ดาร์บี้จืด!วิลล่าเิปิดบ้านเจ๊าลูกโลกโนสกอร์

ดาร์บี้จืด!วิลล่าเิปิดบ้านเจ๊าลูกโลกโนสกอร์ 



เป็นอีกหนึ่งเกมดาร์บี้ แมตช์ที่เรียกได้ว่าไร้แรงดึงดูดใจให้แฟนบอลจับตาดูเกมเสียจริง เพราะทั้งสองทีมจากมิดแลนด์จังหวะลุ้นทำประตูน้อยด้วยกันทั้งคู่ จะมีก็แต่การเข้าบอลหนักๆที่พอให้ได้ฮือฮา แต่สุดท้ายก็เสมอกันไป 0-0 

พรีเมียร์ ลีก 

วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2553
 

แอสตัน วิลล่า 0 : 0 เบอร์มิงแฮม 

ประตู : 


ครึ่งแรก 

เดือดตั้งแต่ต้นเกม 
ผ่านไปเพียง 11 นาที มิดแลนด์ ดาร์บี้ แมตช์ก็ดุเดือดขึ้นมาทันที จากจังหวะที่ไนเจล รีโอ-โคเกอร์เก็บตกบอลได้ตรงกลางสนาม ทำให้จะสปีดทำจังหวะสวนกลับใส่เบอร์มิงแฮม ทางเคร็ก การ์ดเนอร์ก็เลยจัดการเสียบสกัดเพื่อตัดเกม เพียงแต่เหมือนจะหนักหน่วงไปหน่อย เลยทำให้โคเกอร์หัวเสียปรี่เข้าเอาเรื่องจนต้องห้ามทัพกันวุ่น ก่อนที่ฮาวเวิร์ด เว็บบ์จะแจกใบเหลืองให้กับอดีตแข้งแอสตัน วิลล่าไปตามระเบียบ 

ในช่วงต้นเกมทั้งคู่สูสีเช่นเคยเหมือนฤดูกาลก่อน เนื่องจากเป็นเกมดาร์บี้ แมตช์ก็เลยไม่มีใครยอมใคร แต่ดูเหมือนช่วงต้นทีมเยือนจะดีกว่าหน่อยๆ 

เกมทรงๆเช่นเคย 
ไม่รู้ว่าเพราะกดดัน หรือต้องการดูเชิงกันแน่ เพราะเข้าสู่นาทีที่ 20 ไปเลย จังหวะลุ้นประตูของทั้งสองทีมน้อยมากถึงมากที่สุด จะมีก็แต่โอกาสของเบอร์มิงแฮมในช่วงแรก ๆ ที่ยิงไปติดหน้าอกของทางเจมส์ คอลลินส์ในกรอบเขตโทษ ที่เหลือก็แทบไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นวู้ฮูเลย 

เกมเจ้าบ้านทื่อสุดๆ 
วันนี้เชร์ราร์ อุลิเยร์กุนซือแอสตัน วิลล่ามาในแทคติคเซฟสุด ๆ เพราะใช้เพียงแค่เอมิล เฮสกีย์ยืนหน้าเป้า จังหวะทำเกมบุกก็เลยดูจะตัดขัดไปเสียหมด เพราะเวลาเฮสกีย์โดนประกบจนต้องลงต่ำฉีกมาเอาบอล แดนหน้าก็ไม่มีใคร ต้องค่อยๆลำเลียงบอลกันใหม่อยู่ตลอด 

แม้ทางเบอร์มิงแฮมจะใช้แทคติคเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นปกติของทีมเยือนอยู่แล้วด้วย 

บิ๊กเบนเกือบสร้างงานให้เพื่อน 
ครึ่งชั่วโมงแรกของเกมพอดี เบน ฟอสเตอร์ก็เกือบจะทำเพื่อนๆที่กำลังเล่นได้ดีงานเข้า เนื่องจากเขาดันไปเตะลูกจ่ายย้อนกลับหลังมาของเพื่อนไปติดขาของไนเจล รีโอ-โคเกอร์ที่วิ่งมาบีบ ถือว่ายังทำบุญมาดีลูกบอลเด้งออกหลังไป ถ้าตรงกรอบงานนี้ได้ถูกอเล็กซ์ แม็คลิชเฉ่งยับแน่

 

ลูกโลกกดดันต่อเนื่อง 
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เป็นทางเบอร์มิงแฮมที่ทำเกมบุกขึ้นไปกดดันใส่แอสตัน วิลล่าแบบได้น้ำได้เนื้อพอสมควร ติดก็ตรงจังหวะจบที่หาไม่ได้จัง ๆ เท่านั้นเอง 

วิลล่าแทบโงหัวไม่ขึ้น-วอร์นอคเหลือง 
ช่วงท้ายครึ่งแรก แอสตัน วิลล่าเล่นได้ไม่สมกับเป็นเจ้าบ้านเพราะแทบจะไม่สามารถทำเกมขึ้นไปบุกทางทีมเยือนได้เลย และก็เป็นทางเบอร์มิงแฮมที่ทำครองบอลทำเกมบุกใส่ต่อเนื่อง อีกทั้งแดนกลางก็เด็ดขาดกว่ากันเยอะด้วย 

ด้านสตีเฟ่น วอร์นอคก็มาโดนใบเหลืองจากการเข้าไปเสียบหนักใส่ทางอเล็กซานเดอร์ คเล็บ 

จบครึ่งแรกทั้งคู่เสมอกันไป 0-0 แบบ .... เรื่อยๆละกัน 

ครึ่งหลัง 

รูปเกมยังไม่ต่างจากเดิม 
เข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็มรูปเกมถือว่าไม่ได้ต่างจากช่วงครึ่งแรกมาก คือทั้งคู่ไม่ได้มีจังหวะจะแจ้งในการรุกเข้าไปลุ้นทำประตูสักเท่าไร 

จะมีการปรับเปลี่ยนบ้างก็คือแอสตัน วิลล่าเปลี่ยนเอาสตีฟ ซิดเวลล์ออกไปแล้วส่งแบร์รี่ แบนนันลงไปเล่นแทน 

วิลล่าบุกไม่สุด 
นาทีที่ 69 แม้ว่าทางแอสตัน วิลล่าจะทำเกมรุกได้ดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งแรกหน่อย แต่เหมือนกันว่าพอถึงพื้นที่สุดท้ายแล้วความคิดสร้างสรรค์ในการทำเกมจะดูตันๆไป ทำใหเจาะแนวรับของเบอร์มิงแฮมไม่ได้ 

นึกว่าบิ๊กเบนทำเสียวอีก 
นาทีที่ 71 นึกว่าทางเบน ฟอสเตอร์จะทำให้เพื่อนต้องหัวใจสั่นระรัวอีกแล้ว จากจังหวะที่เขาลอยตัวขึ้นรับบอลที่ครอสมาจากฝั่งขวา แต่ดันทำหลุดมือก่อนหล่นตุ๊บลงพื้นจนเพื่อนต้องรีบเคลียร์บอลออกไป แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเอมิล เฮสกีย์ไปทำฟาวล์ 

ซึ่งดูจากภาพช้าแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะจังหวะลอยตัวขึ้นพร้อมกับฟอสเตอร์ เฮสกีย์ไปเอามือซ้ายผลักใส่อดีตนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนทำบอลหลุดมือไป 

เจอโรมลงแล้วได้ลุ้นเลย 
อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมา คาเมร่อน เจอโรมที่เพิ่งจะลงสนามไปแทน.... ก็เกือบจะมีส่วนให้ทีมทำประตูได้ทันที จากจังหวะที่เขาได้บอลหลุดขึ้นไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา นิโกล่าส์ ซิกิซยืนรออยู่ตรงกลางประตู แต่ลูกเปิดของเจอโรมที่ติดเซฟของทางแบร๊ด ฟรีเดลที่ดักเอาไว้แบบชิลๆ 

เกมเดือด!โคเกอร์มีเอี่ยวอีกแล้ว 
นาทีที่ 78 เกมกลับมาระอุอีกครั้ง จากจังหวะที่ไนเจล รีโอ-โคเกอร์โดนทางเคร็ก การ์ดเนอร์คู่กรณีคนเดิมไล่แซะบอลจนเจ้าตัวออกอาการหงุดหงิดโวยวายอย่างแรง ด้านการ์ดเนอร์โดนเหลืองไปแล้วเลยออกอาการมากไม่ได้ แต่เป็นแบร์รี่ เฟอร์กูสันที่เข้าไปช่วยเพื่อนร่วมทีม จนคนที่เหลือต้องเข้ามาห้ามปรามกันอุตลุต 

ทำให้จังหวะนี้ฮาวเวิร์ด เว็บบ์เรียกโคเกอร์มาพูดคุย ก่อนที่จะแจกใบเหลืองโทษฐานเป็นวัยรุ่นใจร้อน 

แบนนันยิงได้เสียว 
นาทีที่ 81 แบร์รี่ แบนนันที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังก็ได้โอกาสลุ้นประตูให้กับทางแอสตัน วิลล่า จากจังหวะที่เขาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเอี้ยวตัวปั่นด้วยซ้ายก่ะให้บอลเสียบเสา แต่เบน ฟอสเตอร์ก็พุ่งทุบเอาไว้ได้ทัน 

คาริวแทนโคเกอร์ 
อีกหนึ่งนาทีต่อมา แอสตัน วิลล่าจัดการส่งยอห์น คาริวลงไปเล่นแทนไนเจล รีโอ-โคเกอร์ที่ดูเหมือนว่าจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยอยู่ไปแล้ว รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการทำประตูให้มากขึ้นไปอีก 

งานนี้มีสองยักษ์ยืนพิงอยู่ในแดนหน้าของวิลล่า เชื่อเลยว่าจังหวะบอลโด่ง หรือตั้งเตะคงได้ลุ้นกันเยี่ยวเหนียวแน่ 

บิ๊กเบนพลาดแต่ไม่โดน 
นาทีที่ 85 เบน ฟอสเตอร์ยังรักษาฟอร์มผิดพลาดของตัวเองเอาไว้เหมือนเดิม เพราะไปอ่านจังหวะที่ทางแอสตัน วิลล่าเปิดบอลเข้ามาพลาด ออกไปสกัดช้าโดนทางคีแรน คลาร์กโขกบอลได้ก่อน แต่โชคยังดีที่บอลพุ่งไม่ตรงกรอบ 

ยังซัดชนสามเหลี่ยม 
นาทีที่ 89 แอชลี่ย์ ยังที่เงียบ ๆ มาแทบทั้งเกมเกือบที่จะทำประตูชัยในช่วงท้ายได้ จากจังหวะที่เขาลากบอลจี้เข้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะหลอกกองหลังของเบอร์มิงแฮมแล้วกดดันขวาเน้น ๆ แต่บอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมเข้าอย่างจัง 

จบ 90 นาทีแอสตัน วิลล่าเสมอกับทางเบอร์มิงแฮมไป 0-0 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แอสตัน วิลล่า : 
แบร๊ด ฟรีเดล,ริชาร์ด ดันน์,เจมส์ คอลลินส์,คีแรน คลาร์ค,ลุค ยัง,ไนเจล รีโอ-โคเกอร์(คาริว น.82),สตีฟ ซิดเวลล์(แบนนัน น.58),แอชลี่ย์ ยัง,สตีเฟ่น วอร์นอค ,สจ๊วต ดาวน์นิ่ง,เอมิล เฮสกีย์ 

เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์,สก็อตต์ แดนน์ ,โรเจอร์ จอห์นสัน,เลียม ริดจ์เวลล์,สตีเฟ่น คาร์,แบร์รี่ เฟอร์กูสัน,เคร็ก การ์ดเนอร์ ,เค็ธ ฟาเฮย์,เซบาสเตียน ลาร์สสัน,นิโกล่า ซิกิซ ,อเล็กซานเดอร์ คเล็บ(เจอโรม น.72) 


 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์