันศุกร์ที่ 29 ก็จะถึงคิวจับติ้วยูฟ่า คัพรอบแรกเวลาเมืองไทย 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปกติของพิธีจับฉลากที่สำนักงานใหญ่ที่สวิตเซอร์แลนด์

ในรายของหงส์แดงลิเวอร์พูลต้องบอกว่าเล่นยากครับและเดอะค็อปหลายคนคงต้องทำใจอีกซักนัดกับรูปเกมหนืดๆเล่นเพลย์เซฟเพราะพลาดเสียให้สตองดาร์ด ลีแอจเมื่อไหร่บ้านพังเมื่อนั้นครับ เค้าถึงบอกไงครับว่าเกมน็อกเอาท์ฟุตบอลยุโรปผลเสมอ 0-0 สำหรับทีมที่ต้องออกไปเยือนก่อนดูเหมือนกู้ดแต่จริงๆแล้วช่วยเพียงแค่ในแง่จิตวิทยาคือไม่แพ้แต่ความหมายมันไม่ต่างกับแพ้ 1-0 เพราะคุณก็ต้องเอาชนะในบ้านอย่างเดียวจะเสมอแบบมีสกอร์ไม่ได้ซะด้วยนี่สิ

เงื่อนไขของลีแอจจึงมีมากกว่า...สาเหตุที่ผมมองถึงประเด็นนี้เพราะได้เห็นฟอร์มของแชมป์เบลเยียมมาในเกมแรกแล้วและบอกได้คำเดียวว่าทรงบอลไม่ธรรมดาโดยเฉพาะเดคามาร์โก้ที่จะเป็นตัวชีเป็นชี้ตายให้ทีมเยือนอีกครั้ง

ประมาทแม้แต่จังหวะเดียวไม่ได้จริงๆครับ ลูกเซ็ตพีซหรือลูกเปิดจากริมเส้นเข้าเขตโทษของลีแอจค่อนข้างคมและหวังผลได้เกือบทุกลูก ถ้าราฟาอยากสร้างบาลานซ์คือรุกเอาประตูให้ได้สงสัยต้องเรียกใช้บริการฮาเวียร์ มาสเคราโน่คอยเก็บกวาดขยะหน้าบ้านไว้ก่อนแล้วล่ะครับ

แต่ในส่วนของอาร์แซน เวนเกอร์คงไม่น่ามีปัญหาเพราะนัดแรกเล่นห่วยในสภาพทีมที่ขาดตัวหลักไป 9 รายแต่เอาชนะมาได้ส่งผลทำให้เกมคืนวันพุธนี้นักเตะหลายคนคงเล่นอย่างสบายใจและจะไม่เหมือนนัดไหนๆที่เจอมาเนื่องจากเอฟซี ทเวนเต้คงหมดสิทธิ์ใช้แท็คติกส์ขึงพรืดหน้ากรอบเขตโทษตัวเองเหมือนหลายๆทีมที่มาเยือนเอมิเรสต์ สเตเดียม

ยิ่งมีสตีฟ แม็คคลาเรนอดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเป็นตัวค้ำอีกคนยิ่งหายห่วงครับ คนๆนี้เหมาะกับบทบาทมือสองให้คำปรึกษาเพื่อให้ผู้จัดการทีมตัดสินใจเป็นคนสุดท้ายมากกว่าจะเป็นผู้นำเสียเองแต่จะทำอะไรก็เชิญครับขออย่างเดียวอย่ากางร่มจิบกาแฟเหมือนในวันแพ้โครเอเชียคาบ้านที่เวมบลีย์ล่ะกัน

วกกลับมาตลาดซื้อขายกันต่อครับ....ประเด็นเจ็ดชั่วโคตรของดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟน่าจะจบลงในเร็วๆนี้ดังที่ผมเขียนไว้เมื่อวันก่อนและยิ่งบอร์ดบริหารถูกฆวนเด้ รามอสตามวีนใส่งานนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่งยิ้มเป็นคนบ้าอย่างเดียวไปแล้วจริงๆ

จริงๆแล้วเส้นทางของร็อบบี้ คีนกับเบอร์บาคล้ายๆกันแต่จบต่างกัน ทั้งคู่แสดงความชัดเจนอยากย้ายไปเล่นกับทีมใหญ่โดยรายของคีโน่รู้กันตามหน้าสื่ออยู่แล้วว่าเจ้าตัวเป็นเดอะค็อปเต็มตัว

เบอร์บาก็เหมือนกันครับอยากไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกอยากเติมความฝันให้ตัวเองกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแต่ปัญหาคือเชิงบอล+เทคนิคของหอกบัลแกเรียถีบค่าตัวให้สูงขึ้นกว่าปกติและเมื่อมีประวัติทีมอย่างบาร์เซโลน่าเกี้ยวพาราสีมาก่อนราคาจึงถูกตั้งไว้ที่ 30 ล้านปอนด์

เพราะค่าตัวที่ต่างกันของทั้งคู่ทำให้หงส์แดงชิงเช็กบิลไปก่อนดังนั้นสเปอร์สเองก็ไม่คิดว่าเบอร์บาตอฟซึ่งแสดงความเป็นมืออาชีพตั้งหน้าตั้งตาซ้อมและเงียบปากมาตลอดทั้งซัมเมอร์จะมาออกลายหอยแครงน้ำพริกเผาในสัปดาห์ที่สองของฤดูกาล

แต่ตอนนี้แฟนไก่เดือยทองมองคีนเป็นฮีโร่เพราะจากไปอย่างสมเกียรติหลังรับใช้ทีมมานาน 7 ปีส่วนเบอร์บาตอฟเพิ่งเล่นได้แค่สองฤดูกาลแต่อิดออดแสดงอาการอยากย้ายตั้งแต่ระหว่างซีซั่นที่แล้วด้วยซ้ำ

ผมเชื่อว่าถ้าบาร์เซโลน่ากำเงินเดินมาซื้อแข้งวัย 27 ปีซะตอนนี้รับรองสเปอร์สจะไม่ง้อแมนฯยูไนเต็ดและรีบขายให้ทีมจากลา ลีกาทันทีเพราะคงให้ความรู้สึกที่ดีกว่าหากจะไม่ต้องเห็นหน้าเห็นหัวเถิกๆยามที่ต้องมาพบกันในพรีเมียร์ลีกหรือมาจ๊ะเอ๋กับข่าวเฮดไลน์ตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกเช้า

นอกจากนี้ในรายของโรบินโญ่อาจลงท้ายด้วยความสุขสมหวังเช่นเดียวกับเบอร์บาตอฟด้วยมุขจิตเหม่อเหมือนกันคือไม่อยากเล่นให้เรอัล มาดริดหลังตอนแรกสงบเสงี่ยมแล้วค่อยๆให้เอเยนต์รับหน้าแทน

เมื่อคืนอาทิตย์เรอัล มาดริดโชว์สปิริตยิง 4 ประตูรวดแซงเฮทั้งๆที่เหลือ 9 ตัวคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพด้วยสกอร์รวม 6-5 เกมนั้นโรบินโญ่มีชื่อที่ม้านั่งสำรองด้วยแต่เบิร์น ชูสเตอร์ให้นั่งดูเกมตลอด 90 นาที

เป็นโอกาสอันดีที่แฟนบอลซึ่งอยู่ใกล้ซุ้มม้านั่งสำรองด้านหลังพากันตะโกนด่าpeseteroหรือไอ้หน้าเงินเพราะเชื่อว่าโรบินโญ่จ้องจะไปเชลซีเพียงเพราะได้ค่าเหนื่อยมากกว่า

สถานการณ์เหมือนกันเป๊ะครับ สภาพจิตใจไม่พร้อมลงสนามขืนทู่ซี้ส่งลงเล่นก็เสียของเสียเหลี่ยมเปล่าๆดังนั้นทั้งสเปอร์สและเรอัล มาดริดคงยื้อเต็มที่ได้แค่นี้แหละครับ

การฝืนใจผู้เล่นหรือ against player's will เปรียบเสมือนระเบิดเวลาครับ ถือเอาไว้มีแต่ตายกับตายอย่างเดียวดังนั้นแฟนยูไนเต็ดและวิลล่าที่ได้เห็นคริสติอาโน่ โรนัลโด้และแกเรธ แบร์รี่เปลี่ยนใจอยู่เล่นต่อต้องยกเครดิตให้สองผู้จัดการทีมไปเต็มๆ

ยูไนเต็ดมีเหตุผลมากมายที่จะรั้งโด้จิ๋วเพราะเอาแค่ชื่อชั้นและความสำเร็จที่รออยู่เบื้องหน้าก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ด้อยไปกว่าเรอัล มาดริด เรียกว่าที่ปีกจอมสับออกอาการเป๋+กร่างเพราะอยู่ห่างป๋าไปนานจนถูกรามอน กัลเดรอนครอบงำเช้าเย็น

ในขณะที่มาร์ติน โอนีลชักแม่น้ำทั้งห้าอีท่าไหนอันนี้ผมไม่ทราบแต่ต้องบอกว่ารั้งเฉยๆไม่มีประโยชน์ครับคุณต้องต่อสัญญากับแบร์รี่ให้ได้ก่อนถึงปีหน้า หาไม่แล้วจะเข้าตำราชนะตอนนี้แต่เจ็บตัวหนักในภายหลัง

กลับมาที่เรื่องโรบินโญ่....เพราะวันก่อนบังเอิญได้อ่านข่าวคอมเมนท์ของอาร์แซน เวนเกอร์ที่พูดถึงเชลซีแล้วน่าคิด ผมไม่รู้ว่าอันนี้ข่าวจริงหรือเปล่าแต่ขอติ๊ต่างว่าจริงไว้ก่อนคือน้าเหี่ยวแกบอกว่าเชลซีอาจลำบากเพราะมีนักเตะประเภทfirst teamเยอะเกินไปและส่งลงเล่นในแต่ละเกมได้ไม่ทุกคน

ตอนแรกซื้อเดโก้มาเพราะทำท่าจะขายแฟร็งค์ แลมพาร์ดแต่เอาเข้าจริงมิดฟิลด์หน้าใสต่อสัญญาเลยต้องเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ทีนี้มิดฟิลด์จึงแน่นปั๊กทั้งแลมพ์,เอสเซียง,เดโก้,บัลลัค,โจ โคล,มิเกล

ช่วงแรกๆคนที่นั่งสำรองอาจรอโอกาสของตัวเองแต่ถ้านานวันเข้าบุคคลิกของแต่ละคนไม่เหมือนกันการแสดงออกไม่เหมือนกัน ปัญหาตามมาแน่นอน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชลซีเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้สมัยโจเซ่ มูรินโญ่เข้ามาคุมทีมเป็นปีแรกและซื้อนักเตะระดับเทพมานับไม่ถ้วนผมก็เคยทักแบบที่เวนเกอร์อ้างถึงแต่สุดท้ายความเป็นน้ามูรวมสปิริตให้ทีมได้อย่างเหลือเชื่อ

ที่มากไปกว่านั้นคือฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ก็ดี,เวย์น บริดจ์ก็ดีหรือแม้กระทั่งคาร์โล่ คูดิชินี่ก็ดีต่างเต็มใจนั่งสำรองที่สแตมฟอร์ด บริดจ์หน้าตาเฉยโดยเฉพาะในรายของอดีตแบ็คเซาแธมป์ตันซึ่งวัยก็ใกล้ 30 แล้วและรู้ทั้งรู้ว่ามีแอชลีย์ โคลจองตำแหน่งตั้งแต่ไก่โห่ถึงกลับยอมต่อสัญญาใหม่ซะงั้น

จะว่าเพราะเงินค่าเหนื่อยก็ใช่แต่ก็การการันตีลุ้นแชมป์ทุกๆรายการของสโมสรเชลซีเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักเตะหลายคนยอมอยู่ต่อและยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโค้ชติดๆกันแบบนี้หลายคนย่อมคิดเข้าข้างตัวเองคืออาจเล่นเข้าตาอาฟรัม แกรนต์หรือหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่เกิดชอบสไตล์ที่เข้ากับแท็คติกส์พอดี บลา บลา บลา


ที่น่าเป็นห่วงกว่าเชลซีคืออาร์เซนอลของเวนเกอร์นะครับคือพวกเค้ามาเสียนักเตะตัวหลักพร้อมๆกันมากเกินไป ผลกระทบเลยออกอาการชัดเจนจนน่าเป็นห่วง ถ้าในกรณีเจอทีมที่ห่างชั้นก็ยังพอมองไม่เห็นปัญหามากนักเพราะจะยิง 1-2 ประตูคงไม่เหลือบ่ากว่าแรง

แต่แค่ทีมระดับเจอฟูแล่มซึ่งรอย ฮอดจ์สันเตรียมการบ้านวางแท็คติกส์มาดียังถึงกับใบ้กินแพ้ตั้งแต่นัดที่สองทั้งๆที่ก่อนเปิดฤดูกาลกูรูอังกฤษมองว่าปืนใหญ่โชคดีที่ในระหว่างทีมยังไม่สมบูรณ์พวกเค้าเจอกับคู่แข่งที่ไม่หนักมากไล่ตั้งแต่เวสต์บรอมฯ,ฟูแล่ม,นิวคาสเซิ่ล,แบล็คเบิร์น,โบลตัน,ฮัลล์,ซันเดอร์แลนด์,เอฟเวอร์ตันและเวสต์แฮม

อย่างไรก็ดีหลังแพ้ฟูแล่มไปแล้วจะไม่มีอะไรที่มันชัวร์ๆเหมือนมองตามหน้ากระดาษอีกแล้วครับ มิดฟิลด์ตัวใหม่ที่เวนเกอร์กำลังเร่งซื้อให้ทันเดดไลน์อาจต้องเสียเวลาปรับตัวให้เข้ากับระบบมูฟเมนท์ไม่มีหยุดแต่มีตัวให้เลือกย่อมดีกว่าขาดและเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วเงิน 12 ล้านปอนด์คงไม่มากพอจะกล่อมให้ราฟายอมปล่อยชาบี้ อลอนโซ่ออกมา

น้าเหี่ยวจึงต้องรีบฟันธงหาคำตอบให้ตัวเองว่าตกลงปีนี้ขอไว้ใจดาวรุ่ง 100 % เต็มแม็กซ์เหมือนเก่าหรือจะยอมซื้อผู้เล่นประสบการณ์เข้ามาอีกซักคนเพื่อเติมเต็มจุดที่หายไปเพื่อการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้

หรือในรายของหงส์แดงเองก็กำลังจะเร่งมือหาปีกซ้ายมาเสริมเกมทางริมเส้นซึ่งชื่อของอัลเบิร์ต ริเอร่าและสจ๊วต ดาวนิ่งกำลังกระจายไปทั่วทุกสื่อ

สองคนนี้เล่นต่างสไตล์และไม่ต้องบอกนะครับว่าแนวโน้มที่เบนิเตซจะได้มากที่สุดหากไม่ติดเรื่องค่าตัวน่าจะเป็นริเอร่าคนบ้านเดียวกันมากกว่า ใจจริงแล้วผมชอบดาวนิ่งมากกว่าเพราะเป็นประเภทใช้ได้เลยไม่ต้องรองคล้ายๆร็อบบี้ คีน

จุดดีของดาวนิ่งคือได้นักเตะที่เปิดบอลด้วยอีซ้ายตามสไตล์บอลผู้ดีรวมทั้งเลี้ยงทะลุทะลวงเป็นเส้นตรงส่วนริเอร่าที่แม้จะเคยสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ซ้ายคมไม่แพ้กันครับแต่ขึ้นชื่อว่าบอลสเปนชั้นเชิงยึกยักย่อมเป็นจุดขายอยู่แล้ว

การตัดสินใจในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายน่าจับตามองครับ มีหลายทีมที่ออกอาการpanicให้เห็นกันแล้ว สุดท้ายไอ้เรื่องเงินไม่กี่ล้านปอนด์ที่ไม่อยากเสียก็อาจต้องยอมจ่ายอยู่ดีครับ...



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์